“เพื่อไทย”ประกาศกร้าวต้องได้เก้าอี้ประธานสภา ยึดสูตรแบ่งเค้ก 14+1

27 มิ.ย. 2566 | 11:33 น.

พรรคเพื่อไทยประกาศยึดสูตร 14+1 ต้องได้เก้าอี้ประธานสภาฯ เหตุทำหน้าที่ประมุขนิติบัญญัติได้สมบูรณ์กว่า ปัดแก่งแย่งตำแหน่ง แต่เห็นความจำเป็นในการจัดตั้งรัฐบาล โดยมีพรรคก้าวไกลเป็นแกนนำ

บ่ายวันที่ 27 มิ.ย. 2566 พรรคเพื่อไทย (พท.) มีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค นายภูมิธรรม เวชยชัย นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรค นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค โดยมีวาระหารือถึงการเจราจราตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร 

จากนั้นมีการประชุม ส.ส.พรรค เป็นที่สังเกตว่า การประชุมวันนี้ นายสุชาติ ตันเจริญ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) ที่พยายามหลบสื่อมาตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้เข้าร่วมประชุมด้วย 
จากนั้นเวลา 17.00 น. แกนนำพรรคเพื่อไทยได้ร่วมแถลงข่าว

ภายหลังการประชุม ส.ส. โดย นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ที่ผ่านมาคณะเจรจาได้นำเสนอหลักการ 14+1 ต่อกก.บห. โดยสรุปคือ คณะกรรมการเจรจาจะไปหารือกับพรรคก้าวไกล ถึงตำแหน่งประธานสภาฯ ร่วมกับตำแหน่งรัฐมนตรี ที่ผ่านมาเรายืนยันสูตร 14+1 คือ พรรคก้าวไกลได้ 14+1 คือ นายกฯ ส่วนพรรคเพื่อไทย 14+1 คือ ประธานสภาฯ

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เราเห็นควรยืนสูตร 14+1 เหมือนเดิม ให้คณะเจรจาของพรรคไปเจรจาตามหลักการเดิมที่เคยเสนอตอนแรก 
ในส่วนของการประชุมส.ส.พรรคนั้น ข้อเสนอของสมาชิกยังคงประสงค์และยืนยันว่า ขอให้เจรจาตามหลักการเดิม คือ 14+1 โดยพรรคเพื่อไทยควรได้ตำแหน่งประธานสภาฯ 

ด้านนายชูศักดิ์ กล่าวว่า ตำแหน่งประธานสภาฯ นั้น กก.บห.พรรคเห็นว่าเป็นตำแหน่งสำคัญ ควบคุมกำกับดูแลการทำงานของสภาฯ ต้องวางตัวเป็นกลางตอบสนองทุกพรรค มีความรู้ ความสามารถ มีวุฒิภาวะ เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย 

ทั้งนี้ กก.บห.ทราบว่า คณะเจรจาได้เสนอสูตร 14+1 เพราะเห็นว่ามีความเป็นธรรม ให้เกียรติซึ่งกันและกัน โดยพรรคก้าวไกลได้ตำแหน่งนายกฯ พรรคเพื่อไทย ควรได้ตำแหน่งประธานสภาฯ ที่ประชุมเห็นควรยืนยันสูตรดังกล่าวเพื่อนำเสนอพรรคก้าวไกลในการประชุมระหว่าง 2 พรรค วันที่ 28 มิ.ย.นี้ ซึ่งจะเป็นความชอบธรรม มีเหตุมีผลซึ่งคณะเจรจาต้องยืนในหลักการนี้

“นี่ไม่ใช่การแก่งแย่งตำแหน่ง แต่เราเห็นความจำเป็นในการจัดตั้งรัฐบาล โดยมีพรรคก้าวไกลเป็นแกนนำ และมีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกฯ ให้สำเร็จ พรรคเพื่อไทยเชื่อว่าการมีประธานสภาฯของพรรคเพื่อไทย จะทำให้สภาเดินหน้าราบรื่น เรียบร้อย ทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติได้สมบูรณ์และมีประสิทธิภาพ” นายชูศักดิ์ กล่าว

ส่วน นายภูมิธรรม กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวคุยกันแล้วก็ยังไม่ได้คำตอบอย่างเป็นทางการ มีแต่ในโซเชียล วันที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศผล ก็ควรจะเป็นจุดเริ่มต้นของการเจรจา 

“ที่ประชุมวันนี้ไม่ถือว่าเป็นมติของพรรค แต่เป็นความเห็นพ้องของสมาชิก ให้ผู้เจรจานำเจตจำนงนี้ไปคุยกับพรรคก้าวไกลเพื่อให้ได้ข้อสรุป” นายภูมิธรรม กล่าว