"พิธา–ชัยธวัช"เปิดใจเลือกตั้งครั้งหน้าเป้ากวาดส.ส. 250 อัพ

14 ม.ค. 2567 | 08:10 น.

"พิธา-ชัยธวัช" เปิดใจกับ 3 บก.เครือเนชั่น ถึงอนาคตพรรคก้าวไกล กับ 2 คดีที่อยู่ในมือศาล รธน. ใกล้ชี้ชะตาเข้ามาทุกขณะ มั่นใจคดี ม.112 ไม่โยงยุบพรรค “พิธา”ประกาศเลือกตั้งครั้งหน้าอย่างได้ส.ส.เกิน 250 ที่นั่งขึ้นไป

นายชัยธวัช ตุลาธน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะแคนดิเตดนายกฯ  ให้สัมภาษณ์พิเศษผ่านรายการ "เนชั่นสุดสัปดาห์กับ 3 บก." ดำเนินรายการโดย นายสมชาย มีเสน นายวีระศักดิ์ พงษ์อักษร และ นายบากบั่น บุญเลิศ 3 บรรณาธิการบริหารเครือเนชั่น เผยแพร่ทางเนชั่นทีวี ช่อง 22 ในเรื่องประเด็นการเมืองต่างๆ รวมทั้งทิศทางของพรรคก้าวไกล

คดีม.112 ไม่โยงยุบพรรค

พิธีกรถามว่าขอให้ช่วยประเมินคดีพิธา และ พรรคก้าวไกล เตรียมแผนสำรองอะไรไว้หรือไม่ 

นายพิธา กล่าวว่า เดือน ม.ค. มี 3 คดีสำคัญที่ศาลรัฐธรรมนูญจะนิจฉัย วันที่ 24 ม.ค. คดีถือครองหุ้นสื่อ วันที่ 31 ม.ค. คดีพรรคก้าวไกลเสนอแก้ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เป็นนโยบายหาเสียง หากศาลตัดสินออกมาเป็นคุณ จะทำหน้าที่ต่อในสภาฯ ถ้าเป็นโทษ ยังทำหน้าที่ต่อ แต่ไปทำงานนอกสภาฯ 
ที่ถามว่าหากถูกตัดสินไม่ผิด จะกลับมาเป็นหัวหน้าพรรคก้าวไกลอีกครั้งหรือไม่ แล้วแต่สมาชิกพรรคที่จะมีการประชุมใหญ่ช่วงปลายเดือน เม.ย. 

ขณะที่ นายชัยธวัช กล่าวว่า การเสนอแก้ มาตรา112 นำมาเป็นนโยบายหาเสียงที่จะมีการตัดสินวันที่ 31 ม.ค. ซึ่งผู้ร้องได้ร้องให้ยุตินำนโยบายไปหาเสียง คงไม่เกี่ยวกับการยุบพรรค แย่ที่สุดศาลรัฐธรรมนูญ คงขอให้หยุดการกระทำ 

ก่อนการเลือกตั้ง 14 พ.ค. 2566 พรรคได้นำเสนอนโยบายที่จะหาเสียงส่งไปให้ กกต.ตรวจสอบแล้ว มีผู้ไม่เห็นด้วยยื่นคัดค้าน กกต.ได้ยกคำร้องไปแล้ว

"พรรคไม่ได้มีเจตนาล้มล้าง หรือเปลี่ยนรูปแบบการปกครอง พรรคก้าวไกลอาจถูกมองเป็นภัยความมั่นคงของรัฐ สิ่งที่พรรคพยายามทำเรื่องละเอียดอ่อนให้เป็นเรื่องปกติมากขึ้น

การเสนอ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม แม้จะมีเสียงคัดค้าน ไม่อยากให้มีเรื่องนิรโทษผู้ทำความผิด มาตรา 112 พรรคพยายามหาข้อสรุปร่วม คุยกับทุกพรรค คุยกับฝ่ายความมั่นคง เพื่อนำมาสู่ข้อสรุปร่วมกันให้ทุกฝ่ายยอมรับได้ จากนั้นจึงนำไปเสนอในสภาฯ

                               พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และ ชัยธวัช ตุลาธน ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ 3 บก.เครือเนชั่น

เลือกตั้งครั้งหน้าเป้า ส.ส. 250 อัพ

ทั้งนี้ นายพิธา ยังกล่าวถึงการวางยุทธศาสตร์การเลือกตั้งครั้งหน้าว่า เลือกตั้งครั้งหน้า ก็อยากจะชนะเพื่อให้ได้ ส.ส. มากที่สุด ส่วนตัวก็อยากได้เกิน 250 เสียงขึ้นไป

ส่วน นายชัยธวัช กล่าว พรรคก้าวไกลต้องแข่งกับตัวเอง ทำให้เป็นพรรคที่ประชาชนเชื่อมั่น ไว้วางใจ ต้องทำงานตั้งแต่วันนี้ 
ผลการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พ.ค. 2566 มีกว่า 60 เขต ที่แพ้ไม่ถึง 1 หมื่นคะแนน เกือบ 140 เขต แม้จะแพ้ในระบบเขต แต่คะแนนทางพรรคชนะ 

