อสส. ส่งสำนวนฟ้องคดี "กำนันนก" จ้างวานฆ่า "สารวัตรแบงค์" 

16 พ.ย. 2566 | 04:25 น.

อัยการสูงสุด เผย เตรียมส่งสำนวนฟ้องคดี ประวีณ จันทร์คล้าย หรือ "กำนันนก" ฐานจ้างวานฆ่า "สารวัตรแบงค์" ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในงาน ผิด ม.157

สำนักงานคดีอาญาและสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต สำนักงานอัยการสูงสุด รับสำนวนคดีจากกองบังคับการปราบปราม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 
คดีกล่าวหานายประวีณ จันทร์คล้าย หรือกำนันนก และสำนวนคดีกล่าวหาเจ้าหน้าที่ตำรวจรวม 21 นาย

สำนักงานอัยการสูงสุด นำโดย นายปรีชา สุดสงวน อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญา นายสุรพันธ์ กิจพ่อค้า อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต นายประยุทธ เพชรคุณ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ และโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด พร้อมด้วยนายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ นายณรงค์ ศรีระสันต์ และนายนาเคนทร์ ทองไพรวัลย์ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ได้ร่วมกันรับสำนวนการสอบสวนจาก พ.ต.อ. เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม สำนักงานตำรวจแห่งชาติและคณะ รวมสองสำนวนคดี

ทั้งสองคดีดังกล่าว สืบเนื่องจากกรณี พ.ต.ต. ศิวกร สายบัว หรือสารวัตรศิวะ เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวงถูก นายธนัญชัย หมั่นมาก หรือหน่อง ใช้อาวุธปืนยิงถึงแก่ความตายขณะอยู่ในงานเลี้ยงภายในบริเวณบ้านพักของ นายประวีณ จันทร์คล้าย หรือกำนันนก โดยเหตุเกิดต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ในงานเลี้ยงเป็นจำนวนมาก เมื่อคืนวันที่ 6 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา โดยทั้งสองสำนวนมีข้อเท็จจริงที่จะแถลงให้สื่อมวลชนทราบในเบื้องต้น ดังนี้

1. สำนวนคดีอาญาที่ 24/2566 มีผู้ต้องหาจำนวน 2 คน คือ

1.1 นายธนัญชัย หรือ หน่อง หมั่นมาก ผู้ต้องหาที่ 1 (ถูกวิสามัญถึงแก่ความตาย) ถูกกล่าวหาว่า ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พยายามฆ่าผู้อื่น มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และยิงปืนโดยใช่เหตุในเมืองหมู่บ้านหรือที่ชุมชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 60 80, 288, 371, พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 มาตรา 4, 7, 8, 8 ทวิ, 72, 72 ทวิ

1.2 นายประวีณ หรือ กำนันนก จันทร์คล้าย ผู้ต้องหาที่ 2 ถูกกล่าวหาว่า เป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นและพยายามฆ่าผู้อื่น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 60, 84, 288 และนายประวีณหรือกำนันนก จันทร์คล้าย ผู้ต้องหาที่ 2 ยังถูกกล่าวหาในสำนวนคดีอาญาที่ 25/2566 ซึ่งส่งสำนวนพร้อมกันในวันนี้ (เป็นผู้ต้องหาที่ 27) ในข้อหาเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานของรัฐ ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยไม่ชอบ

ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86, 157, พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172 ชั้นสอบสวน ผู้ต้องหาที่ 1 ถึงแก่ความตาย ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาสำหรับนายประวีณ หรือ กำนันนก จันทร์คล้าย ผู้ต้องหาที่ 2 ชั้นสอบสวน พนักงานสอบสวนได้ฝากขังไว้ที่ศาลอาญา จะครบกำหนดฝากขังครั้งที่ 6 ในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2566

2.สำนวนคดีอาญาที่ 25/2566 ซึ่งกล่าวหาเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์ขณะที่มีการยิง พ.ต.ต. ศิวกร สายบัว รวมทั้งมีการกล่าวหาพลเรือนรวมทั้งกำนันนกหรือนายประวีณ จันทร์คล้าย (ผู้ต้องหาที่ 27 ในคดีนี้) โดยคดีนี้มีผู้ต้องหารวม 28 คน ดังนี้

