ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้รายงานผู้สอบบัญชีและรายงานการเงิน สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2566 โดยเสนอเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร มี “ความเห็นอย่างมีเงื่อนไข” พร้อมกับระบุ "เกณฑ์ในการแสดงความเห็นอย่างมีเงื่อนไข" ดังนี้
เนื่องจากผลกระทบของเรื่องดังกล่าวทำให้รายงานการเงินของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ณ วันที่ 30 กันยายน 2566 แสดงฐานะการเงินและผลการดำเนินงาน “ขัดต่อข้อเท็จจริง” อันเป็นสาระสำคัญ ซึ่งหากมีการปรับปรุงรายการให้ถูกต้อง ครบถ้วน จะมีผลต่อสินทรัพย์ และค่าใช้จ่ายในงบแสดงฐานะการเงินและงบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงินที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมีสาระสำคัญ
สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินยังพบ “รายการที่ไม่สามารถหาหลักฐานการสอบบัญชี” ที่เหมาะสมอย่างเพียงพออย่างมีสาระสำคัญต่อรายงานการเงินสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2566 มีดังนี้
“เนื่องจากผลกระทบของเรื่องดังกล่าว สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินไม่สามารถใช้วิธีการตรวจสอบอื่นใดเพื่อให้ได้หลักฐานการสอบบัญชีที่เหมาะสมอย่างเพียงพอ จึงไม่สามารถสรุปได้ว่า จำเป็นต้องปรับปรุงจำนวนเงินของรายการนี้ หรือไม่ เพียงใด ซึ่งหากจำเป็นต้องปรับปรุงจะมีผลกระทบอย่างมีสาระสำคัญต่องบแสดงฐานะการเงิน ณ วันที่ 30 กันยายน 2566 และงบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน สำหรับปีสิ้นสุดวันเดียวกันของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร”
สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ขอให้สังเกตหมายเหตุประกอบงบการเงิน “หมายเลข 2 เกณฑ์การจัดทำรายงานการเงิน” ซึ่งระบุว่า รายงานการเงินของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร “ไม่ได้รวมรายการบัญชีของเงินทุนหมุนเวียน” เพื่อให้ข้าราชการสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร “กู้ยืม” เพื่อชำระหนี้สินและ “กองทุนเพื่อผู้เคยเป็นสมาชิกรัฐสภา” ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของหน่วยงาน แต่ถือเป็นหน่วยงานที่เสนอรายงานและต้องจัดทำรายงานการเงินแยกต่างหากจากสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรตามกฎหมาย ทั้งนี้ ความเห็นของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปเนื่องจากเรื่องที่เน้นดังกล่าว
สำหรับ หมายเหตุประกอบงบการเงิน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2566 ทั้ง 3 หมายเหตุ มีรายละเอียด ดังนี้
ตามรายงานการจำหน่ายพัสดุตั้งแต่งวดปี 2556-2566 มีการจำหน่ายพัสดุที่เป็นครุภัณฑ์ ครุภัณฑ์ต่ำกว่าเกณฑ์และส่วนควบอุปกรณ์ รวมจำนวน 30,187 รายการ มีการบันทึกบัญชีการตัดจำหน่ายครุภัณฑ์ออกจากบัญชีสุทธิ จำนวน 274,594,317.08 บาท
งบการเงินงวดปี 2548 – 2551 จัดทำด้วยระบบมือแสดงรายการบัญชีทุน จำนวน 290,936,287.10 บาท เกิดจากการปิดบัญชีรายได้สูง (ต่ำ) กว่าค่าใช้จ่ายสะสม ณ วันที่ 30 กันยายน 2547 เข้าบัญชีทุนและไม่ได้บันทึกบัญชีทุนตั้งต้น
รายงานการเงินงวดปี 2552 เป็นต้นมา จัดทำจากข้อมูลในระบบ GFMIS แสดงรายการบัญชีทุน จำนวน 274,136,919.74 บาท “โดยไม่สามารถหาเอกสารประกอบรายการบันทึกบัญชีทุนตั้งต้นได้”
สินทรัพย์หมุนเวียน 32,903,153.47 บาท สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน 131,407,975.59 บาท สินทรัพย์สุทธิ 164,311,129.06 บาท
รายได้ 4,507,074.82 บาท ค่าใช้จ่าย 418,600 บาท รายได้สูงกว่ารายจ่ายสุทธิ 4,088,474.82 บาท
ข้อมูลรายการบัญชีกองทุนเพื่อผู้เคยเป็นสมาชิกรัฐสภา ที่ไม่ได้นำมารวมในรายงานการเงินของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร มีรายละเอียดดังนี้
สินทรัพย์หมุนเวียน 30,744,721.30 บาท หนี้สินหมุนเวียน 12,532.62 บาท สินทรัพย์สุทธิ 30,732,188.68 บาท
รายได้ 184,878,627.14 บาท ค่าใช้จ่าย 204,177,542.13 บาท รายได้ต่ำกว่าค่าใช้จ่าย 19,298,914.99 บาท