นิพนธ์รับพระราชทานโล่เกียรติคุณลูกที่มีความกตัญญูกตเวทีอย่างสูงต่อแม่

12 ส.ค. 2565 | 07:23 น.

“นิพนธ์ บุญญามณี” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เข้ารับพระราชทานโล่เกียรติคุณลูกที่มีความกตัญญูกตเวทีอย่างสูงต่อแม่ ประจำปี 2565

เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2565 ที่โรงแรมเซ็นทรา บายเซ็นทารา ศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา เสด็จเป็นประธานในพิธีเปิดงานและพระราชทานพระฉายาลักษณ์แก่แม่ดีเด่นแห่งชาติ และพระราชทานโล่เกียรติคุณแก่ลูกที่มีความกตัญญูกตเวทีอย่างสูงต่อแม่ 

 

ในการนี้ นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เข้ารับพระราชทานโล่เกียรติคุณลูกที่มีความกตัญญูกตเวทีอย่างสูงต่อแม่ ประจำปี 2565 

 

ก่อนหน้านี้ สภาสังคมสงเคราะห์ฯ โดย พลตรีหญิง คุณหญิงอัสนีย์ เสาวภาพ ประธานสมาคมสภาสังคมสงเคราะห์ฯ ได้แถลงผลการคัดเลือกแม่ดีเด่นแห่งชาติ และผลการคัดเลือกลูกที่มีความกตัญญูกตเวทีอย่างสูงต่อแม่ 

                         นิพนธ์รับพระราชทานโล่เกียรติคุณลูกที่มีความกตัญญูกตเวทีอย่างสูงต่อแม่

ในการนี้ นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้รับการคัดเลือกให้รับรับรางวัลเชิดชูเกียรติลูกที่มีความกตัญญูกตเวทีอย่างสูงต่อแม่ ประจำปี 2565 ประเภทข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ นอกจากนี้ ยังมีบุคคลอื่นที่ได้รับการคัดเลือก เช่น ไรอัล กาจบัณฑิต , โทน บางแค เป็นต้น 

 

 

 

นายนิพนธ์ กล่าวว่า การดูแลเอาใจใส่พ่อแม่ ไม่ใช่เป็นภาระ แต่เป็นหน้าที่ของลูกที่ต้องดูแลตอบแทนบุญคุณ ในฐานะที่ได้เลี้ยงดูพ่อแม่มาอย่างสม่ำเสมอ ขอเป็นกำลังใจให้แก่ลูกๆ ทุกคนที่ทำหน้าที่เลี้ยงดูพ่อแม่และถือเป็นสิ่งดีงามของสังคมไทย ที่ต้องมีการถ่ายทอดให้แก่คนรุ่นต่อๆ ไป 

                               นิพนธ์รับพระราชทานโล่เกียรติคุณลูกที่มีความกตัญญูกตเวทีอย่างสูงต่อแม่

ในปัจจุบันนี้สังคมไทยได้เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ทำให้มีพ่อแม่ ปู่ย่าตายายแก่ชรามากขึ้น เราต้องช่วยกันดูแลให้คนในแต่ละช่วงวัยอยู่ร่วมกันให้ได้อย่างมีความสุข ที่แต่ละครอบครัวควรให้ความสำคัญกับการอยู่ร่วมกันของคนทั้งในวัยปู่ย่าตายาย วัยพ่อแม่ วัยรุ่น-ทำงาน และวัยลูกหลาน

                                   นิพนธ์รับพระราชทานโล่เกียรติคุณลูกที่มีความกตัญญูกตเวทีอย่างสูงต่อแม่
 การดูแลเอาใจใส่กันของคนทั้ง3-4 วัยนี้ จะเป็นรากเหง้าของความดีงามที่เริ่มจากครอบครัว ส่งต่อให้เกิดความสงบสุขในสังคม ทำสังคมให้เป็นสุข เราคนไทยต้องช่วยกันจรรโลงให้ความดีงามนี้อยู่คู่สังคมไทยตลอดไป