ชัชชาติลั่นผู้นำต้องโปร่งใสไม่เป็นหนี้บุญคุณใครถึงจะปราบคอร์รัปชันได้

06 ก.ย. 2565 | 11:14 น.

“ชัชชาติ"ร่วมเวที ACT แสดงวิสัยทัศน์ "ผู้นำกับการปราบโกง" ลั่นถ้ามาด้วยความโปร่งใส ไม่กังวลเรื่องผลประโยชน์ ไม่ต้องเป็นหนี้บุญคุณใคร ก็ไม่ต้องเกรงใจใคร ยึดประชาชนเป็นหลักเท่านั้น

วันนี้ (6 ก.ย.65) องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) หรือ ACT ได้จัดงานวันต่อต้านคอร์รัปชัน 2565 “ผู้นำ กับการปราบโกง” ที่ สถานีกลางบางซื่อ โดยมี นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ร่วมเสวนาด้วย


นายชัชชาติ กล่าวตอนหนึ่งว่า หลายๆ ครั้ง ปัญหาการทุจริตเกิดจากแผลเล็กๆ แล้วกลายเป็นบาดทะยัก แค่นโยบายไม่รับของขวัญ ก็เป็นเรื่องสำคัญ ถ้ารับของขวัญจนเคยชิน แค่นี้ก็จะกลายเป็นบาดทะยัก ถ้าเคยชินกับการให้ ผู้ค้าก็ต้องเอาของดีๆ มาให้ สุดท้ายก็จะกลายเป็นเรื่องปกติ 

ดังนั้น หลายๆ อย่างต้องเลิกให้เป็นวัฒนธรรม จริงๆ การออกกฎระเบียบเพื่อแก้ไขการคอร์รัปชันก็ไม่ได้ง่าย แต่ถ้าสร้างจิตสำนึกได้ง่ายกว่าเยอะ ทั้งนี้ ต้องเอาจริงเอาจัง 3 ด้าน คือ 1.ผู้นำ 2.เครือข่าย 3.เทคโนโลยี 

 

ผู้นำสำคัญอย่างไร คือ ต้นตอของการต่อต้านคอร์รัปชัน เช่น กทม. มันง่ายมาก เพียงแค่บอกว่าต้องส่งนาย นี่คือสิ่งที่คนพูดกันมาก ผู้นำต้องประกาศเลยว่า กทม.เอาจริงเอาจังเรื่องคอร์รัปชัน ไม่มีการส่งเป็นลำดับชั้น ต้องยกเลิกทั้งหมด ไม่มีการอ้างเรื่องนาย

ส่วนผู้นำนั้น มีอยู่ด้วยกัน 3 แบบ


1.ผู้นำระดับ ศูนย์  คือ ผู้นำที่โกงกิน ร่วมขบวนการ ผู้นำเหล่านี้จะเริ่มตั้งแต่การซื้อตำแหน่ง เพราะต้องเอาคนที่ร่วมขบวนการมารับตำแหน่ง ดังนั้น จะเห็นได้ว่าระบบขององค์กรจะเสียหาย เพราะฉะนั้น ผู้นำระดับ ศูนย์ ต้องไม่มี


2.ผู้นำระดับ 1 คือ ดีขึ้นมานิดนึง ตัวเองไม่โกง แต่ปล่อยให้คนอื่นหรือลูกน้องโกง แบบนี้ก็ไม่ได้


3.ผู้นำระดับ 2 ต้องเอาจริงเอาจังและประกาศเป็นนโยบาย ดังนั้น ผู้นำนั้นสำคัญ หากหัวไม่กระดิกที่เหลือจะดีขึ้นเยอะ


ส่วนเรื่องที่ 2 การหาภาคีเครือข่ายคอร์รัปชันมาจากหลายมิติ เชื่อว่ามี 4 เกลียวประสานกัน เพื่อให้การต่อต้านเข้มแข็งขึ้น คือ ภาครัฐต้องเข้มแข็ง ภาคเอกชนมีส่วนอย่างมาก ภาคประชาชนมีส่วนร่วม และภาควิชาการ 


และเรื่องที่ 3 ปัจจุบันโลกเปลี่ยนไป ต้องนำเทคโนโลยีเข้ามาจับ จะทำให้มี Empower จากคน มีข้อมูลที่โปร่งใส การแก้ไขปัญหาการทุจริตเป็นรูปธรรมขึ้น

