“เชาว์ มีขวด”ชี้ค่าแรงขั้นต่ำ 600-ป.ตรี 2.5 หมื่น ผลักภาระให้เอกชน-ราชการ

08 ธ.ค. 2565 | 12:25 น.

“เชาว์ มีขวด” ชี้ค่าแรงขั้นต่ำ 600 - ป.ตรี 2.5 หมื่นบาท ผลักภาระให้เอกชน อัด “ทักษิณ”เลี่ยงบาลี ไม่ใช้งบ ทั้งที่ราชการต้องจ่ายเหมือนกัน บี้กกต.เข้มนโยบายขายฝัน สอนมวย “อุ๊งอิ๊ง”เป็นทุนนิยมต้องมีหัวใจ เตือนประชาชนรู้เท่าทันกลเกมพรรคการเมือง


นายเชาว์ มีขวด อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊ก Chao Meekhuad เรื่อง “เป็นทุนนิยมต้องมีหัวใจ แต่การเป็นนักการเมือง ต้องมีหัวใจยิ่งกว่า” เนื้อหาระบุว่า เป็นทุนนิยมต้องมีหัวใจ คือ คำประกาศของ อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ที่ใช้เป็นเหตุผลสนับสนุนการออกนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท/วัน บนเงื่อนไขถ้าได้เป็นรัฐบาลและอยู่ครบเทอม 4 ปี จะเห็นผลกันได้ก็รอโน่นปี 2570 


หลายภาคส่วนออกมาชี้ให้เห็นถึงผลกระทบกันไปแล้ว ทั้งความอยู่รอดของเอสเอ็มอี การย้ายฐานการผลิต ไปจนถึงปัญหาเงินเฟ้อ ค่าครองชีพพุ่ง ส่วนตนขอชี้ไปที่ประเด็นข้อกฎหมาย และ ความรับผิดชอบของนักการเมือง เพราะหลังจากนี้พรรคการเมืองคงทยอยขายฝันกันออกมาเรื่อย ๆ เป็นสิ่งที่ กกต.ต้องกำกับดูแล เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญมาตรา 258 (3) ว่า มีกลไกที่กำหนดความรับผิดชอบของพรรคการเมือง ในการประกาศโฆษณานโยบาย ที่มิได้วิเคราะห์ผลกระทบ ความคุ้มค่า และความเสี่ยงอย่างรอบด้าน 


และในกฎหมายพรรคการเมือง ก็กำหนดไว้ว่า ให้พรรคการเมือง ต้องแสดงวงเงินที่ต้องใช้ ที่มาของเงิน ความคุ้มค่าและประโยชน์ รวมถึงผลกระทบและความเสี่ยงในการดำเนินตามนโยบายที่หาเสียง เพื่อควบคุมนโยบายที่ใช้จ่ายงบประมาณแบบฟุ่มเฟือย หรือขายฝันทำไม่ได้จริง แต่น่าเสียดายที่ กกต.ไม่ได้ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างจริงจัง ดังจะเห็นได้จากนโยบายขายฝันในปี 2562 ก็ไม่ถูกตรวจสอบ

 

ดังนั้น ในการเลือกตั้งปี 2565 ผมหวังว่า กกต.จะทำหน้าที่ของตัวเองอย่างกล้าหาญ เอาจริง เอาจังในการบังคับใช้กฎหมาย หากพบการกำหนดนโยบายเกินจริง ควรออกมาตักเตือนทันที และชี้ให้ประชาชนได้เท่าทันกับกลเกมของพรรคการเมืองต่าง ๆ ด้วย 


อย่างกรณีค่าแรง 600 บาทต่อวัน ปริญญาตรี 25,000 บาทต่อเดือนนั้น มีคำอธิบายจาก นายทักษิณ ชินวัตร ว่า ไม่ต้องใช้งบประมาณรัฐ ซึ่งผมคิดว่าเป็นคำพูดที่ไร้ความรับผิดชอบ เพราะนั่นเท่ากับว่าไม่ต้องแจงที่มาของเงินที่จะใช้กับนโยบายนี้ เป็นการผลักภาระให้เอกชน และพูดความจริงไม่หมด เพราะสุดท้ายก็ยังไปเชื่อมกับงบประมาณรัฐอยู่ดี เนื่องจากเงินเดือนปริญญาตรีของข้าราชการ ก็ต้องปรับตามไปด้วย 


“จึงอยากฝากว่า เป็นทุนนิยมต้องมีหัวใจเป็นเรื่องดี แต่ต้องไม่ลืมว่า เป็นนักการเมือง ต้องมีหัวใจยิ่งกว่า โดยเฉพาะหัวใจที่ต้องรับผิดชอบต่อประชาชนและประเทศชาติ” นายเชาว์ ระบุทิ้งท้าย