ปชป.ตั้ง“เฉลิมชัย”รักษาการหัวหน้าพรรค เลือกผู้นำใหม่ภายใน 9 ธ.ค.นี้

14 พ.ย. 2566 | 12:18 น.

โฆษก ปชป.แถลงผลประชุม กก.บห. ตั้ง “เฉลิมชัย ศรีอ่อน” รักษาการหัวหน้าพรรค จ่อเลือกหัวหน้าใหม่ภายใน 9 ธ.ค.นี้ ย้ำไม่ให้โยงยุบพรรค เพราะเป็นคนละเรื่อง

วันนี้(14 พ.ย. 66) ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงผลการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ชุดรักษาการครั้งที่ 9 ว่า เนื่องจากนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รักษาการหัวหน้าพรรคได้ลาออก ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค มีคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ทำหน้าที่เป็นประธานในที่ประชุม โดยคณะกรรมการบริหารพรรคได้มีมติมอบหมายให้ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ปฏิบัติหน้าที่รักษาการหัวหน้าพรรค ตามข้อบังคับพรรคเพื่อดำเนินการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคตามกฎหมายและข้อบังคับพรรคต่อไป

ส่วนการกำหนดวัน เวลา สถานที่ องค์ประชุม ในการประชุมใหญ่เพื่อเลือกหัวหน้าพรรค ที่ประชุมได้มอบให้คณะทำงานไปพิจารณาในรายละเอียด ซึ่งจะไปยกร่างระเบียบเพื่อกำหนดองค์ประชุมเพิ่มเติม และกำหนดวัน เวลา สถานที่ เพื่อนำเสนอ กก.บห. ต่อไป 


ทั้งนี้ ที่ประชุม กก.บห. ได้กำหนดกรอบระยะเวลาไว้คือ ต้องจัดให้มีการประชุมภายในวันที่ 9 ธันวาคม 2566 ซึ่งรายละเอียดความชัดเจนหลังจากนี้จะได้แถลงให้ทราบต่อไป

นายราเมศ กล่าวต่อว่า กรรมการบริหารพรรคที่มาประชุมได้กล่าวถึงนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ที่ได้ลาออกว่า เป็นการเสียสละ เพื่อให้การจัดประชุมใหญ่วิสามัญได้ดำเนินการต่อไปได้อย่างราบรื่น โดยไม่มีข้อสงสัยในเรื่องข้อกฎหมาย ทั้งๆ ที่ รัฐธรรมนูญ กฎหมาย และข้อบังคับพรรค ได้ระบุชัดให้ทำหน้าที่รักษาการหัวหน้าพรรค 

ส่วนที่มีเอกสารฐานข้อมูลของกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมืองได้มีชื่อ นายนราพัฒน์ แก้วทอง เป็นรักษาการหัวหน้าพรรค เชื่อว่าเป็นข้อมูลที่คลาดเคลื่อน ซึ่งต่อมาก็มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงแล้ว และพรรคก็ได้ทำหนังสือแจ้งนายทะเบียนพรรคการเมือง ทราบถึงรายละเอียดการปฏิบัติหน้าที่ของรักษาการคณะกรรมการบริหารพรรคทั้งคณะ และนายทะเบียนพรรคการเมืองก็ทราบแล้ว

นายราเมศ ยังได้ตอบคำถามที่สื่อมวลชนสอบถามว่า หากการประชุมครั้งต่อไป ไม่สามารถประชุมเลือกหัวหน้าพรรคได้ จะไปถึงขั้นยุบพรรคหรือไม่ว่า ในกรณีนี้ต้องย้ำว่า การประชุมวิสามัญเป็นการกำหนดการประชุมในเรื่องที่สำคัญและจำเป็นต้องทำ จะรอไปถึงการจัดประชุมสามัญไม่ได้ ตนไม่อยากให้โยงไปถึงประเด็นการยุบพรรค เรื่องนี้เป็นกระบวนการภายใน 

ที่สำคัญการจัดประชุมใหญ่สามัญที่เป็นทางการตามที่กฎหมายกำหนดว่า ต้องจัดขึ้นปีละหนึ่งครั้งภายในเดือนเมษายนของทุกปี และปี 2567 ก็ยังมาไม่ถึง จึงไม่อยากให้เรื่องไปไกลถึงขั้นยุบพรรค เพราะไม่มีเหตุใดที่จะนำไปสู่การยุบพรรค และตนก็มั่นใจว่า การประชุมใหญ่วิสามัญเพื่อเลือกหัวหน้าพรรคที่จะถึงนี้ จะเป็นไปอย่างราบรื่นไม่มีอะไรน่ากังวล