"พท."โชว์ใบเสร็จ 4แสนล้าน จี้"นายกฯ"รับผิดชอบ หากจัดหาวัคซีนไม่ทัน

02 ก.ย. 2564 | 03:45 น.

"จิราพร"โชว์ใบเสร็จ 4แสนล้าน จี้"นายกฯ"รับผิดชอบ หากจัดหาวัคซีนไม่ทัน ชี้ข้อสั่งการนายกฯแก้โควิดกว่า 200 ฉบับ แต่บริหารล้มเหลว

การประชุมสภาผู้แทนราษฎร  เพื่ออภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล วันที่สาม  ( 2 ก.ย. 64)ได้เริ่มขึ้นเวลา 09.00 น. มีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯ คนที่สอง ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม    โดยน.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย  อภิปรายทวงถามการนำเอกสารการโอนเงินค่าวัคซีน ทั้งหลักฐานการจ่ายเงิน ระหว่าง กรมควบคุมโรค ไปยัง องค์การเภสัชกรรม และ หลักฐานการโอนเงิน ระหว่าง องค์การเภสัชกรรม ไปยังบริษัทซิโนแวค ทุกครั้งที่สั่งซื้อมาแสดงต่อสภาฯ อย่าใช้เพียงแค่หลักฐานเป็นใบสั่งซื้อ  ทั้งนี้หลักฐานการโอนเงินเพื่อซื้อวัคซีนนั้น สามารถเปิดเผยได้ เพราะเป็นเอกสารของหน่วยงานรัฐในประเทศ ไม่ใช่สัญญาระหว่างประเทศ 


        “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และนายอนุทิน ชาญวีรกูล ต้องนำเอกสารการโอนเงินต้องนำมาแสดง เพื่อยืนยันว่าไม่มีเงินทอน หรือ ค่าส่วนต่าง หากไม่นำมาแสดงต่อสภาฯ แสดงว่ามีเจตนา และหากทำไม่ได้ ต้องหยุดโกง นอกจากนั้นรัฐบาลต้องแสดงผลการติดตามผลงานวิจัยซึ่งรัฐบาลใช้งบประมาณแผ่นดินสนับสนุนให้กับ 9 บริษัทมาแสดงต่อสภาฯ ด้วย” น.ส.จิราพร อภิปราย

"พท."โชว์ใบเสร็จ 4แสนล้าน จี้"นายกฯ"รับผิดชอบ หากจัดหาวัคซีนไม่ทัน

 น.ส.จิราพร อภิปรายด้วยว่า สำหรับการจัดซื้อชุดตรวจเอทีเค ตนไม่แน่ใจว่า นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เห็นคำว่าเอทีเค เป็นเอทีเอ็ม หรือบัตรกดเงินกันแน่ เพราะสิ่งที่พล.อ.ประยุทธ์ชี้แจงต่อสภาฯ เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม ต่อประเด็นเอทีเค นั้นคือการโกหกกลางสภาฯ และตนขอท้าให้ลาออกจากตำแหน่งเพื่อรับผิดชอบกับคำพูดของตนเอง เพราะตนมีเอกสารเป็นสรุปรายงานการประชุมของศบค. เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2564 เวลาา 13.30 น. ประชุมผ่านระบบทางไกล พบข้อสั่งการข้อ6 ระบุว่า การจัดหาชุดตรวจเอทีเค ต้องผ่านการรับรองจากอ.ย. และได้การรับรองจากองค์กรอนามัยโลก และเร่งจัดหาให้ทัน พร้อต้องส่งมอบให้ทันตามกำหนด ดังนั้นสิ่งที่พล.อ.ประยุทธ์ เปลี่ยนข้อสั่งการของตนเองถือว่าเป็นการกลืนน้ำลายตัวเอง รวมถึงสะท้อนว่าข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีนั้นคือ วาทะกรรม ไร้น้ำยา 

       

น.ส.จิราพร อภิปรายด้วยว่า ข้อสั่งการของพล.อ.ประยุทธ์ มีมากกว่า 200 ฉบับ แต่แม้สั่งการแล้ว การทำงานยังล้มเหลว เศรษฐกิจพังพินาศ ส่อเข้าสู่รัฐล้มเหลว ทั้งนี้เมื่อพฤศจิกายน 2563 มีหนังสือจากกระทรวงสาธารณสุขประเมินความเสียหายจากวิกฤตโควิด อยู่ที่ 4 แสนล้านบาท นี่คือใบเสร็จแสดงความเสียหายที่พล.อ.ประยุทธ์ ต้องรับผิดชอบ 

     “ขอให้ท่านเอาเงินเดือน3 เดือนที่ประกาศไม่รับคืนไป และขอให้หายไปจากประเทศไทย 3 เดือน เพื่อให้รู้ว่าการหายไปนั้นคือสิ่งที่ดีที่สุดกับประเทศและประชาชน ยุคนี้ถือว่าสัปเหร่อทำงานหนักยิ่งกว่านายกรัฐมนตรีที่ทำงานที่บ้าน ทำงานปิดทองหลังพระ ทั้งนี้ตนขอไว้อาลัยให้กับผู้ที่เสียชีวิตจากความล้มเหลวของรัฐบาลต่อการแก้ปัญหาโควิด ทั้งนี้คนที่ตายไม่ใช่จากโรคระะบาด แต่คือ การตายจากความโง่ของผู้นำ” น.ส.จิราพร อภิปราย

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างที่น.ส.จิราพร อภิปรายนั้นพบการประท้วงที่เป็นความวุ่นวาย โดยนายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย กับ น.ส.ธีรารัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ที่มีคำพูดวิวาทะ ว่า เป็นองครักษ์และทำตัวก่อกวนการอภิปราย  ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่า ส.ส.ของพรรคฝ่ายค้าน ได้สวมชุดดำ คล้ายการไว้อาลัยเข้าร่วมการประชุม 2 วันต่อเนื่องแล้ว