นายกฯนัดแกนนำพรรคร่วม ดินเนอร์กระชับมิตรเย็นนี้ "เสี่ยหนู"บอกไปไหนไปด้วย

08 มี.ค. 2565 | 04:28 น.

"บิ๊กป้อม"ปัดตอบ"ธรรมนัส" ร่วมดินเนอร์ เย็นนี้หรือไม่ ด้าน "เสี่ยหนู" ยันสัมพันธ์ดีอยู่แล้ว ไม่ต้องกระชับ ไหนไปด้วย ช่วยบาทเดียว

 วันที่ 8 มี.ค.2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ปฏิเสธตอบคำถามถึงกรณีการรับประทานอาหารร่วมกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พร้อมกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ที่สโมสรราชพฤกษ์ ในช่วงเย็นวันเดียวกันนี้ โดยพล.อ.ประวิตร เพียงแต่พยักหน้ายอมรับ

 

ผู้สื่อข่าวถามว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคเศรษฐกิจไทย จะร่วมรับประทานอาหารด้วยหรือไม่ พล.อ.ประวิตร ไม่ตอบคำถามดังกล่าว ก่อนจะขึ้นรถหน้าตึกบัญชาการ1 เพื่อไปประชุมครม.ที่ตึกสันติไมตรีทันที

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม

ขณะที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ระบุว่า ตนเพิ่งได้รับการประสานมาเมื่อวันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมา ช่วงเย็น โดย นายกฯ ได้ให้นายทหารคนสนิทประสานมา ซึ่งยังไม่ทราบรายละเอียดอะไร ทราบว่าเป็นการเชิญหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคร่วมรัฐบาล ส่วนตัวเห็นว่าเป็นเรื่องดี เพราะพรรคร่วมรัฐบาลไม่ได้เจอกันนานแล้ว

 

เมื่อถามว่างานเลี้ยงครั้งนี้ถือเป็นการกระชับความสัมพันธ์ของพรรคร่วมให้มั่นคงยิ่งขึ้นหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ความสัมพันธ์ดีอยู่แล้ว ไม่ต้องกระชับ ส่วนตัวคิดว่าเป็นการอัพเดตซึ่งกันและกันมากกว่าว่าใครไปทำอะไรมาบ้าง ใครกำลังทำอะไร หรือใครอยากทำอะไรต่อไป ก็ดี ถือเป็นนิมิตหมายที่ดี

 

ผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นการส่งสัญญาณว่าจะผ่านการอภิปรายไปด้วยกันใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า โดยสปิริตของการร่วมรัฐบาลก็ต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว ไม่ต้องคอนเฟิร์มหรอก เราเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ยกเว้นว่าคนที่ถูกอภิปรายไม่สามารถตอบคำถามได้ หรือทำสิ่งใดที่เป็นสิ่งที่ร้ายต่อบ้านเมือง ทุจริตคดโกง อย่างนี้ก็ไม่ต้องประชุมเหมือนกัน

 

“เราก็สวนเหมือนกัน เราอยู่ด้วยสปิริต ซึ่งวิญญูชนก็ต้องเข้าใจด้วยว่าสปิริตแปลว่าอะไร หนุนในสิ่งที่ดี ค้านในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ไม่ยาก” นายอนุทินกล่าว

 

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข
 

 

เมื่อถามว่างานเลี้ยงวันนี้เป็นการเชิญพรรคร่วมรัฐบาล มีพรรคเศรษฐกิจไทยรวมอยู่ด้วยหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ไม่ทราบ ต้องถามเจ้าภาพ สำหรับตนวันนี้ไปไหนไปด้วย ช่วยบาทเดียว วันนี้รับเลี้ยง ก็ดีถ้ามีแบบนี้บ่อยๆ มันก็กระชับความสัมพันธ์ การทำงานที่ไหนก็ต้องกระชับความสัมพันธ์ อาจจะมีการเสนอให้มีการสลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันเป็นเจ้าภาพ จะได้มีการพบปะกันในลักษณะที่ไม่ใช่อยู่ในเนื้องานมากขึ้น เพราะปกติทุกวันนี้ที่พบปะกันก็เป็นในการประชุม หรือเจอกันตามงานต่างๆ เวลาพูดอะไรกันบางทีก็ไม่ได้เตรียมตัวกัน

 

ด้านนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์พรรคชาติไทยพัฒนา​ (ชทพ.)​ กล่าวว่า น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชทพ. มอบหมายให้ตน และนายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรค ไปเข้าร่วมรับประทานอาหารเย็นตามคำเชิญของนายกฯ เชื่อว่าการพบปะกันครั้งนี้ถือเป็นสัญญาณที่ดีในการที่จะทำงานร่วมกัน ไม่ว่าจะเตรียมเพื่ออะไรก็แล้วแต่ เพราะพรรคร่วมรัฐบาลเองไม่ได้พบปะพูดคุยรับประทานอาหารร่วมกันมาระยะหนึ่งแล้ว

นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

การพบปะกันระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลไม่น่าจะเป็นเพียงการพบปะกันในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี​ (ครม.)​ เท่านั้น การที่นายกฯเชิญในครั้งนี้จะได้มีการคุยกันนอกรอบ หรือปรับความเข้าใจ หรือถ้ามีประเด็นใดก็จะได้พูดคุยหารือกัน เพราะอนาคตข้างหน้าหากมีปัญหาใดเข้ามาจะได้ช่วยกันแก้ไข ส่วนตัวไม่มีประเด็นใดไปหารือกับนายกฯหรือพรรคร่วมรัฐบาล​ เพราะ​ชทพ. ทั้งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เราทำงานเต็มที่และมั่นใจในการทำงานกับรัฐบาล ถึงแม้ว่าจะมีหลายปัญหาเข้ามาให้พรรคร่วมรัฐบาลแก้ไข

 

เชื่อว่านายกฯสามารถใช้พละกำลังในการแก้ไขปัญหาได้ ถือเป็นสัญญาณที่ดี ไม่ได้มีปัญหาหรือคำถามอะไรที่จะให้นายกฯแก้ไขเป็นการเฉพาะเจาะจง

 

ผู้สื่อข่าวถามว่า การพบปะครั้งนี้ มีนัยยะทางการเมืองหรือไม่ เพราะเป็นการนัดท่ามกลางกระแสรัฐบาลระส่ำระสาย​ นายวราวุธ กล่าวว่า ตนคงให้คำตอบเหมือนเดิมว่า รัฐบาลถูกคาดการณ์ว่าระส่ำกันมาตั้งแต่ปีแรก ถ้าจะถามว่าการรับประทานอาหารเย็นนี้จะเป็นการส่งสัญญาณอะไรนั้น คงเป็นการส่งสัญญาณว่าการทำงานของรัฐบาลยังอยู่ในเรือลำเดียวกัน หากเครื่องยนต์กลไกส่วนไหนเสีย หรือมีส่วนไหนรั่ว ก็เป็นหน้าที่ของพวกเราทุกคนที่จะต้องช่วยกันปะผุ นำพารัฐนาวานี้ไปให้ถึงฝั่ง ตนยังมั่นใจว่ารัฐนาวานี้จะไปถึงฝั่ง และในที่สุดแล้วนายกฯจะเป็นผู้ตัดสินใจเองว่าจะยุบหรือไม่ยุบ แต่วันนี้นายกฯยังให้สัญญาณด้วยความมั่นใจอยู่ว่า ยังเดินหน้าเต็มที่ในการที่จะพาไปถึงฝั่ง