แห่อาลัย“สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์”ชี้สูญเสียคนที่ไม่เห็นแก่ตนไปอีกคน
แห่อาลัย “สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์” ชี้ประเทศชาติสูญเสียคนที่ไม่เห็นแก่ตนเองไปอีกหนึ่งคน “ส.ศิวรักษ์”ร่วมแสดงความเสียใจ
วันนี้(14 พ.ย.64) นายพิภพ ธงไชย อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้โพสต์เฟซบุ๊ก Pibhop Dhongchai ซึ่งเป็นการรวบรวมคำไว้อาลัยของบุคคลต่างๆ ต่อการจากไปของ อ.สมเกียรติ พงษ์ไพยูลย์ อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
กว่า 20 ปี ที่รู้จัก ขณะที่ดำรงตำแหน่งอาจารย์ / ดำรงตำแหน่ง ผศ.อาจารย์ก็ใช้เวลากว่าครึ่งของการพักผ่อน มารับรู้ หาทางแก้ปัญหาให้กับมวลชนกลุ่มต่างๆ ไม่เคยหยุดนิ่ง เป็น Role Model ให้กับคนทำงานภาคประชาชน
ใน 193 วันของการทำงานเพื่อชาติศาสน์ กษัตริย์ อาจารย์ยืนหยัดทุกวัน เวลา พร้อมประโยคติดปาก "ก็แล้วแต่" หลังการชุมนุม 193 วัน อาจารย์เป็นโต้โผ ทำหน้าที่ประสานงานกับผู้นำแต่ละจังหวัด จัดสัญจร เพื่อสนับสนุน ASTV
เมื่อเหตุการณ์ รสช.เกิดขึ้น อาจารย์มุ่งมั่น จะหาทางแก้ปัญหาหนี้สินครู ไม่เคยหยุดทำงาน เขียนๆๆ แลกเปลี่ยน ในบริบทที่ตนทำได้ วันนี้ อาจารย์ได้พักผ่อน เป็นการพักผ่อนที่จากเพื่อนมิตรไปชั่วนิจนิรันดร์
วันนี้ อาจารย์ได้พักผ่อน เป็นการพักผ่อนที่จากเพื่อนมิตรไปชั่วนิจนิรันดร์
ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัว ทั้ง อ.หน่อย-ลูกๆ และพี่-น้องอาจารย์ รวมทั้งเพื่อนมิตร
ที่แน่ๆ ประเทศชาติสูญเสียคนที่ไม่เห็นแก่ตนเองไปอีกหนึ่งคน
ขอคารวะ อ.สมเกียรติ พงษ์ไพยูลย์ ชื่อนี้จารึกในหัวใจตราบนานเท่านาน
ธัญญา-มาลีรัตน์-แสงธรรม
นอกจากนั้น นายพิภพ ธงไชย ยังได้โพสต์
คารวาลัย : สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์
ถึงระเบิด จะบากบั่น เข้าฟันฝ่า
แก๊สน้ำตา ห่ากระสุน จะเข้าใส่
โซ่ตรวน แดนตาราง คุกเข็ญใด
ไม่อาจขัง หัวใจ ให้จำจอง
สม ศักดิ์ประจักษ์ ชายชาติเชื้อ
เกียรติ เพื่อมวลมหา ประชาผอง
พงษ์ เพ็ญใสสว่าง ดั่งไยยอง
ไพบูลย์ เคลื่อนครรลอง ครรไลธรรม
ด้วยคารวาลัย
กาญจน์ลดา-ประสาร มฤคพิทักษ์
14 พ.ย. 2564
++++
แด่ สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์
สมเกียรติเป็นครูที่สอนลูกศิษย์มากในภาคอีสาน ลูกศิษย์สมเกียรติก็เป็นครูด้วย จึงนับได้ว่าสมเกียรติเป็นครูของครู ดังภาษาบาลีใช้คำว่า ปาจารย์
สมเกียรติไม่ได้สอนเฉพาะในห้องเรียน เขาจะออกไปเยี่ยมศิษยานุศิษย์ในจังหวัดต่างๆ การที่เขาออกไปเยี่ยมลูกศิษย์นั้นเขาก็ไปเรียนด้วย ทั้งเรียนจากลูกศิษย์และเรียนจากชาวบ้านร้านตลาดต่างๆ เป็นเหตุให้เขารู้จักสังคมทางภาคอีสานดีมาก และเขาเห็นว่าผู้คนที่เขาประสบพบมาส่วนมากยากไร้ และถูกสังคมชนชั้นกลางเอาเปรียบ เขาจึงสนใจทางการเมืองเป็นพิเศษ
ต่อมาเขาร่วมกับพิภพ ธงไชย จำลอง ศรีเมือง และคนอื่นๆ ที่ได้ยี่ห้อว่าเป็นผู้นำของฝ่ายเสื้อเหลือง เขาต่อสู้กับเผด็จการ ไม่ว่าจะทักษิณ ชินวัตร หรือประยุทธ์ จันทร์โอชา เพราะเขาเห็นว่า คนมีอำนาจเหล่านี้ล้วนกินโกงบ้านเมืองทั้งนั้น ทักษิณกินในระบบทุนนิยม ประยุทธ์กินแบบทหาร ในนามการรัฐประหาร เรียกได้ว่า คนหนึ่งเป็นอัปรีย์ อีกคนหนึ่งเป็นจัญไร
สมเกียรติและคณะของเขาต่อสู้ด้วยอหิงสา แต่ก็มิวายที่จะต้องถูกจับกุมดำเนินคดี น่าเสียดายที่การต่อสู้ดังกล่าวยังแลไม่เห็นชัยชนะ แต่แล้วโรคาพยาธิก็กัดกินสมเกียรติเสียก่อน จนถึงกับเขาสูญเสียความทรงจำ แต่ก็มีพรรคพวกเพื่อนฝูงและศิษย์หาดูแลเขาอย่างเอาใจใส่ แม้เขาจะอยู่ถึงโคราชก็มีพรรคพวกไปดูแลเขา ทั้งจากกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด นับว่ากรณียกิจที่เขาทำอย่างน้อยก็มีคนเข้าใจและเห็นคุณค่าของเขา
การที่เขาตายจากไป ผมจึงขอแสดงความเสียใจไว้ในที่นี้
ส. ศิวรักษ์