“4 ประเด็น” สางปมเกณฑ์ลดโทษผู้ต้องขัง จากมุมมอง “หมอพรทิพย์”

18 ธ.ค. 2564 | 01:35 น.

“หมอพรทิพย์” แพทย์หญิง คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ สมาชิกวุฒิสภา เผยมุมมอง มี 4 ประเด็นที่ต้องมีการชี้แจง ไขข้อข้องใจของสังคมปมเกณฑ์ลดโทษผู้ต้องขัง 

จากกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ลงนามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี แต่งตั้ง คณะกรรมการตรวจสอบการดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการอภัยโทษ นั้น เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. แพทย์หญิง คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Porntip Rojanasunan แสดงข้อคิดเห็น โดยระบุว่า 

 

นับแต่เกิดประเด็น ยังไม่มีการชี้แจงใดๆ ที่ชัดเจนว่าเกิดจากอะไร ตั้งกรรมการอิสระแล้วคงต้องติดตามเพราะกรรมการทุกชุดที่ตั้งไม่เคยมีความคืบหน้าที่เป็นรูปธรรมเช่นคดีบอส

 

ประเด็นใหญ่ๆ ที่ต้องดูคือ

1) ในกฎหมายและระเบียบราชทัณฑ์ไม่มีการพูดถึงประเภทการทำความผิด มีเพียงคำว่านักโทษเด็ดขาด ที่จะนำมากำหนดแนวทางในการลดโทษ ข้อนี้สำคัญมากด้วยเพราะนักโทษทุจริตคอรัปชั่นแผ่นดินค้ายาเสพติด ค้ามนุษย์และฆาตกรต่อเนื่องควรกำหนดแนวทางแยกชัดเจนไม่ใช่เหมารวมกับคำว่านักโทษเด็ดขาด

 

2) มีการแก้กฎหมายราชทัณฑ์ในปี2560 โดยสนช ทราบว่ามีประเด็นที่ต้องการให้กำหนดกรอบแต่สุดท้ายก็เป็นเช่นเดิม แต่สิ่งที่เปลี่ยนแปลงดีขึ้นคือกรรมการราชทัณฑ์ถูกปรับเปลี่ยนจากคนในเท่านั้น ให้กลายเป็นกรรมการจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยงาน และยังกำหนดบทบาทที่น่าจะแก้ปัญหาได้ น่าสนใจว่ากรรมการชุดนี้เกี่ยวข้อง ตรวจสอบ เสนอแนะอะไรไปบ้างตั้งแต่มีการแก้กฎหมาย

 

3) ในครั้งนี้เสนอปรับแก้กฎกระทรวงในวันที่3ธค2564 ปรับมาตรการการลดโทษ มีการเขียนชัดเจนว่าวัตถุประสงค์คือเพื่อลดความแออัดในเรือนจำ และเป็นการให้โอกาสนักโทษเด็ดขาดที่กระทำความผิดซ้ำ นักโทษเด็ดขาดชั้นกลางที่มีความประพฤติดี

 

4) เกณฑ์การลดโทษกำหนดในลักษณะที่ต้องมีการกระทำสิ่งดี และห้ามกระทำสิ่งที่ไม่ดี ซึ่งระดับบนคงไม่สามารถลงในรายละเอียดได้หมด

สี่ประเด็นนี้แหละที่ต้องมีการชี้แจง กรรมการราชทัณฑ์ได้ร่วมประชุมพิจารณาอย่างไรในการเสนอเปลี่ยนเกณฑ์ สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนคือผู้บัญชาการเรือนจำต่าง ๆ คือผู้เสนอรายชื่อซึ่งเป็นเรื่องภายใน มีการตรวจสอบอย่างไร

 

มนุษย์นี่แหละที่เต็มไปด้วยกิเลส หากคนทั่วไปนิยมชมชอบพฤติกรรมแสวงประโยชน์ มีความสุขกับการบำรุงบำเรอเลี้ยงดูปูเสื่อก็จะเกรงใจที่จะตรวจสอบ

 

หลักการสำคัญของรัฐธรรมนูญคือ

  • ความยุติธรรม
  • ความเท่าเทียม
  • สิทธิเท่าเทียม
  • ความเป็นมนุษย์

ได้รับการดูแลด้วยคุณภาพและมาตรฐาน

 

ถึงเวลาแล้วที่ประชาชนจะตื่นรู้ว่าประชาธิปไตยที่พูดกันทั่วไปมีสิ่งเหล่านี้อยู่จริงไหม คนรวย คนมีอำนาจยังเป็นคนได้ประโยชน์เหนือคนทั่วไป

 

ก่อนหน้านี้ หมอพรทิพย์ได้โพสต์เฟซบุ๊กแสดงทัศนะว่า ปัญหาในกระบวนการยุติธรรมมีอยู่ทั้งท่อนต้นคืองานตำรวจ และท่อนปลายคือราชทัณฑ์ น่าเสียดายที่การขับเคลื่อนการปฏิรูปทั้งสองเรื่องไม่ได้มีในแผนปฏิรูปประเทศ เรื่องของตำรวจยังคงเน้นเรื่องการแต่งตั้งการเลื่อนขั้นที่อยู่ในชั้นการพิจารณาร่วมของ ส.ว.และ ส.ส. มีชิงไหวชิงพริบตลอดเวลา ในส่วนราชทัณฑ์ต่อประเด็นเรื่องการลดโทษนักโทษโกงแผ่นดินเป็นเพียงเศษเสี้ยวเดียว หากข่าวว่านายกฯ ตอบอย่างไรเป็นเรื่องจริง ข้อนี้น่าเป็นห่วงยิ่ง การปฏิรูประบบราชทัณ์ต้องมองทั้งระบบ

 

ราชทัณฑ์ต้องกำหนดภารกิจให้ชัดเจนคือกักขัง บำบัด ฟื้นฟู มิใช่กักขังแล้วพื้นที่เต็มก็ระบายออก