“ก้าวไกล”จัดหนัก 30 ขุนพลซักฟอกนโยบายเศรษฐา 1

07 ก.ย. 2566 | 10:54 น.

"พรรคก้าวไกล”จัด 30 ขุนพลเตรียมซักฟอกนโยบายรัฐบาล “เศรษฐา 1” 11-12 ก.ย.นี้ เรียกน้ำย่อย ฉะยืมรัฐวิสาหกิจแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ทำลายวินัยการเงินการคลัง เล็งทวงถามนโยบายที่เคยหาเสียงไว้

หลังวิป 3 ฝ่าย เคาะวันอภิปรายนโยบาย “รัฐบาลเศรษฐา 1” เป็นวันที่  11-12 ก.ย.นี้  มีความเคลื่อนไหวคึกคักจากพรรคก้าวไกล นำทีมโดยรมต.เงากระทรวงคลัง “ศิริกัญญา” เตรียมจัดหนัก 14 ชม. จากเวลาทั้งหมด  30 ชั่วโมง  

ซักฟอกนโยบาย 11-12 ก.ย.นี้

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เปิดเผยหลังการหารือกับคณะกรรมการประสานงานร่วม 3 ฝ่าย (วิป 3 ฝ่าย) เพื่อวางกรอบเวลาการอภิปรายการแถลงนโยบายของรัฐบาล ต่อที่ประชุมรัฐสภา ว่า การประชุมเพื่อแถลงนโยบายรัฐบาล จะมีขึ้นในวันที่ 11-12 ก.ย. 2566 ใช้เวลา 2 วัน รวมทั้งสิ้น 30 ชั่วโมงโดยแบ่งเป็น ประธานรัฐสภา 1 ชั่วโมง ครม.แถลง และชี้แจง 5 ชั่วโมง ส.ว. 5 ชั่วโมง รัฐบาล 5 ชั่วโมง และ ฝ่ายค้าน 14 ชั่วโมง 

ขณะที่ นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ฐานะประธานวิปส.ส.พรรคก้าวไกล เปิดเผยว่า พรรคก้าวไกลเตรียมหารือกับพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) เรื่องการจัดสรรเวลาอีกครั้ง 

อย่างไรก็ดี ในการอภิปรายนโยบาย พรรคก้าวไกลไม่ต้องการฟาดฟันฝ่ายใด การแถลงนโยบายเป็นวาระที่สำคัญ เพราะรัฐบาลจะให้คำสัญญากับประชาชน ว่าจะผลักดันประเทศไทยไปข้างหน้าในด้านต่างๆ เช่น เศรษฐกิจ สังคม การเมือง อย่างไรใน 4 ปีข้างหน้า 

 

ทั้งนี้ ได้มีการเตรียมคนอภิปรายไว้เรียบร้อยแล้ว ดังนั้น สิ่งที่พรรคก้าวไกลจะทำคือ ทวงถามคำสัญญาที่พรรคร่วมรัฐบาลที่ให้ไว้ก่อนการเลือกตั้ง  และมองว่า สิ่งที่จะเกิดประโยชน์กับประชาชน คือ รัฐบาลต้องตอบคำถามของพรรคร่วมฝ่ายค้านให้ชัดเจน ทั้งนี้เพื่อเรียกความเชื่อมั่นของสังคมและประชาชนในการเริ่มต้นรัฐบาล

สำหรับประเด็นเศรษฐกิจ เงินดิจิทัล 10,000 บาทนั้น จะมีทีมของ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นผู้พิจารณา นอกจากนั้นจะมีประเด็นหลักๆ เช่น การแก้ไขรัฐธรรมนูญ เรื่องสมรสเท่าเทียม สุราก้าวหน้า การยกเลิกเกณฑ์ทหาร  
                                   “ก้าวไกล”จัดหนัก 30 ขุนพลซักฟอกนโยบายเศรษฐา 1

ก้าวไกลจัดขุนพลถล่มทุกเรื่อง

ขณะที่ความเคลื่อนไหวของพรรคฝ่ายค้าน โดยเฉพาะพรรคก้าวไกล (กก.) ประกาศเตรียมขุนพลไว้อภิปรายเต็มที่ โดย น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็น 1 ในผู้อภิปรายนโยบายรัฐบาล ประกาศพรรคก้าวไกลเตรียมจัดหนักทุกนโยบายของรัฐบาล จัดหนักแบบพิเศษหมด เนื่องจากพออ่านตัวแถลงนโยบาย ก็เกิดคำถามขึ้นมามาก  อาทิ ประการแรก จะพาประเทศไปทางไหนกันแน่ ไม่มีการตั้งเป้าหมายอะไรชัดเจน 

