"อุตตม"'ย้ำรวมพรรค มีคุย แต่ยังไม่ยุติ 100%

01 ธ.ค. 2565 | 02:52 น.

"อุตตม"ยอมรับพรรคสร้างอนาคตไทย มีแนวคิดจะควบรวมกับพรรคไทยสร้างไทย แต่ยังไม่มีข้อยุติ 100 เปอร์เซ็นต์ ยันไม่มีแนวความคิดร่วมงานและไม่เคยพูดกับรวมไทยสร้างชาติ

 ความเคลื่อนไหวทางการเมืองชัดเจนขึ้นเป็นลำดับ  หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ  ทำให้พรรคการเมืองพร้อมลงสนามเลือกตั้ง หากมีประกาศยุบสภา 

 

นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย ให้สัมภาษณ์ ถึงความพร้อมในการเลือกตั้งว่า พร้อมโดยตลอด และพร้อมที่จะเดินหน้าต่อเนื่อง

 

ส่วนสูตรคำนวณ ส.ส.หาร 100 จะทำให้พรรคเล็กอยู่ยาก ต้องเร่งหาทางรวมพรรคกันหรือไม่นั้น  นายอุตตม ยอมรับว่า  เมื่อกฎเกณฑ์และกติกาออกมาแบบนี้ ต้องไปดูแต่ละพรรค จะมีแนวทางอย่างไร ในการเดินหน้าต่อไปให้ได้ แต่สำหรับพรรคสร้างอนาคตไทย เราอยู่บนหลักการที่ว่า หากเลือกเส้นทางนั้น จะต้องตอบโจทย์ให้ได้ว่า เราจะสามารถทำงานให้ประชาชนได้ดียิ่งขึ้น

นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย

เมื่อถามว่า ในส่วนของพรรคสร้างอนาคตไทย มีแนวคิดที่จะควบรวมพรรคหรือไม่ นายอุตตม กล่าวว่า มันมีอยู่แล้วในทางการเมือง ซึ่งถือเป็นเรื่องธรรมดาที่จะมีการพูดจากัน ตนยอมรับว่ามีการพูดจากันระหว่างพรรค แต่การพูดคุยนั้นยังไม่มีข้อยุติ 100 เปอร์เซ็นต์ 

 

"คงต้องไปดู เพราะมีเงื่อนไขในมิติต่างๆ เช่นการทำงานร่วมกันจะลงตัวได้หรือไม่ เป้าหมายเชิงนโยบายสอดคล้องกันหรือไม่ หรือสามารถจัดคนทำงานในพื้นที่ได้หรือไม่ ซึ่งถ้าจะควบรวมกันทุกเรื่องจะต้องลงตัว" นายอุตตม กล่าวถึงแนวคิดการควบรวมกับพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.)

 

ส่วนเวลาที่เหลืออยู่ไม่กี่เดือนที่จะยุบสภา การตัดสินใจในการควบรวมควรจะเร็วหรือไม่ นายอุตตม กล่าวว่า ถ้าจะเป็นเช่นนั้นก็ต้องเร็ว เพราะประชาชนหรือสังคมจะได้มีข้อมูล  ก็ขึ้นอยู่กับว่า คุยเงื่อนไขกันลงตัวหรือไม่ เมื่อถามว่า จะสามารถควบรวมกับพรรครวมไทยสร้างชาติได้หรือไม่ นายอุตตม กล่าวว่า จนถึงขณะนี้ไม่มีแนวความคิดนั้นอยู่เลย ไม่เคยพูดจากัน
 

ด้าน นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคสร้างอนาคตไทย กล่าวถึงประเด็นการแยกกันเดินระหว่าง 2 ป. ว่า เรื่องนี้น่าสนใจ แต่ต้องดูบริบทการเมืองโดยรวม ดูทิศทางและยุทธศาสตร์การเมืองแต่ละพรรค ซึ่งวันนี้สถานการณ์เปลี่ยนไปมาก มีการแตกพรรค ล้วนเป็นสิ่งที่คาดไม่ถึง บวกกับกติการเลือกตั้ง ก็อาจส่งผล แต่ต้องรอดูรายละเอียดต่อไป โดยตนตอบไม่ได้ อยู่ที่ว่าการลงตัวแต่ละพรรคการเมืองเป็นอย่างไร 

 

ทั้งนี้ การแยกกันเดินของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ไม่ได้มองว่าจะได้เปรียบหรือเสียเปรียบ แต่ทั้งสองคนคงมีเหตุผลในทางการเมืองส่วนเราก็แค่ติดตามและทำหน้าที่ของเรา รวมถึงประเมินการทำงานของแต่ละพรรค พร้อมปรับยุทธศาสตร์พรรคให้เหมาะสมกับสถานการณ์

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย

 

 

ก่อนหน้านี้ นายอุตตม  ย้ำว่า  นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรคสร้างอนาคตไทย กับคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ต่างมีความคุ้นเคยรู้จักกันอย่างดี เพราะผ่านเวทีการเมืองมาด้วยกันตั้งแต่อดีต

 

“เรามีหลักการว่าหากจะมีการสร้างความเป็นพันธมิตรกับพรรคใด อาจเป็นรูปแบบการรวมพรรคหรืออื่นๆ ก็ตาม เป้าหมายสูงสุดคือเพื่อให้เกิดพลังทางการเมืองที่จะเป็นประโยชน์ต่อการทำงานเพื่อประชาชนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งจะพิจารณาว่าพรรคการเมืองที่เราพูดคุยด้วยนั้น มีนโยบายและอุดมการณ์ที่สอดคล้องกันหรือไม่ รวมถึงแนวทางการทำงานร่วมกันมีความเหมาะสมอย่างไร”