คณะนิติศาสตร์ปรีดี พนมยงค์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ หรือ DPU เปิดตัว “ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ” อดีตเลขาคปภ. และอดีตเลขาฯกกต. เป็น คณบดีคณะนิติศาสตร์ปรีดี พนมยงค์ คนที่ 11 ซึ่งเข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา
การเข้ามาของ ดร.สุทธิพล ท่ามกลางเทคโนโลยีมีการพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว โลกก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัล ทุกอย่างล้วนต้องปรับตัวเพื่อให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น “กฎหมาย” ก็เช่นกัน มีความท้าทายทางด้านกฎหมายมากมายจากการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีและสังคม เนื่องด้วยทุกอย่างล้วนมีกฎหมายเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยทั้งสิ้น
ด้วยประสบการณ์การทำงานของ “ดร. สุทธิพล” ผ่านร้อนผ่านหนาวทั้งในสำนักงานทนายความขนาดใหญ่ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายที่ Law Firm ชั้นนำในประเทศสหรัฐอเมริกา ข้าราชการกระทรวงพาณิชย์ผู้พิพากษาและเลขานุการศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง ผู้พิพากษาและเลขานุการศาลแพ่ง โฆษกศาลยุติธรรมคนแรก รองเลขานุการศาลฎีกา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กรรมการตรวจการแผ่นดิน (คตง.) ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และเลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)
ซึ่งมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เปิดตัวดร.สุทธิพล พร้อมกับเปิดเผยบทสัมภาษณ์พิเศษ ในมุมมอง "เมื่อโลกเปลี่ยนไปหลักสูตรการเรียนการสอนด้านนิติศาสตร์ ย่อมไม่เหมือนเดิม.."
“ดร.สุทธิพล” มุ่งมั่นจะนำประสบการณ์ที่คร่ำหวอดในแวดวง กฎหมายธุรกิจและการบริหารมาสู่การพัฒนานักศึกษานิติศาสตร์ปรีดี พนมยงค์ DPU ให้เป็นนักกฎหมายรุ่นใหม่ที่มีความเชี่ยวชาญมีความรอบรู้กฎหมายและสหวิทยาการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคม
“ดร. สุทธิพล” กล่าวว่า แม้กระบวนการร่างกฎหมายอาจจะมีข้อจำกัด เนื่องจากต้องใช้ระยะเวลานาน แต่ก็มีการพัฒนากฎหมายใหม่ๆ รองรับการเปลี่ยนแปลงและความเสี่ยงใหม่ๆ รวมทั้งเทคโนโลยีที่มี
การเปลี่ยนแปลงอย่างก้าวกระโดดทำให้การใช้ชีวิตของผู้คนแตกต่างไปจากเดิม ข้อพิพาทต่างๆ ในสังคมก็เปลี่ยนแปลงอย่างมากมาย คณะนิติศาสตร์ปรีดี พนมยงค์ DPU มีการปรับตัวและปรับวิธีการสอนอย่างต่อเนื่อง
ทั้งยังมีข้อได้เปรียบ คือ มีคณาจารย์ทั้งภายในและภายนอกที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านกฎหมายและศาสตร์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