สอง นโยบายที่เคยหาเสียงเอาไว้ ยังไม่เห็นมาปรากฏในการแถลงนโยบาย ใช้คำกว้างใช้คำลอยๆ รับรองพรรคก้าวไกลจัดหนักในเรื่องที่จะต้องทวงถามสัญญาแน่นอน 

และ สาม ยังมีอีกหลายนโยบายที่อาจจะเคยหาซื้อ หรือ ไม่เคยหาเสียงก็ดี แต่เป็นความจำเป็นเร่งด่วนของประเทศที่จะต้องเสนอให้รัฐบาลใหม่ นำไปทำด้วย 
 

"เตรียมจัดหนัก จัดเต็มในทุกๆ เรื่อง" รวมถึงความถนัดและประชาชนอาจจะเฝ้ารอคาดหวัง คือ การปฏิรูปกองทัพ รัฐธรรมนูญ ความมั่นคงต่างๆ รับรองมาเต็มแน่นอน แต่ว่ารอบนี้เรื่องเศรษฐกิจ ก็อาจจะเป็นเรื่องใหญ่ที่ประชาชน เฝ้าคอยอยู่ว่ารัฐบาลจะทำอะไร เราก็จะมีอีกชุดหนึ่งเพิ่มด้วย

ฉะที่มาแจกดิจิทัล 1 หมื่นบาท 

ทั้งนี้ น.ส.ศิริกัญญา ยังได้ระบุถึงกรณีรัฐบาลจะจ่ายเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท ผ่านแอปเป๋าตัง และใช้วิธียืมเงินรัฐวิสาหกิจ 5 แสนล้านว่า “ใช้เป๋าตังทำได้เร็วกว่า เหมาะกับการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ถ้าจะยืมเงินรัฐวิสาหกิจ 5 แสนล้าน กรอบวินัยการเงินการคลังตามกฎหมายให้ยืมได้แค่ 32% ของงบ (1.1 ล้านล้านบาท) และตอนนี้เกือบเต็มแล้ว ต้องขยายเพดานเป็น 45% ของงบเลยนะคะ

“ประเดิมงานแรกของนายกฯ ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ ด้วยการทลายกรอบวินัยการเงินการคลัง โครงการที่กู้ยืมเงินรัฐวิสาหกิจยังมีปัญหาอีกอย่างคือ ไม่อยู่ในงบประมาณ = ไม่ต้องผ่านสภา ไม่ต้องโดนสภาตรวจสอบตอนอนุมัติงบ”

แซะนายกฯ“อย่าว้าวุ่น”

ขณะที่ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ฝากถึงรัฐบาลว่า ขอให้นายเศรษฐา ทวีสิน ที่ได้เป็นนายกฯ ครั้งแรก อย่าเพิ่งว้าวุ่น ขอให้เริ่มต้นแบบสบายๆ ด้วยความมั่นใจ อย่าเริ่มที่ความกกลัว หรือ ความกังวล ส่วน ส.ส.พรรคเพื่อไทยนั้น ในฐานะที่เคยเป็นพรรคร่วมฝ่ายค้านมาด้วยกัน ตนไม่ขอทวงถามต่อการให้ความสำคัญ ถึงการตอบคำถาม เพราะเชื่อว่ามีความบอบช้ำมาแล้วในรัฐบาลชุดที่ผ่านมา

“เราอภิปรายตามเนื้อหาอยู่แล้ว อย่าเพิ่งกลัวเลย นายเศรษฐา เพิ่งจะเป็นนายกฯ ครั้งแรก และเพิ่งจะมาร่วมกับลุงด้วย ทีนี้ก็เลยว้าวุ่นเลย อย่าว้าวุ่นนะครับ มีสมาธิดีกว่า แล้วเดี๋ยวเจอกันวันที่ 11 ก.ย.นี้”

วาง 30 ขุนพลถล่มนโยบาย

นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ในส่วนของพรรคก้าวไกลได้จัดผู้อภิปรายไว้ทั้งสิ้น 30 คน โดยจะไม่ได้เน้นที่ด้านใดด้านหนึ่ง แต่จะครบทุกมิติ 
 

“ค่อนข้างผิดหวังไม่รู้ว่านโยบายของรัฐบาลจะเป็นความหวังได้หรือไม่ แต่ก็คงต้องให้โอกาสในการทำงานจริง แต่อีกส่วนที่สำคัญ คือ นโยบายที่พรรคเพื่อไทยเคยพูดไว้แล้วบางส่วนหายไป หรือไม่เหมือนเดิม คงจะเป็นคำถามที่นายกฯ  และรัฐมนตรีบางท่านต้องตอบ” 

