“เชาวนะ ไตรมาศ”เจอความผิดวินัยร้ายแรงด้วยปมทุจริตจัดซื้อคอมพิวเตอร์ 

16 ก.ค. 2564 | 10:24 น.
อัปเดตล่าสุด :16 ก.ค. 2564 | 17:36 น.

โฆษกป.ป.ช.แจง “เชาวนะ ไตรมาศ”เลขาฯศาลรธน. ผิดวินัยร้ายแรงด้วยปมทุจริตจัดซื้อคอมพิวเตอร์ 13 ล้าน เตรียมส่งเรื่องกลับไปยังสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญเอาผิด โดยต้องยึดสำนวนของป.ป.ช.เป็นหลัก

วันนี้( 16 ก.ค.64) นายนิวัติไชย เกษมมงคล รองเลขาธิการป.ป.ช.ในฐานะโฆษกป.ป.ช. กล่าวถึงกรณีป.ป.ช.มีมติชี้มูล นายเชาวนะ ไตรมาศ เลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ กับพวก รวมถึงเอกชน กรณีเอื้อประโยชน์ให้กับผู้เสนอราคาเกี่ยวกับการจัดซื้อคอมพิวเตอร์ จำนวน 281 เครื่อง ของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ มูลค่า 13 ล้านบาทเศษ ว่า เรื่องนี้เป็นกรณีไต่สวนทุจริตจริง  
ซึ่ง นายเชาวนะ ถูกกล่าวหาเรื่องการจัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ประกอบวงเงิน 13 ล้านบาทเศษ โดยลักษณะมีการล็อครายละเอียดคุณสมบัติของเครื่องคอมพิวเตอร์ และ ระบบเซริ์ฟเวอร์ประกอบ เพื่อให้เป็นยี่ห้อเดียวกัน 

 

ป.ป.ช.มีมติชี้มูลว่า มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151  มาตรา 157 และผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 10 มาตรา 11 และมาตรา 12  

 

รวมทั้งชี้ว่ามีความผิดวินัยร้ายแรง ซึ่งก็จะมีการสรุปสำนวน และส่งสำนวนคดีอาญาไปยังศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบ และส่งเรื่องกลับไปยังสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาในเรื่องความผิดทางวินัยร้ายแรง ซึ่งก็จะต้องยึดสำนวนของป.ป.ช.เป็นหลักในการพิจารณาต่อไป 

 

ป.ป.ช.แจงปมชี้มูล“นายกอบต.ราชาเทวะ” กับพวก 14 คน 

ขณะเดียวกัน โฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. ยังชี้แจงกรณี ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดนายทรงชัย นกขมิ้น ตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ กับพวกรวม 14 ราย กรณีจัดซื้อรถยนต์ดับเพลิงกู้ภัย จำนวน 1 คัน ในราคา 33,920,000 บาท ขององค์การบริหารส่วนตำบลราชาเทวะ เมื่อปี พ.ศ. 2555 ว่า 


จากการไต่สวนของคณะกรรมการไต่สวน  ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ปี พ.ศ. 2555 อบต.ราชาเทวะ  โดยนายทรงชัย นายกอบต.ได้ดำเนินการจัดซื้อรถยนต์ดับเพลิงกู้ภัยแบบกระเช้าหอน้ำพร้อมบันไดด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ราคากลาง 33,950,000 บาท โดยได้แต่งตั้งคณะกรรมการกำหนดคุณลักษณะฯ ประกอบด้วยนายสุนทร อ่อนแก้ว นิติกร รักษาราชการแทนหัวหน้าสำนักปลัดอบต. ราชาเทวะ นายณธัชพงษ์ ศรีแก้ว นักพัฒนาชุมชน 5 อบต.ราชาเทวะ นายเดชา เพ็ชรไทย เจ้าพนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย 4 อบต.ราชาเทวะ และนายวันชัย สุวรรณวีรกุล ครูชำนาญการ สังกัดวิทยาลัยเทคนิคสมุทรปราการ 


