กกต.ไม่เร่งสอบ"พิธา"ถือหุ้นสื่อ ม.151 มีเวลากรอบแรก 20 วัน แต่ขยายได้อีก

16 มิ.ย. 2566 | 06:17 น.

"อิทธิพร"เผยกกต.ลุยถกรับรองส.ส.สัปดาห์หน้า ทีมสอบ "พิธา" ปม ม.151 มีเวลากรอบแรก 20 วัน แต่ขยายได้อีก ย้ำไม่เร่งหวั่นไม่เป็นธรรมปมถือหุ้นสื่อ

วันนี้ (16 มิ.ย.66) นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงความคืบหน้าการพิจารณาประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส. ว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาทางสำนักงานกกต.ได้มีการเสนอข้อมูลการประกาศรับรองผลส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ซึ่งที่ประชุมได้รับทราบข้อมูลเบื้องต้น

แต่เห็นว่าการรับรองผลจะต้องมีข้อมูลประกอบมากกว่านี้ เพราะฉะนั้นกระบวนการพิจารณาเรื่องการประกาศรับรองผลส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง จะมีการประชุมต่อในสัปดาห์หน้า รวมทั้งการประกาศรับรองผลส.ส.แบบบัญชีรายชื่อด้วย 

 

ยืนยันว่าการประกาศรับรองผลจะต้องเป็นไปตามกฎหมายที่กำหนดให้ต้องประกาศไม่เกิน 60 วัน จะช้าหรือเร็วแค่ไหนขึ้นอยู่กับว่าข้อมูลที่จะเข้าสู่การพิจารณานั้นครบถ้วนสมบูรณ์แล้วหรือไม่

ทั้งนี้ข้อมูลที่ได้นั้นมาจากผู้อำนวยการกกต.จังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่งประกอบด้วยข้อมูลคุณสมบัติลักษณะต้องห้ามว่ามีว่าที่ส.ส.ท่านใดเข้าข่ายหรือไม่ ซึ่งกระบวนการนี้ใกล้จะแล้วเสร็จ 

“ถ้าสัปดาห์หน้ามีข้อมูลเพียงพอ ก็สามารถที่จะประกาศรับรองผลให้ได้อย่างน้อยร้อยละ 95 แต่ถ้าข้อมูลครบถ้วนก็จะสามารถประกาศให้ได้ครบร้อยละ 100 ทั้งนี้ยืนยันว่า จะประกาศผลให้เร็วกว่าการเลือกตั้งเมื่อปี 2562”

เมื่อถามว่ากรณีที่มีเอกสารหลุด และพบว่ามีจำนวน 71 ส.ส.ที่พบเรื่องร้องเรียน นายอิทธิพร กล่าวว่า เป็นเอกสารที่สำนักงานเสนอข้อมูลต่อที่ประชุมกกต. เพื่อประกอบการพิจารณา ซึ่งเป็นเพียงข้อมูลส่วนหนึ่ง ไม่ใช่ข้อมูลหลัก และยังไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ 

เมื่อถามว่ามีความเป็นไปได้ที่จะไม่ประกาศรับรองผลให้กับ 71 ส.ส.หรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า ยังไม่อยากพูดเช่นนั้น เพราะเมื่อดูข้อมูลคำร้องจะสามารถพูดได้ว่าสำนวนที่ร้องเป็นประเภทใด ถ้าเกี่ยวข้องทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริตเที่ยงธรรม กกต.ต้องพิจารณาว่าจะมีมติให้ดำเนินการอย่างไร หรือจะให้ดำเนินการสืบสวนต่อไปก่อน

เมื่อถามว่าหากจะต้องพิจารณาใบเหลืองหรือใบส้มจะมีระยะเวลาดำเนินการอย่างไร นายอิทธิพร กล่าวว่า หากมีใบเหลือง หรือ ใบส้ม จะต้องดำเนินการก่อนประกาศก่อนรับรองผล ส.ส. ส่วนจะแจกให้กับใครหรือไม่แจกนั้นจะต้องดูที่กระบวนการสืบสวนไต่สวน ซึ่งข้อมูลมาจากกกต.จังหวัด หรือส่วนกลางเสร็จเรียบร้อยแล้ว และเสนอผ่านเลขาธิการกกต.เพื่อเสนอเข้าสู่ที่ประชุมกกต. ซึ่งไม่สามารถพูดได้ว่ากระบวนการจะเป็นอย่างไรต่อไป 

