งานเข้า“ชัยวัฒน์”ป.ป.ช.จ่อฟันอาญาคดีก่อสร้างอาคารอุทยาน

19 ก.พ. 2567 | 06:28 น.
อัปเดตล่าสุด :19 ก.พ. 2567 | 06:46 น.

“ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร”งานเข้า ป.ป.ช.งัดคำตัดสินค้างเก่า คดีก่อสร้างอาคารที่ทำการหน่วยพิทักษ์อุทยาน โดยมิชอบด้วยกฎหมาย ชี้ผิดวินัยร้ายแรง เล็งส่งอัยการสูงสุดฟันคดีอาญา

แหล่งข่าวระดับสูงจากสำนักงานคณะกรรมการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) เปิดเผยสื่อมวลชน กรณี นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ ออกมาระบุมีการยื่นเรื่องถึง ป.ป.ช.เพื่อตรวจสอบเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการออกเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบ ที่มีการออกเอกสารสิทธิ์ ส.ป.ก. อยู่ในแนวเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ว่า เบื้องต้นยังไม่ได้รับหนังสือดังกล่าว ซึ่งอาจอยู่ระหว่างขั้นตอนธุรการตามขั้นตอนตามลำดับ หากมีข้อมูลมาถึงก็จะมีการตรวจสอบแน่นอน

ทั้งนี้ เมื่อตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังในส่วนของ นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร พบว่า ทาง ป.ป.ช.เคยได้รับเรื่องกล่าวหา นายชัยวัฒน์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี กับพวก กรณีจัดทำโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการหน่วยพิทักษ์อุทยาน (ห้วยคมกฤต) อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน โดยมิชอบด้วยกฎหมาย

คดีนี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้รับไว้พิจารณา และต่อมาคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้พิจารณารายงานการไต่สวนเบื้องต้นแล้วมีมติว่า การกระทำของ นายชัยวัฒน์ ผู้ถูกกล่าวหามีมูลเป็นความผิดทางอาญาฐานเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต

และฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ทำเอกสาร รับเอกสาร หรือ กรอกข้อความลงในเอกสาร กระทำการรับรองเป็นหลักฐานว่า ตนได้กระทำการอย่างใดขึ้น หรือว่าการอย่างใดได้กระทำต่อหน้าตนอันเป็นความเท็จและรับรองเป็นหลักฐานซึ่งข้อเท็จจริงอันเอกสารนั้น 

มุ่งพิสูจน์ความจริงอันเป็นความเท็จ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และมาตรา 162 (1) (4) ฐานตกลงร่วมกันในการเสนอราคา เพื่อวัตถุประสงค์ที่จะให้ประโยชน์แก่ผู้ใดผู้หนึ่งเป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ โดยหลีกเลี่ยงการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม หรือ โดยการกีดกันมีให้มีการเสนอสินค้าหรือบริการอื่นต่อหน่วยงานของรัฐ และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง 

จึงส่งเรื่องถึงผู้บังคับบัญชา เพื่อพิจารณาโทษทางวินัยแก่ นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร พร้อมพวก ในฐานความผิดดังกล่าว ทั้งนี้ เมื่อได้รับสำนวนการไต่สวนของคณะกรรมการ ป.ป.ช. แล้วให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาโทษตามฐานความผิดที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติ โดยไม่ต้องแต่งตั้งคณะกรรมการสอบวินัยอีก 

และสั่งลงโทษผู้ถูกกล่าวหาภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับเรื่อง รวมทั้งดำเนินการเพื่อให้มีการชดใช้ค่าเสียหายตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 ด้วย สำหรับความผิดทางอาญาได้ส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดเพื่อดำเนินคดีอาญาแก่บุคคลดังกล่าวด้วย

“ในคดีที่ทาง ป.ป.ช.ได้มีมติไปดังกล่าวไปแล้ว ทั้งเรื่องผิดวินัยร้ายแรง คงต้องไปสอบถามว่าทางผู้บังคับบัญชา ตลอดจนอัยการสูงสุดในส่วนของคดีอาญาต่อไป” แหล่งข่าวจาก ป.ป.ช. กล่าว