โดยคณะกรรมการกำหนดคุณลักษณะฯ ได้พิจารณากำหนดรายละเอียดของเครื่องสูบน้ำให้เป็น “เครื่องสูบน้ำแบบแรงเหวี่ยงหนีศูนย์ ต้องเป็นผลิตภัณฑ์ภายในประเทศที่ได้รับการรับรองจากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) หรือได้รับการจดทะเบียนผลิตภัณฑ์กับสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม โดยมีเอกสารมาแสดงในวันยื่นซอง และมีเอกสารการแต่งตั้งเป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องสูบน้ำจากบริษัทผู้ผลิตที่มีอำนาจเต็ม ใช้เอกสารการแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายฉบับจริง 


เพื่อให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพเพื่อประโยชน์สูงสุดต่อทางราชการมาแสดงในวันยื่นซองเสนอราคา ซึ่งในขณะนั้นเครื่องสูบน้ำแบบแรงเหวี่ยงหนีศูนย์ยังไม่มีประกาศกำหนดมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม แต่มีผู้ได้รับการจดทะเบียนไว้ที่สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรมแล้ว จำนวน 6 ราย และมีเพียง 2 รายเท่านั้น ที่มีคุณสมบัติตรงตามประกาศขององค์การบริหารส่วนตำบลราชาเทวะ คือ บริษัท โชคสมบูรณ์ อิควิปเมนท์ จำกัด และบริษัท พนัสรุ่งเจริญ จำกัด  และมีสิทธิเข้าเสนอราคาได้ 


“บริษัท พนัสรุ่งเจริญ จำกัด เป็นบริษัทของพี่ชายนายคำนวณ เลาไพบูลย์กิจเจริญ กรรมการผู้จัดการบริษัท โชคสมบูรณ์ อิควิปเมนท์ จำกัด ดังนั้น การกำหนดคุณลักษณะเครื่องสูบน้ำแบบแรงเหวี่ยงหนีศูนย์ของคณะกรรมการกำหนดคุณลักษณะเฉพาะฯ ดังกล่าว จึงเป็นการมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม และมีลักษณะกีดกันผู้ผลิตรายอื่น ๆ ที่มีคุณสมบัติตรงตามประกาศฯ แต่ไม่ได้จดทะเบียนผลิตภัณฑ์เครื่องสูบน้ำแบบแรงเหวี่ยงหนีศูนย์ไว้กับสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม”

 

สำหรับในการดำเนินการประมูลซื้อด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์รถยนต์ดับเพลิงกู้ภัยฯ นั้น ปรากฏว่า มีผู้มาซื้อซองเอกสารประมูลฯ จำนวน 8 ราย แต่มีผู้มายื่นซองเอกสารการประมูลฯ จำนวน 5 ราย โดยมีผู้ผ่าน การคัดเลือกให้เข้าเสนอราคา จำนวน 3 ราย ได้แก่ 

 

บริษัท โชคสมบูรณ์ อิควิปเมนท์ จำกัด บริษัท วี พี ไฟร์ อิควิปเมนท์ จำกัด และบริษัท เจริญสุขถาวร จำกัด ซึ่งผู้เสนอราคาทั้ง 3 ราย ได้เสนออุปกรณ์ปรับแรงดันสูงอัตราการไหลสูง (Regulator) เป็นรุ่นเดียวกันคือ Pressure regulator U 47 ผลิตจากประเทศเยอรมนี  

 

แต่ปรากฏว่า บริษัท วี พี ไฟร์ อิควิปเมนท์ จำกัด และบริษัท เจริญสุขถาวร จำกัด ได้ใช้หนังสือแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์ปรับแรงดันสูงอัตราการไหลสูง ซึ่งเป็นเอกสารปลอมมาแสดงต่อคณะกรรมการดำเนินการประมูลฯ ในวันยื่นซอง รวมทั้งผู้เสนอราคาทั้ง 3 ราย มิได้มีการทดลองและสาธิตอุปกรณ์ดังกล่าวในวันยื่นซอง ซึ่งไม่เป็นไปตามเอกสารประมูลซื้อฯ และรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะฯ 

