ตร.ยัน”ใบสั่งออนไลน์”ของจริง เริ่มใช้งานตั้งแต่ พ.ค.65 

04 ธ.ค. 2565 | 12:09 น.

โฆษก ตร. ยันเป็นใบสั่งจริง ตำรวจจราจรได้เริ่มใช้งานใบสั่งอิเล็กทรอนิกส์พร้อมกันทั่วประเทศ ตั้งแต่ พ.ค.65 เป็นต้นมา

วันนี้ (4 ธ.ค.65) เวลา 18.00 น. พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เปิดเผยว่า กรณีภาพถ่ายใบสั่งอิเล็กทรอนิกส์ที่เพจ หมอธีระวัฒน์ เหมะจุฑา นำมาโพสต์ โดยระบุ “ ใบสั่งแบบนี้มันจะไปติดที่หน้าต่างรถ อย่า scan จ่ายเด็ดขาด มันของปลอม เพื่อนเพิ่งได้รับมา” นั้น 
 

ตนได้ตรวจสอบไปยังผู้ออกใบสั่ง คือ สน.บางยี่ขัน แล้วพบว่าเป็นใบสั่งจริง และขอเรียนชี้แจงว่า ใบสั่งอิเล็กทรอนิกส์ คือ การออกใบสั่งผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ประมวลผลแบบพกพา ที่มีการติดตั้งแอปพลิเคชั่นของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชื่อว่า Police Ticket Management (หรือ PTM)  เพื่อใช้เป็นโปรแกรมออกใบสั่งอิเล็กทรอนิกส์  

ตำรวจจราจรจะพิมพ์ใบสั่งออกมาจากเครื่องให้กับผู้ขับขี่ที่ทำผิดได้ทันที โดยจะใช้กรณีที่พบการกระทำผิดซึ่งหน้า (แบบเดียวกับใบสั่งรูปแบบที่ต้องเขียนด้วยลายมือ) เช่น ไม่สวมหมวก หรือ ไม่รัดเข็มขัดนิรภัย ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ ขับรถย้อนศร ขับรถฝ่าฝืนเครื่องหมายจราจรในทางต่างๆ รวมถึงจอดรถในที่ห้ามจอดด้วย  
 

ข้อมูลในใบสั่งอิเล็กทรอนิกส์นี้ จะมีการระบุข้อหาและอัตราค่าปรับตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในระเบียบของตร. อย่างชัดเจนในใบสั่งทุกใบ โดยข้อมูลจะเชื่อมโยงกับระบบสารสนเทศของสำนักงานตำรวจแห่งชาติแบบ real time รวมถึงจะแสดงข้อมูลที่เกี่ยวข้องต่างๆ เช่น วัน เวลา และสถานที่ที่ทำผิด ข้อมูลทะเบียนรถ ข้อมูลใบขับขี่ (กรณีพบตัวผู้ทำผิด) ชื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่ออกใบสั่ง  
 

นอกจากนั้น จะมี QR Code ด้านล่างสำหรับอำนวยความสะดวกประชาชนในการชำระค่าปรับผ่านระบบ mobile banking  และ QR Code สำหรับตรวจสอบใบสั่งของตนเอง ผ่านเว็บไซต์  E-ticket (https://ptm.police.go.th/eTicket)

ปัจจุบัน ใบสั่งของตำรวจจราจรจะมีอยู่ 3 รูปแบบ  คือ 


1.ใบสั่งแบบเขียนด้วยลายมือ 


2.ใบสั่งสำหรับส่งทางไปรษณีย์  ซึ่งจะเป็นกรณีตรวจจับโดยกล้องอุปกรณ์  และ
 

3.ใบสั่งอิเล็กทรอนิกส์  


ทั้งนี้ รูปแบบของใบสั่งนั้น เป็นไปตามประกาศ ตร. เรื่อง กำหนดแบบใบสั่งเจ้าพนักงานจราจร (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2564 ซึ่งประกาศใช้เป็นกฎหมาย เมื่อวันที่ 9 ก.ค.64  
 

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มุ่งเน้นการพัฒนาระบบเทคโนโลยี เพื่อสร้างมาตรฐานการปฏิบัติงาน ด้วยระบบเทคโนโลยีดังกล่าว ส่งผลให้กระบวนการออกใบสั่งมีมาตรฐาน เป็นสากล โปร่งใส เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการปฏิบัติงานและเคารพกฎจราจร ซึ่งจะช่วยสร้างวัฒนธรรมการขับขี่ปลอดภัย ป้องกันและลดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้อย่างเป็นรูปธรรม