“แรมโบ้” นั่งควบปธ.2 ชุดแก้หวยแพง ตั้งเป้า 2 เดือนสลากไม่เกิน 80 บาท

01 มี.ค. 2565 | 08:23 น.

“แรมโบ้” นั่งควบประธานแก้หวยรัฐบาลแพง 2 ชุด ร่วมกับ “บิ๊กโจ๊ก-บิ๊กจวบ"ยืนยันทำเต็มที่ คาด 2 เดือนราคาสลากลดต่ำลงเข้าเป้าไม่เกิน 80 บาท

วันที่ 1 มีนาคม  2565 นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะกรรมการแก้ไขปัญหาผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการเสนอขายหรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคาเกินกว่าที่กำหนดในสลากกินแบ่งรัฐบาล  มีคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ 3 คณะ ประกอบด้วย 1.คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาการเสนอขายหรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคาเกินกว่าที่กำหนดในสลากกินแบ่งรัฐบาล  มีตนเอง เป็นประธาน และพลตำรวจโทสุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นรองประธานอนุกรรมการ  

 

2.คณะอนุกรรมการศึกษาแนวทางและมาตรการในการแก้ไขปัญหาการเสนอขายหรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา มีนายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน  3. คณะอนุกรรมการสร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์ ที่มีอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ เป็นประธาน

และได้แต่งตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจตรวจสอบผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลเสนอขายหรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคาเกินกว่าที่กำหนดในสลากกินแบ่งรัฐบาล มีตนเองเป็นประธาน และพลตำรวจโทประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นรองประธาน ซึ่งมีนายชัช ชลวร อดีตประธานตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเป็นประธานที่ปรึกษาคณะทำงานเฉพาะกิจ

 

“แรมโบ้” นั่งควบปธ.2 ชุดแก้หวยแพง  ตั้งเป้า 2 เดือนสลากไม่เกิน 80 บาท

นายเสกสกล ยังระบุว่าคณะอนุกรรมการทั้ง 3 คณะและอีก 1 ทีมเฉพาะกิจ นี้ก็จะได้บูรณาการการทำงานร่วมกัน ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และมีประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาสลากแพงเกินราคา ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากการขายสลากราคาแพง

 

“นอกจากเป็นประธานอนุกรรมการทำงานร่วมกับบิ๊กโจ๊ก ผช.ผบตร.แล้ว ตนเองยังได้รับการแต่งตั้งให้ เป็นหัวหน้าชุดดำเนินการกับผู้กระทำผิดกฎหมาย ร่วมกับบิ๊กจวบ ผช.ผบตร.และคณะ ยืนยันว่าจะดำเนินการให้ดีที่สุดและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นให้ได้  โดยมีการจัดตั้งเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจ ลงไปตรวจสอบ ร้านยี่ปั๊ว หรือนายทุนที่ขายสลากเกินราคา   โดยแผนระยะสั้นจะต้องเห็นราคาสลากลดต่ำลงมาให้ได้ ภายใน 2 เดือน”   
 

" ขอเตือนไปยังนายทุน ยี่ปั๊วะ ซาปั๊วะทั้งหลายที่เอาเปรียบประชาชนขายเกินราคา จะต้องถูกดำเนินการทางกฎหมายและมีมาตรการบทลงโทษไม่ให้เอาเปรียบประชาชน เพราะเป็นการเห็นแก่ตัวทำความเดือดร้อนให้กับประชาชนมากเกินไป 

 

" นายกฯมีบัญชาให้แก้ไขให้ตรงจุด มีปัญหาหาจุดไหนให้ตรวจสอบแก้ไขในจุดนั้น และให้เร่งรัดทำอย่างจริงจัง ไม่มีผลประโยชน์แอบแฝง ต้องทำให้สำเร็จเพื่อบรรเทาลดความเดือดร้อนของประชาชน นี่คือความห่วงใยที่นายกฯตั้งใจแก้ไขปัญหาทุกเรื่องให้กับประชาชน" นายเสกสกล กล่าว