“บิ๊กตู่” ย้ำให้ศาลตัดสิน ปม"นายกฯ 8 ปี"

08 ส.ค. 2565 | 07:56 น.

“บิ๊กตู่” ย้ำให้ศาลตัดสินปม 8 ปี ด้าน“อนุทิน” ยันไม่ได้อยากเป็นนายกฯตอนนี้ แจงอยู่ใน ครม.ก็เป็นลูกน้อง พล.อ.ประยุทธ์

วันที่ 8 ส.ค.2565 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการระดับชาติเพื่อเตรียมการจัดการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคและการประชุมที่เกี่ยวข้อง ในช่วงที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปค ปี พ.ศ. 2565 ครั้งที่ 2/2565  

 

โดยผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีพรรคเพื่อไทยจะยื่นศาลรัฐธรรมนูญ ภายในวันที่ 17 ส.ค. 2565 กรณีการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปี โดย พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า “ก็เป็นเรื่องของศาล ตอบไปแล้ว”

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม

 ขณะที่  นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีที่ประกาศพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรี ว่า ต้องมีเงื่อนไขอย่างไร โดยนายอนุทิน กล่าวว่า ประชาชนส่วนใหญ่ต้องเลือกพรรคภูมิใจไทย เวลาหาเสียงก็ต้องหาเสียงอย่างเต็มที่

 

พร้อมเชื่อว่า ประเด็นนี้จะไม่ทำให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่พอใจ เพราะตนไม่ได้หมายความว่า จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีในตอนนี้ ซึ่งเมื่อเช้า ตนก็ได้พบเจอกับพลเอกประยุทธ์ แต่ไม่ได้พูดคุยถึงประเด็นนี้ เป็นการพูดคุยในประเด็นการทำงานทั่วไป

 

อีกทั้งแต่ละพรรคการเมือง ก็ลงพื้นที่หาเสียงเหมือนกัน ยกตัวอย่างวานนี้ มี 3 พรรคการเมืองลงพื้นที่พบประชาชน เพราะทุกพรรคต้องแสดงความพร้อม

         

ทั้งนี้ นายอนุทิน ขอรอให้ถึงช่วงเลือกตั้งก่อนจึงจะสามารถรู้ได้ว่าพรรคภูมิใจไทยจะได้เสียง ส.ส.กี่เสียง และทุกอย่างจะชัดเจนช่วงเย็นของวันเลือกตั้ง ว่าจะได้เป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน

         

เมื่อถามว่าพรรคภูมิใจไทย ดูเหมือนว่าเนื้อหอมที่สุดในบรรดาพรรคการเมืองทุกพรรค นายอนุทิน กล่าวว่า ทุกพรรคก็เนื้อหอมหมด เห็นพรรคพลังประชารัฐก็ไปเปิดตัวที่หนองคาย พรรคเพื่อไทยก็ไปที่เชียงราย พรรคก้าวไกลลุยพื้นที่กรุงเทพ ส่วนพรรคภูมิใจไทยก็ไปลพบุรี ทำไมทัวร์ต้องมาลงพรรคภูมิใจไทยเพียงคนเดียว ส่วนที่คนมีชื่อเสียงไหลเข้าพรรคภูมิใจไทยเป็นส่วนใหญ่ นายอนุทินกล่าวว่า เป็นแนวโน้มที่ดีสำหรับพรรคภูมิใจไทย
 

นายอนุทิน ยังกล่าวถึงกระแสข่าวที่ นายพุฒิพงษ์ ปุณณกันต์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอีเอส จะมาร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทย ว่า นายพุฒิพงษ์กับตนเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่รุ่นคุณแม่ การหารือกันจึงเป็นเรื่องปกติ ดังนั้น หากมีความเป็นไปได้ที่จะร่วมงานกัน ก็ถือเป็นโอกาสที่ดี เพราะนายพุฒิพงษ์ ก็เป็นคนที่เข้าใจพื้นที่กรุงเทพฯ แต่พรรคภูมิใจไทยอ่อนในพื้นที่นี้ ซึ่งตอนนี้ยังคงอยู่ในกระบวนการหารือกัน

         

ขณะที่เรื่องตระกูลสะสมทรัพย์ ของจังหวัดนครปฐม ตนไม่ทราบว่าข่าวมาจากไหน ยังไม่มีอะไร แต่ก็ยอมรับว่า มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมานานแล้ว

         

นายอนุทิน ยังกล่าวถึงกรณีที่พรรคการเมืองลงพื้นที่ถี่ยิบ ไม่ได้เกี่ยวกับกระแส 8 ปีของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่สภาชุดนี้จะหมดวาระในวันที่ 21 มีนาคม 2566 อยู่แล้ว ก็เหลือเวลาประมาณ 9 เดือนจึงเป็นเรื่องปกติที่พรรคการเมืองจะต้องเตรียมการในการเลือกตั้ง

 

   เมื่อถามว่า หากมีกระแสต่อต้านพลเอกประยุทธ์ มากขึ้น นายอนุทิน พร้อมเป็นนายกรัฐมนตรีแทนหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่เกิดเหตุการณ์นั้นขึ้น วันนี้รัฐบาลชุดนี้ ทำงานอย่างเต็มที่ ทุกคนทำงานหามรุ่งหามค่ำ และยังมีภาระที่จะต้องทำงานต่อไป อยู่ที่นี่ตนก็ต้องเป็นลูกน้องของพลเอกประยุทธ์ อยู่ที่สภาก็เป็นลูกน้องประชาชน ก็ต้องใช้บทบาทแต่ละบทบาทให้ถูกต้อง อยู่ในคณะรัฐมนตรี จะมาเล่นการเมืองก็ไม่ได้เพราะต้องทำงานเพื่อบ้านเมือง