รวมทั้งมี Facility ส่วนกลางที่ทันสมัย เช่น ระบบห้องสมุด ระบบการค้นคว้าออนไลน์และระบบเทคโนโลยีล้ำสมัย ดังนั้น DPU จึงผลิตนักกฎหมายรุ่นใหม่ที่ไม่ได้จำกัดให้รอบรู้เฉพาะตัวบทกฎหมาย แต่มุ่งผลิตนักกฎหมายที่ต้องใช้กฎหมายช่วยสนับสนุนการปฏิบัติงานในส่วนที่เกี่ยวข้อง และทำประโยชน์เพื่อสังคมด้วย“
หลักสูตรการเรียนการสอน ต้องให้นักศึกษาเข้าใจในตรรกะต่างๆ คิดและวิเคราะห์เป็น ไม่เน้นท่องจำ นักกฎหมายยุคใหม่จะมีความเชี่ยวชาญด้านตัวบทกฎหมายเพียงอย่างเดียวไม่พอ ต้องรู้รอบด้าน และต้องเขียนให้เป็น สื่อสารหรือให้ความรู้ความเข้าใจแก่ผู้อื่นได้ชัดเจน ถูกต้อง ตรงประเด็น ทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย แต่ต้องรอบคอบและรัดกุม ต้องทำงานร่วมกับผู้ที่ไม่ใช่นักกฎหมายได้ดี เพราะอาจต้องทำงานที่เกี่ยวข้องกับอาชีพอื่นๆ
ไม่ว่าจะเป็น แพทย์ ภาคธุรกิจ เทคโนโลยี การเงินการธนาคาร ล้วนเกี่ยวข้องกับกฎหมายทั้งสิ้น ฉะนั้น จึงต้องผลิตนักกฎหมายที่มีความเป็นผู้นำ (leadership skill) สามารถนำกฎหมายไปประยุกต์ใช้กับศาสตร์ต่างๆ ได้ เพราะสิ่งที่จะเจอในความเป็นจริง อาจไม่ได้อยู่ในตำรา เราจึงต้องฝึกความพร้อมให้นักศึกษาสามารถช่วยคลี่คลายปัญหาอุปสรรคต่างๆ ได้
"สิ่งที่ต้องย้ำให้อยู่ใน DNA ของนักศึกษานิติศาสตร์ฯ DPU คือ การตั้งอยู่บนหลักการของความถูกต้องโปร่งใสและยุติธรรม โดยไม่หวั่นไหวไปตามกระแสหรืออิทธิพลใดๆ” ดร.สุทธิพล กล่าว
ขณะนี้กำลังเร่งปรับปรุงหลักสูตรการเรียนการสอน สำหรับการผลิตนักศึกษากฎหมายคณะนิติศาสตร์ฯ DPU ใหม่โดยเร็ว “ดร. สุทธิพล” จะนำประสบการณ์ ความรู้ และเครือข่ายจากการทำงานในแวดวงกฎหมายและสาขาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องมาช่วยพัฒนาศักยภาพของนักศึกษา นอกเหนือจากการเพิ่มเติมทักษะที่นักกฎหมายรุ่นใหม่ ต้องมี โดยเน้นในเรื่องคุณภาพเพราะต้องการเข้าไปดูแลและติดตามให้คำปรึกษาแก่นักศึกษาอย่างใกล้ชิดและทั่วถึง
“ดร. สุทธิพล” ย้ำอีกว่า นักกฎหมายรุ่นใหม่ต้องมีความพร้อมในการปรับตัวเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ตลอดเวลา รวมถึงคณาจารย์และบุคลากรของคณะต้องอัปเดตความรู้อย่างต่อเนื่อง พร้อมต้องทำงานเชิงรุกและใกล้ชิดกับนักศึกษามากขึ้น โดยจะปรับปรุงสัดส่วนของจำนวนนักศึกษาต่ออาจารย์ที่ปรึกษาให้น้อยลงเพื่อให้คำปรึกษานักศึกษาได้อย่างทั่วถึง และปรับการเรียนการสอนโดยเชื่อมโยงกับคณาจารย์ของคณะอื่นๆ และวิทยาลัยต่างๆ ในมหาวิทยาลัย
เช่น กฎหมายเกี่ยวกับเทคโนโลยี อาจารย์ทางด้านนวัตกรรมเทคโนโลยีจะเป็นผู้เข้ามาช่วยเติมเต็มนักศึกษาในเรื่องเทคโนโลยีใหม่ๆ เป็นต้น รวมถึงการเชิญกูรูหรือนักกฎหมายที่มีประสบการณ์ในสายปฏิบัติ เช่น อาจารย์ที่บรรยายที่สำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตสภา เข้ามาสอนเพื่อเสริมการเรียนการสอนกฎหมายภาควิธีสบัญญัติให้กับนักศึกษา
