ซูเปอร์โพล ชี้ ปชช.เซ็ง ราชการไม่ตื่นตัว ไร้เทคโนฯเตือนภัยน้ำท่วม

03 ต.ค. 2564 | 03:55 น.

สำนักวิจัย ซูเปอร์โพล เสนอผลสำรวจภาคสนาม" วิกฤตน้ำท่วม กับสิ่งที่ปรากฎ"ชี้ ประชาชน ผิดหวังหน่วยงานราชการ ทำงานไม่เชื่อมโยง ขาดการตื่นตัวไร้เทคโนฯเตือนภัยน้ำท่วมล่วงหน้า

วันที่ 3  ก.ย. 2564 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เสนอผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง วิกฤตน้ำท่วม กับสิ่งที่ปรากฎ  กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศโดยดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) จำนวน 1,196 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 27 กันยายน – 2 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา เมื่อถามถึงสิ่งที่เห็น สิ่งที่ผิดหวัง และสิ่งที่อยากเห็นในช่วงวิกฤตน้ำท่วม พบว่า

 

ส่วนใหญ่การลงช่วยเหลือของประชาชน หรือร้อยละ 59.3 ระบุภาคการเมือง เห็น พรรคพลังประชารัฐ ลงช่วยในพื้นที่มากกว่าพรรคอื่น  ร้อยละ 52.6 ภาคราชการ เห็นกองทัพ ลงลุยช่วยเหลือประชาชนเข้าถึงพื้นที่น้ำท่วมรวดเร็วมากกว่าหน่วยอื่น และร้อยละ 52.1 ระบุ ผู้นำฝ่ายบริหาร เห็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ช่วยเหลือดูแลประชาชนในพื้นที่น้ำท่วม

ที่น่าพิจารณา คือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 84.5 ระบุ ผิดหวัง ต่อการทำงานของข้าราชการแต่ละหน่วยงาน ที่ต่างคนต่างทำ ไม่เชื่อมโยงกัน จนเกิดความเสียหายต่อประชาชนและทรัพย์สิน ร้อยละ 83.9 ผิดหวัง ต่อ ระบบการเตือนภัยพิบัติธรรมชาติ ที่ไม่บูรณาการและไม่มีประสิทธิภาพพอสำหรับการช่วยเหลือเตือนภัยให้ประชาชนทราบล่วงหน้า และที่น่าสนใจร้อยละ 78.5 รู้สึกเบื่อและผิดหวังต่อ นักการเมืองฝ่ายค้าน ที่มุ่งโจมตีบั่นทอนสร้างความแตกแยกของประชาชนแม้ยามวิกฤตของประเทศ 

 

ซูเปอร์โพล ชี้ ปชช.เซ็ง ราชการไม่ตื่นตัว ไร้เทคโนฯเตือนภัยน้ำท่วม

 

อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 91.9 อยากเห็น ความร่วมมือจริงใจกันทุกฝ่ายในยามวิกฤต ในความรักและสามัคคี เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เห็นอกเห็นใจกันระหว่าง ภาคการเมือง ภาครัฐ ประชาชน และภาคเอกชน  ร้อยละ 91.2 อยากเห็น การนำเทคโนโลยีมาใช้ช่วยเหลือประชาชนที่เป็นรูปธรรมโดยเร็วทั้ง แจ้งเตือนภัยล่วงหน้า การอพยพช่วยเหลือประชาชน และทรัพย์สินให้ปลอดภัย และร้อยละ 89.6 อยากเห็น ข้าราชการหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบหลักตื่นตัวและตอบสนองปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนทันทีมากกว่าที่เป็นอยู่ ทั้งการป้องกัน การช่วยเหลือ การเยียวยาและฟื้นฟู

ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวต่อว่า วิกฤตน้ำท่วม สะท้อนสิ่งที่ปรากฎจากประชาชนได้สัมผัสและเห็นการตอบสนองลงช่วยเหลือดูแลประชาชนยามวิกฤตที่ได้รับความเดือดร้อน ทั้งภาคการเมือง รัฐบาล และภาคราชการ ที่สำคัญได้สะท้อนความผิดหวัง ต่อหน่วยงานราชการรับผิดชอบ ที่ไม่ทำงานเชื่อมโยงกันและยังไม่มีระบบเทคโนโลยีแจ้งเตือนภัยที่มีประสิทธิภาพเพียงพอ และที่ไม่ผิดไปจากความคาดหวัง คือเบื่อหน่ายต่อนักการเมืองที่เอาแต่พูดสร้างภาพ บั่นทอนพลังสามัคคี สร้างความแตกแยกกันเอง แม้ยามวิกฤตประชาชนเดือดร้อนกันทั่ว

 

 ขณะเดียวกันผลโพลนี้ได้สะท้อนสิ่งที่ประชาชนคาดหวังมากที่สุด คือ ความรักสามัคคีร่วมมือเป็นหนึ่งเดียวกันจากทุกฝ่าย ทั้ง ภาคการเมือง ภาครัฐ ภาคเอกชนและประชาชน ในการช่วยเหลือและให้กำลังใจกันยามเดือดร้อน  รองลงมา คือ การมีระบบเทคโนโลยีแจ้งเตือนภัยที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ เพื่อแจ้งเตือนล่วงหน้าลดความเสี่ยงและความเสียหายที่จะเกิดขึ้น ที่สำคัญต้องการเห็นความตื่นตัวของภาคราชการ โดยเฉพาะข้าราชการหน่วยรับผิดชอบหลัก ที่ต้องลงตอบสนองช่วยเหลือประชาชนด้วยความรวดเร็ว ต่อเนื่องและครอบคลุมทุกปัญหามากกว่าที่เป็นอยู่