2.1 พ.ต.ต. เกียรติศักดิ์ สมสุข ผู้ต้องหาที่ 1 ถูกกล่าวหาว่า

  • เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
  • เป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระทำผิดฐานทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสียทำให้สูญหายหรือทำให้เสียหาย ไร้ประโยชน์ ซึ่งพยานหลักฐานในการกระทำผิดเพื่อช่วยเหลือผู้อื่นไม่ให้ต้องรับโทษหรือรับโทษน้อยลง
  • เป็นเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญากระทำหรือไม่กระทำการใด ๆ ในตำแหน่งอันเป็นการมิชอบเพื่อช่วยเหลือผู้อื่นให้ได้รับโทษหรือรับโทษน้อยลง
  • เป็นพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติติอย่างใดในตำแหน่งโดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต

ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 84, 157, 184, 200, พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172

2.2 ร.ต.ต. ประสาร รอดผล ผู้ต้องหาที่ 2 และ ร.ต.ท. สรรเสริญ ศรีสวัสดิ์ ผู้ต้องหาที่ 6 ถูกกล่าวหาว่า

  • เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
  • เป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นทำผิดฐานทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น ซึ่งพยานหลักฐานในการกระทำความผิดเพื่อจะช่วยเหลือให้ผู้อื่นไม่ต้องรับโทษหรือรับโทษน้อยลง
  • ช่วยผู้อื่นซึ่งเป็นผู้กระทำผิดหรือผู้ต้องหาว่ากระทำความผิด อันมิใช่ความผิดลหุโทษเพื่อไม่ให้ต้องโทษโดยให้ที่พำนักหรือซ่อนเร้นหรือช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อไม่ให้ถูกจับกุม
  • เป็นเจ้าพนักงานมีอำนาจสืบสวนคดีอาญากระทำการหรือไม่กระทำการใดใดในตำแหน่งอันเป็นการมิชอบ

ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 84, 157, 184, 189, พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172

2.3 ร.ต.ท.นิมิตร สลิตกุล ผู้ต้องหาที่ 3 ถูกกล่าวหาว่า

  • เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
  • ช่วยผู้อื่นซึ่งเป็นผู้กระทำผิดหรือต้องหาว่ากระทำผิดอันมิใช่ความผิดลหุโทษเพื่อไม่ให้ต้องโทษโดยให้ที่พำนักแก่ผู้นั้นเพื่อไม่ให้ถูกจับกุม
  • เป็นเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญา กระทำหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งอันเป็นการมิชอบเพื่อไม่ให้ได้รับโทษหรือได้รับโทษน้อยลง
  • เป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติติอย่างใด ในตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบ

ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157, 189, 200 พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172

2.4 ร้อยตำรวจโท ณรงค์ศักดิ์ แตงอำไพ ผู้ต้องหาที่ 4

ร้อยตำรวจเอก ณัฏฐพล นาคกร ผู้ต้องหาที่ 5

พันตำรวจเอก กฤษฎาพร จงอักษร ผู้ต้องหาที่ 7

จ่าสิบตำรวจ พิสิฐ ชิวปรีชา ผู้ต้องหาที่ 8

ร้อยตำรวจเอก จตุรวิทย์ ชวาลเกียรติธนา ผู้ต้องหาที่ 9

พันตำรวจโท ภทร วรญาวิสุทธิ์ ผู้ต้องหาที่ 10

ร้อยตำรวจเอก ประสมมาศ แสงสุขดี ผู้ต้องหาที่ 11

สิบตำรวจตรี สุทธิกานต์ แซ่ฮ้อ ผู้ต้องหาที่ 12

สิบตำรวจตรี สรรเสริญ ศรีอุบล ผู้ต้องหาที่ 13

สิบตำรวจตรี ธนทัต ท่าน้ำตื้น ผู้ต้องหาที่ 14

พันตำรวจเอก ภาณุทัต เหลืองสัจจกุล ผู้ต้องหาที่ 15

ร้อยตำรวจเอก นุชิต บรรณชัย ผู้ต้องหาที่ 16

ดาบตำรวจ ถนอมศักดิ์ มีศรี ผู้ต้องหาที่ 17

จ่าสิบตำรวจ อภิรักษ์ โรจน์พวง ผู้ต้องหาที่ 18

ร้อยตำรวจเอก ศิริชัย รูปสวย ผู้ต้องหาที่ 19

ร้อยตำรวจโท มนัต จันทร์มีทรัพย์ ผู้ต้องหาที่ 20

ร้อยตำรวจโท สมโชค บัวไชย ผู้ต้องหาที่ 21 ถูกกล่าวหาว่า

  • เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
  • เป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งโดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด 

ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172 

นายสนทยา สุดแน่น  ผู้ต้องหาที่ 22

นายฐิตินันท์ อินทร์ต้นวงศ์ ผู้ต้องหาที่ 23

นายนิวัฒน์ชัย ปั้นดา ผู้ต้องหาที่ 24

นายกฤษดา เหล่งดอนไพร ผู้ต้องหาที่ 25

นายชาตรี เขียวทับ ผู้ต้องหาที่ 26

ถูกกล่าวหาว่า 

  • เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ 
  • เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานของรัฐ ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
  • เพื่อจะช่วยเหลือผู้อื่นไม่ให้รับโทษหรือรับโทษน้อยลง ร่วมกันทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหาย ซึ่งพยานหลักฐานในการกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 86, 157, 184 และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172

2.6 นายปวีณ หรือกำนันนก จันทร์คล้าย ผู้ต้องหาที่ 27 ถูกกล่าวหาว่า 

  • เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติโดยมิชอบ 
  • เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด

ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 86, 157 และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172

2.7 นายอาทิตย์ เก้าลิ้ม ผู้ต้องหาที่ 28 ถูกกล่าวหาว่า

  • เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
  • เป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระทำผิดฐานทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหาย หรือไร้ประโยชน์ ซึ่งพยานหลักฐานในการกระทำความผิดหรือผู้ต้องหาว่ากระทำความผิด อันไม่ใช่ความผิดลหุโทษ เพื่อไม่ให้ต้องโทษโดยให้ที่พำนัก ซ่อนเร้น ช่วยเหลือด้วยประการใด ๆ เพื่อไม่ให้ถูกจับกุม
  • เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด

ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 84, 86, 157, 184, 189 และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172 ชั้นสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 28 คน ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ผู้ต้องหาที่ 1 ถึงผู้ต้องหาที่ 6 ฝากขังตามหมายขังของศาลอาญา ครบฝากขังครั้งที่ 6 ในวันที่ 21 พฤศจิกายน 2566

ส่วนนายประวีณ หรือ กำนันนก จันทร์คล้าย ผู้ต้องหาที่ 27 ถูกฝากขังตามหมายขังของศาลอาญา ในคดีที่ 24/2566 ซึ่งครบฝากขังครั้งที่ 6 ในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2566 

ส่วนผู้ต้องหาที่เหลือได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นสอบสวน ซึ่งพนักงานสอบสวนได้นำตัวมาส่งให้พนักงานอัยการในวันนี้ โดยสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต นัดมาฟังคำสั่งในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2566 เวลา 09.00 น.

ด้วยคดีนี้เป็นคดีสำคัญ สำนักงานคดีอาญา และสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต ได้รายงานให้อัยการสูงสุดทราบและเนื่องด้วยสื่อมวลชนและประชาชนให้ความสนใจในการติดตามความคืบหน้าคดีนี้อย่างต่อเนื่องเพราะการก่อเหตุในครั้งนี้ เป็นการกระทำที่อุกอาจผู้เสียชีวิตเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเกิดเหตุต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นจำนวนมาก

ถือเป็นคดีสำคัญตามระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุดซึ่งพนักงานอัยการที่รับผิดชอบภายใต้การควบคุมของอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญา และอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต จะเร่งรัดการตรวจสำนวนด้วยความละเอียด รอบคอบและรวดเร็ว เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยผลคืบหน้าทางคดี สำนักงานอัยการสูงสุดจะแถลงให้ทราบต่อไป

อสส. ส่งสำนวนฟ้องคดี \"กำนันนก\" จ้างวานฆ่า \"สารวัตรแบงค์\" 

อสส. ส่งสำนวนฟ้องคดี \"กำนันนก\" จ้างวานฆ่า \"สารวัตรแบงค์\"   

อสส. ส่งสำนวนฟ้องคดี \"กำนันนก\" จ้างวานฆ่า \"สารวัตรแบงค์\"  อสส. ส่งสำนวนฟ้องคดี \"กำนันนก\" จ้างวานฆ่า \"สารวัตรแบงค์\"