นับถอยหลัง ลุ้น “บิ๊กตู่” ชี้ชะตา 3 ป. - พลังประชารัฐ

30 ต.ค. 2565 | 04:00 น.

นับถอยหลัง ลุ้น “บิ๊กตู่” ชี้ชะตา 3 ป.-พลังประชารัฐ : คอลัมน์ฐานโซไซตี โดย... ว.เชิงดอย หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3831

*** คอลัมน์ฐานโซไซตี หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3831 ระหว่างวันที่ 30 ต.ค.-2 พ.ย. 2565 โดย “ว.เชิงดอย” ประจำการนำเสนอข้อมูลข่าวสาร ที่มีสาระ เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะเช่นเคย 

 

*** เหลือเวลาอีกราว 3 สัปดาห์ การประชุมสุดยอดความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปค - APEC 2022) ที่ประเทศไทย เป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 18-19 พ.ย.2565 จะเริ่มขึ้น โดยมีสมาชิกกลุ่มเอเปค รวม 21 เขตเศรษฐกิจ เข้าร่วม ล่าสุด เมื่อวันที่ 26 ต.ค.2565 ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม ได้ประชุมร่วมกับฝ่ายความมั่นคง เพื่อหารือถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยให้กับผู้นำประเทศต่าง ๆ ที่เข้าร่วม 


*** โดย “นายกฯ”  ได้สื่อสารถึงคนไทยทั้งประเทศ ต้องขอความร่วมมือจากประชาชนทั้งประเทศโดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ “ขอเถอะครับ ขอให้บ้านเมืองเราปลอดภัย อย่าสร้างปัญหาอะไรให้เกิดขึ้นเลย ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ผมคิดว่าอันนี้เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ประเทศต้องเดินหน้า ซึ่งเรากำหนดธีมไว้แล้ว ในเรื่องเปิดกว้างเชื่อมโยงและสมดุล 3 ตัวนี้ คือ สิ่งสำคัญทั้งในด้านเศรษฐกิจ และไปจนถึงความมั่นคงด้านอื่นๆ อีกด้วย วันนี้เป็นย่างก้าวที่สำคัญของประเทศไทย ในการได้รับการยอมรับจากต่างประเทศ ในเรื่อง การค้า การลงทุน และ การท่องเที่ยว และด้านอื่นๆ อีกมากมายที่เป็นผลที่เราจะได้รับในครั้งนี้ ขอให้ทุกคนช่วยกันดูแลประเทศของเราให้ปลอดภัยด้วยแล้วกัน อย่าสร้างสถานการณ์ที่มีผลกระทบ มันจะทำให้ทุกอย่างถอยหลังกลับไปไม่รู้อีกเท่าไหร่ ผมไม่อยากให้มันเกิดขึ้น ขอร้องขอความร่วมมือทุกคน มีข่าวสารอะไรชี้แจงก็แจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบ”


*** ส่วนเรื่องประเด็นทางการเมือง ที่มี รงค์ บุญสวยขวัญ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ ออกมาเสนอแนวทาง “นายกฯ คนละครึ่ง” เนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์ สามารถดำรงตำแหน่งได้อีก 2 ปี หลังจากนั้นก็น่าจะให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นแทน หรือที่เรียกว่า “หมดที่ลุงตู่ สู่ลุงป้อม” นั้น

 

“พล.อ.ประยุทธ์” บอกว่า “การเมือง ผมไม่พูด” เมื่อถามถึงความชัดเจนในการสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ นายกฯ ตอบว่า “เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น” ส่วนมีความจำเป็นหรือไม่ที่จะต้องสมัครสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ตอบคำถามดังกล่าวแต่อย่างใด 

