หลังปิดฉากมหากาฬค่าโง่โฮปปเวลล์ ระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กับ บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะคู่สัญญา เนื่องจากศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาให้กระทรวงคมนาคม และรฟท. ชดใช้ค่าเสียหายให้กับบริษัท โฮปเวลล์ เป็นเงิน 11,888 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย 7.5% ตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการเมื่อวันที่ 22เมษายน 2562นั้น แต่ จนถึงปัจจุบันกระทรวงคมนาคม และรฟท.ยังไม่ได้ดำเนินการตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด ทำให้ต้องเสียดอกเบี้ยวันละประมาณ 2.4 ล้านบาท/วันส่งผลให้ขณะนี้จำนวนเงินต้นและดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 2.6 หมื่นล้านบาท
ค่าโง่โอปเวลล์ถูกหยิบยกมาเป็นประเด็นอีกครั้ง เมื่อนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีไปออกรายการหนึ่ง และ มีการพาดพิง ถึงบริษัท โฮปเวลล์ ที่ชนะคดีค่าโง่โฮปเวลล์ แต่ มีข้อความหลายข้อความที่คลาดเคลื่อนไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ส่งผลให้ บริษัทโฮปเวลล์ ต้องออกหนังสือแถลงการณ์27 หน้า ชี้แจงเรื่อง ‘โฮปเวลล์ ความจริงที่ไม่คลาดเคลื่อน’โดยเฉพาะประเด็นบริษัทโอปเวลล์ที่จะทะเบียนตั้งบริษัทในไทยผิดกฎหมายทั้งที่ กระทรวงพาณิชย์ได้ออกมาชี้แจงว่าสามารถกระทำได้ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม บริษัทโฮปเวลล์ ยอมรับในกระบวนการยุติธรรมของศาลประเทศไทย แต่เนื่องจากการกล่าวหาดังกล่าว มีข้อความก้าวล่วงอำนาจศาลและอาจจะก่อให้เกิดผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมของศาลไทยดังนั้น จึงมีความจำเป็นต้องนำข้อเท็จจริงที่ปรากฏอยู่ในกระบวนการยุติธรรมมานำเสนอให้สังคม และสื่อมวลชนได้เข้าใจ