 

แต่คณะกรรมการดำเนินการประมูลด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ประกอบด้วย นางอรุณี มหัทธนะสิน รองปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลราชาเทวะ นางหทัยพัชร ช่วงชู หัวหน้าฝ่ายบริหารทั่วไป องค์การบริหารส่วนตำบลราชาเทวะ และ นายณธัชพงษ์ ศรีแก้ว ไม่ได้ตรวจสอบรายละเอียดหนังสือแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายของ บริษัท วี พี ไฟร์ อิควิปเมนท์ จำกัด และ บริษัท เจริญสุขถาวร จำกัด กลับพิจารณาให้ผู้เสนอราคาทั้ง 3 ราย เป็นผู้มีคุณสมบัติครบถ้วน 

 

ทั้งที่ผู้ยื่นเอกสารการประมูลทั้ง 3 รายดังกล่าวขาดคุณสมบัติ และในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2555  บริษัท บีส ไดแมนชั่น จำกัด ผู้ให้บริการตลาดกลางได้จัดการประมูลอิเล็กทรอนิกส์โครงการจัดซื้อรถยนต์ดับเพลิงกู้ภัยแบบกระเช้าพร้อมบันได 

 

ผลปรากฏว่าบริษัท โชคสมบูรณ์ อิควิปเมนท์ จำกัด เป็นผู้ชนะการประกวดในราคา 39,920,000 บาท และคณะกรรมการดำเนินการประมูลฯ ได้รายงานผลการประมูลฯ และเสนอให้นายกองค์การบริหารส่วนตำบลราชาเทวะทำสัญญากับบริษัท โชคสมบูรณ์ อิควิปเมนท์ จำกัด

 

ยังปรากฏหลักฐานว่าทั้งสามบริษัทที่เสนอราคา มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกัน โดยบริษัท เจริญสุขถาวร จำกัด มีที่ตั้งอยู่ภายในรั้วเดียวกับบริษัท โชคสมบูรณ์ อิควิปเมนท์ จำกัด และตั้งขึ้นมาเพื่อเอื้อประโยชน์ในทางธุรกิจของบริษัท โชคสมบูรณ์ อิควิปเมนท์ จำกัด สำหรับบริษัท วี พี ไฟร์ อิควิปเมนท์ จำกัด นั้น ได้รับการว่าจ้างจากบริษัท โชคสมบูรณ์ อิควิปเมนท์ จำกัด ให้ยื่นซองเอกสารการประมูล

 

โดยมี  นางฐิดาพรรณ์ พัฒน์วีรภรกุล อดีตภรรยาของนายคำนวณ เลาไพบูลย์กิจเจริญ เจ้าของบริษัท โชคสมบูรณ์ อิควิปเมนท์ จำกัด เป็นผู้ดำเนินการ ให้ธนาคารออกหนังสือค้ำประกัน (หลักประกันซอง) ให้แก่บริษัท เจริญสุขถาวร จำกัด และบริษัท วี พี ไฟร์ อิควิปเมนท์ จำกัด เพื่อใช้เป็นเอกสารประกอบในการยื่นเอกสารประมูลจัดซื้อรถยนต์ดับเพลิงฯ ในโครงการดังกล่าว

 

ดังนั้นป.ป.ช.พิจารณาแล้วเห็นว่า การกระทำของนายทรงชัย มีมูลความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151  และมาตรา 157 ความผิดตามพ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2554 มาตรา 123/1 ประกอบพ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 192 พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 10 มาตรา 11 และมาตรา 12 และมีมูลความผิดฐานจงใจทอดทิ้งหรือละเลยไม่ปฏิบัติการตามอำนาจและหน้าที่อันจะเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง หรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยหน้าที่หรือประพฤติตนฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อย ตามพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล   พ.ศ. 2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 90/1