*** ระหว่างนี้ไปจนถึงก่อนที่การประชุม “เอเปค” จะผ่านพ้นไป “พล.อ.ประยุทธ์” คงไม่ออกมาพูดอะไรที่เป็นประเด็นทางการเมือง จะมีความเคลื่อนไหวด้านการเมืองอีกครั้งเมื่อผ่านพ้นเอเปคไปแล้ว ซึ่งจะเป็นปัญหาให้ต้อง “ตัดสินใจ” เกี่ยวกับ “อนาคตทางการเมือง” ว่า จะเลือกเดินในแนวทางใด หลังจากหากครบวาระในวันที่ 23 มี.ค.2566 แล้ว เหลือเวลาเป็น “นายกฯ” ต่อได้อีกแค่ 2 ปีเท่านั้น คือเป็นได้ถึงปี 2568 ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ มีทางเลือกอยู่ 3 แนวทาง คือ 1.ไปต่อกับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แต่ต้องเคลียร์ใจกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ถึงปัญหาภายในพรรคให้เรียบร้อยก่อน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาแทรกซ้อนอื่นขึ้นมา 2.ไปต่อกับพรรคการเมืองที่สนับสนุนตัวเอง โดยเฉพาะกับ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ที่มี พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เป็นหัวหน้าพรรค ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ สามารถไว้วางใจระบบบริหารจัดการพรรคได้ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะมีปัญหาแทรกซ้อน และ 3.เลือกที่จะ “ไม่ไปต่อ” ปิดฉากอนาคตทางการเมืองตัวเอง โดยหากเลือกแนวทางนี้ มีความเป็นไปได้สูงที่จะเลือกอยู่จนครบเทอมรัฐบาล ในวันที่ 23 มี.ค. 2566 …การตัดสินใจในแนวทางใดแนวทางหนึ่ง ของ “พล.อ.ประยุทธ์” จะเป็นตัวชี้ชะตะอนาคตของพี่น้อง “3 ป.”  เป็นการชี้อนาคตของพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งต้องรอติดตามกันต่อไป...

                                   นับถอยหลัง ลุ้น “บิ๊กตู่” ชี้ชะตา 3 ป. - พลังประชารัฐ


*** ปิดท้ายที่... มูลนิธินักศึกษาสถาบันพระปกเกล้าเพื่อสังคม โดยการนำของ ศ.กิตติคุณ ดร.บวรศักด์ อุวรรณโณ ประธานกรรมการมูลนิธิฯ จัดโครงการอุปสมบทภิกษุและบวชชีพราหมณ์ ณ ดินแดนพุทธภูมิ สาธารณรัฐอินเดีย รุ่นที่ 4 ระหว่างวันที่ 10-20 ม.ค. 2566 เป็นเวลา 10 วัน หลังจากที่ต้องงดกิจกรรมนี้ไป 2 ปีอันเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 สำหรับโครงการนี้จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมให้กุลบุตรกุลธิดาได้มีโอกาสปฏิบัติเนกขัมมบารมี บำเพ็ญบุญอุทิศตนในการขัดเกลาจิตใจ ต่อสู้กับอกุศลจิตตามหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า และเพื่อสืบทอดวิถีธรรมและหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาให้คงอยู่และเจริญมั่นคงด้วยความร่วมมือร่วมใจกันของพุทธศาสนิกชน


*** โครงการอุปสมบทภิกษุและบวชชีพราหมณ์ ณ ดินแดนพุทธภูมิ ครั้งนี้ เปิดโอกาสให้พุทธศาสนิกชนทั่วไปได้ร่วมบุญสนับสนุนตามศรัทธา หรือ สามารถรับเป็นเจ้าภาพอุปสมบทพระ 1 รูป จำนวนปัจจัย 58,000 บาท หรือจะทำบุญเครื่องอัฐบริขารก็ได้ ชุดละ 5,200 บาท ประกอบด้วย เช่น ผ้าไตรครอง 1 ไตร ไตรอาศัย 1 ไตร ชุดกันหนาวพระ ผ้าปูนั่ง มีดโกน เป็นต้น ผู้ที่ประสงค์จะอุปสมบทภิกษุและบวชชีพราหมณ์ในโครงการฯ ตลอดจนพุทธศาสนิกชนทั่วไปสามารถร่วมทำบุญโดยการโอนปัจจัยทำบุญที่บัญชี มูลนิธิ สปส. ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขาศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ แจ้งวัฒนะ (อาคาร B) บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 405-523655-3 พร้อมส่งหลักฐานการโอนเพื่อติดต่อรับใบเสร็จรับเงินได้ที่ Line id : jumrbs หรือติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ คุณสมฤดี วัฒนาวงศ์ โทร. 08 932 9947 คุณอาภรณ์ บำรุงสุข โทร. 08 1841 9390