ยืนยันว่าในระยะเวลาที่เหลืออยู่ก่อนครบกรอบ 60 วัน หากกกต.ต้องสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ ก็สามารถที่จะทำได้ เพราะระยะเวลามีเพียงพอและกฎหมายเปิดช่องย่นระยะเวลาเพื่อดำเนินการบ้างอย่าง ซึ่งขณะนี้สำนวนคำร้องเรียนคัดค้านการเลือกตั้งกกต.ยังไม่ได้มีการเริ่มพิจารณา 

เมื่อถามว่ากรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดต นายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล ถูกร้องเรียนให้ตรวจสอบการถือครองหุ้นบริษัทไอทีวี จำกัด (มหาชน) จะประกาศผลพิจารณารับรองไปก่อนหรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า กรณีดังกล่าวเข้าสู่กระบวนการ โดย กกต. ได้มีมติตั้งคณะกรรมการไต่สวนขึ้นมาตรวจสอบ ซึ่งจะดำเนินการโดยเป็นไปตามระเบียบการสืบสวนไต่สวน กำหนดขั้นตอนและระยะเวลาในการดำเนินการไว้ชัดเจน ย้ำว่าต้องให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย และต้องยึดถือกระบวนการตามขั้นตอนต่างๆ อย่างเคร่งครัด 

ส่วนจะต้องแยกระหว่างการประกาศรับรองผล กับ การสืบสวนไต่สวนหรือไม่นั้น ยืนยันว่า ไม่เกี่ยว เพราะ กกต.คำนึงถึงสาเหตุสำคัญคือ การเลือกตั้งมีความสุจริตและเที่ยงธรรมหรือไม่

สำหรับกรณีบริษัท ไอทีวี ล่าสุดออกแถลงการณ์ เป็นเอกสารคำชี้แจงโดยมีทั้งเอกสารลงบันทึกการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น และคลิปวิดีโอการประชุมผู้ถือหุ้นที่ถูกเผยแพร่ต่อสาธารณะ รวมถึงเอกสารที่ยื่นให้กับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะผู้จัดการมรดกจะมีผลต่อการพิจารณาของกกต.หรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนตามอำนาจการตรวจสอบของคณะกรรมการการสืบสวนไต่สวน ซึ่งได้ทำหน้าที่ตามขั้นตอนจะมีการเรียกพยานหรือเอกสารได้ 

โดยกกต.จะไม่ก้าวก่ายหรือแทรกแซงการทำงาน โดยขั้นตอนของคณะกรรมการฯ มีหน้าที่ให้ดำเนินการให้เสร็จโดยเร็วภายใน 20 วัน หากไม่ทันสามารถขอขยายระยะเวลาได้ครั้งละ 15 วัน ดังนั้น เรื่องนี้จะทำโดยเร็วไม่ได้เพราะจะขัดต่อกระบวนการของกฎหมายที่กำหนด

เมื่อถามอีกว่า มีการเรียกร้องให้กกต.ดำเนินการตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 เพื่อให้ทันต่อการโหวตนายกรัฐมนตรี นายอิทธิพร กล่าวว่า เรื่องนี้พูดตอนนี้ไม่ได้ เพราะยังไม่ผ่านขั้นตอนการพิจารณา หรือ การนำเสนอของใคร ทุกอย่างกกต.ต้องตัดสินโดยมติในที่ประชุม เมื่อยังไม่มีเรื่องเข้ามาอาจจะไม่เหมาะสมถ้าหากพูดเรื่องนี้ไปก่อน

เมื่อถามย้ำว่าจะต้องมามีผู้มายื่นร้องกกตให้ดำเนินการกับนายพิธาตามมาตรา 82 ใหม่หรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า ถ้าตามกฎหมายไม่จำเป็น 

เมื่อถามเพิ่มเติมว่าสามารถนำข้อมูลในชั้นของคณะกรรมการสืบสวนมายื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 82 ได้หรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า ตามทฤษฎีข้อมูลหลักฐานผลการตรวจสอบวินิจฉัยของคณะกรรมการสืบสวนเป็นอย่างไรจะต้องเสนอมาตามลำดับ เมื่อมาถึงกกต.จะต้องพิจารณาว่าข้อมูลเพียงพอหรือว่าจะต้องดำเนินการอะไรเพิ่มเติม หรือสามารถตัดสินได้เลย

เมื่อถามอีกว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะสามารถพิจารณาได้ทันก่อนการโหวตนายกรัฐมนตรีเพื่อป้องกันปัญหา ประธาน กกต. กล่าวว่า คิดอย่างนั้นไม่ได้ เพราะเรื่องเข้าสู่กระบวนการ ถ้าเทียบกับระเบียบสืบสวนไต่สวน ก็เหมือนประมวลวิธีพิจารณาความอาญา หากไปเร่งก็จะไม่เป็นธรรม