“ประพันธุ์”ชี้คดีพันธมิตรปิดล้อมรัฐสภาควรต้องถึงที่สุดแล้ว

02 พ.ย. 2566 | 11:00 น.
อัปเดตล่าสุด :02 พ.ย. 2566 | 11:03 น.

“ประพันธุ์ คูณมี”อดีตแกนนำพันธมิตร ชี้หลังศาลอุทธรณ์ยกฟ้องพันธมิตรปิดล้อมรัฐสภา ปี 51 คดีควรจะต้องถึงที่สุดแล้ว หากยื่นฎีกาต้องร้องอัยการสูงสุด

วันนี้ (2 พ.ย. 66) นายประพันธุ์ คูณมี สมาชิกวุฒิสภา หนึ่งในจำเลยในคดีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ปิดล้อมสภาฯ ปี 2551 เปิดเผยหลังศาลอุทธรณ์ อ่านคำพิพากษาว่า การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตร ในวันที่ 7 ต.ค. 2551 นั้น ศาลอุทธรณ์เห็นว่า เหตุการณ์ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นนั้น มาจากการที่ตำรวจใช้กำลัง และแก๊สน้ำตาสลายการชุมนุม 

โดยที่ผู้ชุมนุมไม่ทันตั้งตัว และไม่ได้เตรียมการมาเพื่อก่อเหตุความรุนแรง ซึ่งก่อนเกิดเหตุนั้นการชุมนุมก็เป็นไปด้วยความสงบ ไม่ได้เกิดความวุ่นวายแต่อย่างใด อีกทั้ง การสลายการชุมนุมไม่ได้เป็นไปตามขั้นตอน คือ ไม่ได้มีการประกาศเตือน เจรจา หรือ ใช้รถน้ำ

ส่วนทางโจทก์จะมีการยื่นฎีกาต่อหรือไม่นั้น ตนเห็นว่า 2 ศาลยกฟ้องแล้วคดีควรจะต้องถึงที่สุดแล้ว แต่มีหนึ่งในผู้พิพากษาที่อยู่ในองค์คณะทำความเห็นแย้ง ก็อาจเป็นข้ออ้างให้พนักงานอัยการยื่นฎีกาได้ ซึ่งจะต้องขอความเป็นธรรมไปยังอัยการสูงสุด(อสส.) เพื่อขอให้พนักงานอัยการไม่ยื่นฎีกา

ส่วนจุดยืนทางการเมืองของกลุ่มพันธมิตรจากนี้นั้น นายประพันธุ์ กล่าวว่า ปัจจุบันแกนนำก็ได้สลายตัวกันไปหมดแล้ว การชุมนุมทางการเมืองที่จะมีขึ้นในอนาคตนั้น เป็นเรื่องของกลุ่มอื่น ไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มพันธมิตรเพื่อประชาชนและประชาธิปไตยแต่อย่างใด เพราะที่ผ่านมา ได้ทำหน้าที่เพื่อประเทศชาติบ้านเมืองมามากพอแล้ว

ทั้งนี้ ศาลอุทธรณ์ได้พิพากษายกฟ้องคดี ที่อัยการเป็นโจทย์ยื่นฟ้องแกนนำพันธมิตร ขับไล่ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ออกจากตำแหน่ง ขวางประชุมสภาแถลงนโยบายของ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ โดยศาลชี้ว่าเป็นการประชุมโดยสงบ ปราศจากอาวุธ ตามหลัก อหิงสา ตามสิทธิรัฐธรรมนูญ 2550