นายชัยธวัช กล่าวว่า “จะเห็นได้ว่ามีความตั้งใจใช้คำพูดที่คลุมเครือ ไม่ได้พูดถึงปัญหาของประเทศที่เกิดขึ้นจากการรัฐประหาร มีความพยายามจะเกรงอกเกรงใจเป็นอย่างยิ่ง พินอบพิเทา เป็นอย่างยิ่ง ในการแถลงนโยบาย แต่ก็ไม่เป็นไร คำพูดอาจจะประนีประนอมได้ แต่เนื้อหาสุดท้ายต้องดูว่าการปฏิบัติเป็นอย่างไร” นายชัยธวัช กล่าว

“ไอติม”จ้องปมเกณฑ์ทหาร 

ด้านนายพริษฐ์ วัชรสินธุ หรือ ไอติม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงทางเลือกของรัฐบาลเกี่ยวกับนโยบายยกเลิกบังคับเกณฑ์ทหาร โดยสรุปว่า ยุทธศาสตร์ในการยกเลิกการเกณฑ์ทหาร มี 2 วิธีใหญ่ๆ ได้แก่ 

วิธีที่ 1 เลิกแบบต้องลุ้นปีต่อปี หรือ ค่อยลดๆ เพื่อหวังเลิก โดยไม่แก้กฎหมาย เพื่อพยายามลด “ช่องว่าง” ระหว่างยอดกำลังพลที่กองทัพขอกับยอดจำนวนคนที่สมัครใจเป็นทหาร ซึ่งเป็นวิธีที่กองทัพประกาศว่ากำลังดำเนินการอยู่ตามแผนปฏิรูปกองทัพ 2566-70 ของสภากลาโหม

คำถามที่ตามมาว่า กองทัพจะสามารถลดจำนวนคนที่ถูกเกณฑ์ได้มาก-น้อยแค่ไหนในระยะสั้น และจะสามารถเลิกการเกณฑ์ทหารทั้งหมดได้เร็ว-ช้าแค่ไหน จึงขึ้นอยู่กับความสามารถของกองทัพในการขยับ 2 ตัวเลขดังกล่าว

นายพริษฐ์ อธิบายถึงยุทธศาสตร์ในการยกเลิกการเกณฑ์ทหาร  วิธีที่ 2 ว่า  เป็นวิธีที่พรรคก้าวไกลเสนอ คือ การเลิกแบบการันตีไม่มีเกณฑ์ (โดยการแก้กฎหมาย) คือการแก้ พ.ร.บ. รับราชการทหาร 2497 เพื่อตัดอำนาจกองทัพในการบังคับคนมาเป็นทหารในยามที่ไม่มีสงคราม เพื่อให้กองทัพประกอบไปด้วยกำลังพลที่สมัครใจเข้ามาเท่านั้น

นายพิริษฐ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า พรรคก้าวไกล จะรอดูความชัดเจนอีกครั้งหลังการแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภา หากรัฐบาลยืนยันวิธีที่ 1 ได้แต่เพียงหวังว่า รัฐบาลจะให้ความชัดเจนเรื่องตัวเลขและกรอบเวลา ว่าจะตั้งเป้าลดจำนวนคนที่ถูกเกณฑ์ปีละกี่คน และจะตั้งเป้าให้เลิกการเกณฑ์ได้ทั้งหมดภายในปีไหน

จับตาเรื่องที่เคยหาเสียงไว้

นอกจากนี้พรรคก้าวไกล  ทวิตข้อความผ่านทวิตเตอร์ (X) @MFPThailand พร้อมกับแนบคำแถลงนโยบายรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน ต่อรัฐสภา โดยระบุว่า ด่วน! ช่วยกันตรวจคำสัญญาหาเสียงจากเอกสารที่ถูกคาดการณ์ว่าเป็นคำแถลงนโยบาย ครม.เศรษฐา 1

ไม่มีเรื่องให้เลือกตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ ไม่มีร่างใหม่ทั้งฉบับ? ไม่มีขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ? ไม่มีรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย? คำสัญญาหาเสียงหายไปเยอะขนาดนี้ เราหวังว่าเอกสารนี้จะยังไม่ใช่ฉบับจริง 

ทั้งหมดเป็นเพียงการโหมโรงเบื้องต้นของพรรคก้าวไกล ที่เตรียมลับมีดสับนโยบายรัฐบาล “เศรษฐา 1”  ต้องติดตามผลงานแกนนำฝ่ายค้านในวันแสดงจริงจะสมราคาคุยหรือไม่