                                ชัชชาติลั่นผู้นำต้องโปร่งใสไม่เป็นหนี้บุญคุณใครถึงจะปราบคอร์รัปชันได้
"ถ้าเราไม่กังวลเรื่องผลประโยชน์ เราไม่ต้องเป็นหนี้บุญคุณใคร ผู้มีอิทธิพลก็ไม่มีความหมาย แต่ขอให้มีหลักการที่ยุติธรรม ชี้แจงได้ และเอาประชาชนเป็นที่ตั้ง ดังนั้น ถ้าเราเริ่มด้วยความยุติธรรม เราเริ่มจากการเลือกตั้งที่ไม่ต้องรับเงินใครมา เราไม่ต้องซื้อเสียง เรามาด้วยเสียงประชาชนจริงๆ เราไม่ต้องกลัวผู้มีอิทธิพล เพราะเราไม่ได้อาศัยเขามา เราอาศัยเสียงประชาชนมา 


ดังนั้น ถ้าเราโปร่งใสตั้งแต่การเลือกตั้ง การเข้าสู่กระบวนการ สุดท้ายเราก็เอาประชาชนเป็นหลัก เราไม่ต้องกังวลเพราะเรามาด้วยกระบวนการที่โปร่งใส แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เราไปรับผลประโยชน์จากเขา เราจะตกเป็นทาสเขาไปตลอด ดังนั้น เราต้องเริ่มด้วยความสะอาด บริสุทธิ์ มาด้วยความโปร่งใส สุดท้ายไม่ต้องเกรงใจใคร เกรงใจประชาชนเท่านั้น" นายชัชชาติ กล่าว                                                                      

ก่อนหน้านั้น นายวิเชียร พงศธร ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) หรือ ACT กล่าวว่า องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันผนึกกำลังร่วมกับองค์กรสมาชิกกำหนดให้ทุกวันที่ 6 กันยายน  ของทุกปี เป็นวันต่อต้านคอร์รัปชัน โดยได้ร่วมกันจัดกิจกรรมต่อต้านคอร์รัปชันต่อเนื่องเป็นประจำทุกปีตั้งแต่ปี 2554 เป็นต้นมา 


แม้การขับเคลื่อนเพื่อแก้ไขปัญหาการคอร์รัปชันจะดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง แต่ยิ่งพบว่าปัญหาเพิ่มความซับซ้อน มีการหาช่องว่าง ช่องโหว่ รวมทั้งนำเทคโนโลยีทันสมัยมาเอื้อต่อการคอร์รัปชันมากขึ้น รูปแบบการฮั้วประมูลประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) ที่คนโกงยังหาช่องทุจริตได้ หรือการจัดซื้อจัดจ้างในท้องถิ่น ที่ยกข้ออ้างเรื่องนวัตกรรมมาเพิ่มราคากลางให้สูงขึ้น


“เราต้องรู้เท่าทันรูปแบบการโกงด้วยการนำเทคโนโลยีในยุคดิจิทัลมาใช้ผ่านเครื่องมือ ACT Ai เพื่อป้องกันการโกงได้อย่างแม่นยำ อาทิ กรณีเสาไฟกินรีโซลาร์เซลล์ในพื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบลราชาเทวะ จังหวัดสมุทรปราการ เป็นกรณีศึกษาที่พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เมื่อใช้เครื่องมือตรวจสอบที่เข้าถึงข้อมูลภาครัฐอย่างรวดเร็ว จะช่วยยับยั้งความเสียหายจากการโกงได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น 

                                    ชัชชาติลั่นผู้นำต้องโปร่งใสไม่เป็นหนี้บุญคุณใครถึงจะปราบคอร์รัปชันได้
ประชาชนสามารถเข้าถึงการใช้งานแพลตฟอร์ม ACT Ai ด้วยการสแกนคิวอาร์โค้ด (QR Code) ผ่านยันต์กันโกงทางเพจเฟซบุ๊กองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันซึ่งจะสามารถใช้งานเครื่องมือ ACT Ai ได้อย่างหลากหลาย” 


ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน ยังย้ำถึงบทบาทของผู้นำว่า มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการปราบโกง เพราะผู้นำคือต้นแบบ หากได้ผู้นำที่มุ่งโกงกินจะก่อให้เกิดความเสียหายใหญ่หลวง 


ดังนั้นประชาชนต้องสนับสนุนผู้นำที่โปร่งใสมุ่งประโยชน์ส่วนรวมและสนับสนุนการตรวจสอบจากภาคประชาชน รวมทั้งส่งเสริมให้ประชาชนมีโอกาสใช้เครื่องมือที่ทันสมัยตรวจสอบการคอร์รัปชัน 