“การเรียนเฉพาะในตำราอย่างเดียวอาจจะไม่เพียงพอ นักศึกษาต้องได้รับการฝึกปฏิบัติให้รู้จักวิธีการค้นคว้า ศึกษาเปรียบเทียบ ดู Best Practices จากประเทศอื่นๆ ด้วย เราจะสอนให้การเรียนกฎหมายเป็นเรื่องที่ไม่น่าเบื่อ ที่สำคัญนักกฎหมายที่ดีจะต้องมีจริยธรรม เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของโลกและเข้าใจในกลไกของกระบวนการยุติธรรมดีพอ ที่จะสามารถคุ้มครองสิทธิให้กับผู้ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม” ดร. สุทธิพล กล่าว
ปัจจุบันมีกฎหมายออกใหม่จำนวนมากและการใช้ชีวิตของผู้คนล้วนพึ่งพาเทคโนโลยี เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ChatGPT, IoT (Internet of Thing) และ Big Data ดังนั้น นักกฎหมายต้องรู้จักและเรียนรู้ที่จะใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเหล่านี้
คณบดีคณะนิติศาสตร์ปรีดี พนมยงค์ DPU กล่าวว่า นักกฎหมายยุคใหม่ต้องปรับตัวเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
ที่เกิดขึ้น การผลิตนักกฎหมาย ต้องทำให้พวกเขาได้รับรู้ถึงความเสี่ยงใหม่ๆ ว่าสามารถอุบัติขึ้นได้ตลอดเวลา
ต้องเข้าใจบริบทของสภาพแวดล้อมต่างๆ ที่เปลี่ยนไป และเข้าใจกลไกการทำงานของเทคโนโลยีในแต่ละรูปแบบเพื่อให้สามารถนำเทคโนโลยีเหล่านั้นมาใช้ให้เกิดประโยชน์
เช่น ใช้ AI ค้นหาข้อมูลทางการกฎหมายได้อย่างรวดเร็ว หรือวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ มาสนับสนุนในการตัดสินใจ โดย AI สามารถให้คำแนะนำและช่วยในการตัดสินใจทางกฎหมาย รวมทั้งการวิเคราะห์แนวโน้มของผลการตัดสินหรือการประเมินความเสี่ยงในการดำเนินคดี เป็นต้น
“DPU จะผลิตนักกฎหมายที่สามารถทำให้กฎหมายเป็นเครื่องมือที่ใช้งานได้จริง มีความชัดเจนและเท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคม เพราะนักกฎหมายยุคใหม่ต้องเป็นผู้ใช้กฎหมายได้อย่างถูกต้องและเป็นธรรมด้วย กล่าวคือ ต้องทำให้นักกฎหมายที่ออกจากรั้วนิติศาสตร์ฯ DPU สามารถใช้กฎหมายหรือศาสตร์ต่างๆ เข้ามาช่วยผ่าทางตันหรือผลักดันนโยบายต่างๆ ของหน่วยงานหรือประเทศชาติให้สามารถเดินหน้าไปได้ รวมทั้งสามารถเป็นที่พึ่งทางกฎหมายให้กับประชาชนได้รับความถูกต้องและเป็นธรรมในสังคม” ดร. สุทธิพล กล่าว
คณะนิติศาสตร์ปรีดี พนมยงค์ DPU จัดการศึกษาระดับปริญญาตรี ปริญญาโทและปริญญาเอก
ทางกฎหมาย เพื่อผลิตบัณฑิตทางด้านนิติศาสตร์มาอย่างยาวนาน ซึ่งหลักสูตรของคณะได้รับการพัฒนา
อย่างต่อเนื่องให้มีความทันสมัยและสอดคล้องต่อความต้องการของสังคม ควบคู่ไปกับการสร้างจิตสำนึกในหลักวิชาชีพกฎหมาย มีความรอบรู้รอบด้าน และมีความรับผิดชอบต่อสังคม