สำหรับเขตที่ชนะเลือกตั้ง ยิ่งต้องทำงานให้ประชาชนเห็นว่าพร้อมบริหารประเทศ ส่วนจะถึงขั้นชนะสงครามหรือไม่ ต้องดูปัจจัยอื่นประกอบ แต่ในการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว ยอมรับว่า ปัจจัยเรื่อง ส.ว. กับ ทักษิณ ชินวัตร กลับบ้าน ก็มีผล 

เมื่อถามว่าพรรคก้าวไกลยังจับมือกับพรรคเพื่อไทยได้หรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ไม่ได้ดูชื่อพรรค แต่ดูว่านโยบายตรงกันหรือไม่ เอานโยบายกับเอาเจตนารมณ์เป็นตัวตั้ง รัฐบาลจะอยู่ครบวาระ 2570 หรือไม่ คงอยู่ที่ความสามารถรัฐบาล ผลงานรัฐบาลครบ 100 วัน มีทั้งเรื่องที่ทำดีและต้องปรับปรุง 

ขณะเดียวกันในปี 2567 มีหลายปัจจัยทั้งเรื่องเศรษฐกิจโลก ปัจจัยประเทศต่างๆ ที่รัฐบาลต้องมีความเข้มข้นทางการบริหารมากขึ้น 

“ทักษิณ-ก้าวไกล”ไม่มีดีลพิเศษ

ส่วนกรณี นายทักษิณ ชินวัตร ที่พรรคก้าวไกลถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าชกไม่เต็มหมัดนั้น นายชัยธวัช ตอบว่า  กรณีนายทักษิณ ยังประเมินยากว่า จะลุกลาม กลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวหรือไม่ จะมีกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ ประเด็นสำคัญ คือ ตั้งแต่ปี 2549 ฝ่ายประชาธิปไตย ต่อสู้เรื่อง 2 มาตรฐานมาโดยตลอด น่าเสียดายถ้าบทสรุปสุดท้าย จะมายอมรับ

"เราไม่ได้กระเหี้ยนกระหือรืออยากจะให้ คุณทักษิณ ไปอยู่ในคุก เพียงแต่อยากเห็นการคืนความยุติธรรมสำหรับคนทุกคน เรื่องการคุ้มครองให้สิทธิรักษาพยาบาล เป็นเรื่องที่ดี แต่เป็นเช่นนี้ทุกคนหรือไม่ 

เท่าที่ทราบ การส่งผู้ถูกคุมขังไปรักษาโรงพยาบาลนอกเรือนจำ มี 3 ราย 2 ราย เป็นผู้ป่วยจิตเวช อีกราย อยู่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ที่วันนี้ไม่ทราบอาการ เราต้องการสิทธิรักษาพยาบาลที่ทุกคนเท่ากัน ไม่ได้กระเหี้ยนกระหือรืออยากให้คุณทักษิณ ต้องไปติดคุก 

เป้าหมายพรรคก้าวไกลคือ กระบวนการยุติธรรมเสมอภาค เท่าเทียม และการคืนความยุติธรรมให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบ เรื่องทักษิณกับพรรคก้าวไกลก็ไม่ได้มีดีลพิเศษ" นายชัยธวัช ระบุ

                          พิธา ลิ้มเจริญรัตน์

ย้ำเป็นฝ่ายค้านสร้างสรรค์

 เมื่อถามถึงการทำงานร่วมกับพรรคร่วมฝ่ายค้าน นายชัยธวัช กล่าวว่า ในวันที่ 18 ม.ค. จะมีการหารือร่วมกัน มีหลายเรื่องที่มีจุดร่วมร่วมกัน จะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลหรือไม่ ต้องหารือในพรรคร่วมฝ่ายค้าน 

“แม้พรรคก้าวไกล เป็นฝ่ายค้าน อาจจะผลักดันเรื่องอะไรต่างๆ ได้ยาก จะทำงานตาม KPI ตามเสียงประชาชน สังคมด้วย เรื่องอะไรที่ไม่น่าเป็นไปได้ จะผลักดัน ไม่ว่าจะเป็นสมรสเท่าเทียม สุราก้าวหน้า เช่นเดียวกับเรื่องนิรโทษกรรม”

ทั้งนี้ การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ประชาชนมอบความไว้วางใจ ถือเป็นความรับผิดชอบที่ต้องทำ เพื่อตอบสนองความคาดหวังประชาชนให้ได้ โดยจะเป็นฝ่ายค้าน เป็นพรรคที่ มีคุณภาพ ตรงไปตรงมา สร้างสรรค์ มี ส.ส.มีคุณภาพ ครบถ้วนด้วยเนื้อหา ตรงไปตรงมา ก็เป็นฝ่ายค้านจริงๆ ไม่ใช่เล่นใหญ่ว่าค้าน ลับหลังไปต่อรอง สร้างสรรค์ เป็นฝ่ายค้าน ไม่ได้เอาแต่จ้องล้มรัฐบาล อะไรผลักดันด้วยกันได้ ผ่านกลไกลนิติบัญญัติ ผ่านสภาฯ จะร่วมผลักดัน เป็น 3 หลักการของพรรคก้าวไกล 

ด้าน นายพิธา กล่าวเสริมว่า ขอให้ประชาชนมั่นใจระบอบประชาธิปไตย พรรคก้าวไกลจะเป็นตัวแทนประชาชนในการทำงานเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ตั้งใจทำงานทั้งในสภา นอกสภาอย่างเต็มที่ ขอให้เชื่อมั่นในการทำงานของก้าวไกล