นอกจากนี้จากบทบาทของผู้นำในระดับจังหวัดและท้องถิ่นที่ร่วมเวทีเสวนา 2 ครั้งก่อนหน้านี้ จัดโดยความร่วมมือของกระทรวงมหาดไทย สถาบันพระปกเกล้า สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) สมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย สมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย และสมาคมองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทย เพื่อร่วมกันเปิดพื้นที่ทางความคิด โดยผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้นำระดับท้องถิ่นได้ตระหนักถึงบทบาทความสำคัญของประชาชนในการการมีส่วนร่วมเป็นพลังปราบโกงไปด้วยกัน ซึ่งสอดคล้องกับการขับเคลื่อนแนวคิด “ผู้นำ...กับการปราบโกง” ในปีนี้ด้วย


ส่วน ผศ.ดร.ต่อภัสสร์ ยมนาค ผู้ดูแลโปรเจกต์ ACT Ai ระบุถึงการนำระบบปัญญาประดิษฐ์(Ai) มาสนับสนุนการตรวจสอบการคอร์รัปชันว่า จากเดิมการตรวจสอบข้อมูลเอกสารราชการทำได้ยาก และยังไม่ปลอดภัยต่อตัวผู้ตรวจสอบ ส่งผลให้ประชาชนหลายคนไม่กล้าแสดงบทบาทนี้


 องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันและพันธมิตรได้ออกแบบแพลตฟอร์ม ACT Ai เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้งานได้ง่ายและปลอดภัย เชื่อมโยงฐานข้อมูลภาครัฐ ที่ผ่านมาใช้ตรวจสอบการทุจริตเสาไฟกินรีด้วย ACT Ai โดยประชาชนและสื่อได้รับความสำเร็จมาแล้ว ทั้งนี้ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเครื่องมือ ACT Ai จะได้รับการยอมรับจากประชาชนเพื่อใช้เป็นอาวุธ                  

                                   ชัชชาติลั่นผู้นำต้องโปร่งใสไม่เป็นหนี้บุญคุณใครถึงจะปราบคอร์รัปชันได้

ในการปราบโกง เพราะถ้าหากเราไม่ร่วมมือช่วยกันปราบโกงแล้ว จะยิ่งทำให้ปีศาจคอร์รัปชันมีอิทธิฤทธิ์สูงขึ้น ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อประเทศเพิ่มขึ้นตามมา
ทั้งนี้ ประชาชนสามารถเข้าใช้งาน ACT Ai ผ่านการกดเข้าใช้งานได้ที่ https://actai.co เพื่อเข้าถึงฐานข้อมูลในการตรวจสอบอย่างหลากหลาย ประกอบด้วย โครงการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ, ระบบจับโกงงบ COVID, โครงการ Build Better Lives by CoST, การตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินนักการเมือง, การตรวจสอบงบท้องถิ่น, กระดานวิเคราะห์ความเชื่อมโยงเครือข่ายการโกง (Corruption Analysis Dashboard)


การตรวจสอบการใช้งบในโรงเรียนด้วย School Governance และยังรวมถึงแพลตฟอร์มที่ระดมไอเดียใหม่ ๆ จากโครงการ ACTKathon  เช่น แจ้งเบาะแสเหตุสงสัยทุจริตคอร์รัปชันผ่าน LINE OA : จับตาไม่ให้ใครโกง Corruption Watch (@corruptionwatch)  และ Voice of Change เครื่องมือรับแจ้งเบาะแสการทุจริตสำหรับเจ้าหน้าที่รัฐ เป็นต้น


สำหรับ กิจกรรมวันต่อต้านคอร์รัปชัน ประจำปี 2565 จัดขึ้นในแนวคิด “ผู้นำ...กับการปราบโกง”  ณ ลานเวทีใหญ่ ชั้น M สถานีกลางบางซื่อ กรุงเทพฯ เป็นเวทีให้ผู้นำตั้งแต่ระดับท้องถิ่น จังหวัด และระดับชาติมีโอกาสมาร่วมเสวนาแลกเปลี่ยนประสบการณ์การปราบโกงร่วมกัน

 

ประกอบด้วย นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง, รศ.ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร, นายณรงค์ วุ่นซิ้ว   ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต, นายไมตรี ไตรติลานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา, นายพงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ นายกเทศมนตรีนครยะลา, นางสาวเพ็ญภัค รัตนคำฟู นายกเทศมนตรีตำบลเกาะคา จังหวัดลำปาง
อีกทั้งยังถ่ายทอดสดผ่าน เพจเฟสบุ๊กองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน เพื่อให้ผู้นำและประชาชนทั้งประเทศมีส่วนร่วมปลุกพลังปราบโกงไปในคราวเดียวกัน