 

ส่วนการกระทำของ นายสุนทร อ่อนแก้ว นายณธัชพงษ์ ศรีแก้ว นายเดชา เพ็ชรไทย และนายวันชัย สุวรรณวีรกุล มีมูลความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ประกอบมาตรา 83 พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2554 มาตรา 123/1 ประกอบพ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 192 พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 11 และมาตรา 12 ประกอบประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83 และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง  โดยนายสุนทร อ่อนแก้ว ได้ถึงแก่ความตายแล้ว สิทธินำคดีอาญามาฟ้องจึงระงับไป ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39/1 

 

สำหรับการกระทำของนางอรุณี มหัทธนะสิน  นางหทัยพัชร ช่วงชู และนายณธัชพงษ์  ศรีแก้ว ไม่มีมูลความผิดทางอาญา แต่การกระทำดังกล่าวมีมูลเป็นความผิดทางวินัยไม่ร้ายแรง  ส่วนการกระทำของบริษัท โชคสมบูรณ์ อิควิปเมนท์ จำกัด นายคำนวณ เลาไพบูลย์กิจเจริญ (กรรมการผู้จัดการบริษัท โชคสมบูรณ์ อิควิปเมนท์ จำกัด) บริษัท วี พี ไฟร์ อิควิปเมนท์ จำกัด นางสาวศุภัทรา วงค์แดง  กรรมการผู้จัดการบริษัท วี พี ไฟร์ อิควิปเมนท์ จำกัด  บริษัท เจริญสุขถาวร จำกัด และนายสมโภช จงจิตต์เวชกุล  กรรมการผู้จัดการบริษัท เจริญสุขถาวร จำกัด  มีมูลความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 มาตรา 157 ประกอบมาตรา 86 ตามพ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2554 มาตรา 123/1

 

ประกอบพ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 192 ประกอบประมวลกฎหมายอาญามาตรา 86 พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 4 ประกอบประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83 และมาตรา 11 และมาตรา 12 ประกอบประมวลกฎหมายอาญามาตรา 86 

 

นอกจากนี้การกระทำของบริษัท วี พี ไฟร์ อิควิปเมนท์ จำกัด นางสาวศุภัทรา วงค์แดง (กรรมการผู้จัดการบริษัท วี พี ไฟร์ อิควิปเมนท์ จำกัด) บริษัท เจริญสุขถาวร จำกัด และนายสมโภช จงจิตต์เวชกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท เจริญสุขถาวร จำกัด  มีมูลความผิดทางอาญาฐานปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264 มาตรา 268 ประกอบมาตรา 83 บริษัท เจริญสุขถาวร จำกัด จดทะเบียนเลิกบริษัทและจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชี เมื่อวันที่ 10 พ.ค.56 จึงสิ้นสภาพนิติบุคคลไม่อาจถูกฟ้องเป็นจำเลยต่อศาลได้ จึงให้ยุติการดำเนินคดีกับบริษัทดังกล่าว 

 

และการกระทำของนางฐิดาพรรณ์ พัฒน์วีรภรกุล มีมูลความผิดทางอาญาตามพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 4 ประกอบประมวลกฎหมายอาญามาตรา 86  โดยป.ป.ช.จะส่งสำนวนการไต่สวน 

 

เอกสารหลักฐาน สำเนาอิเล็กทรอนิกส์ และคำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดี และส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน และคำวินิจฉัยไปยังผู้บังคับบัญชาหรือผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอนเพื่อดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจ 

 

อย่างไรก็ตาม นายทรงชัย ยังถูกกล่าวหาในหลายเรื่องซึ่งอยู่ระหว่างการไต่สวนของป.ป.ช.อาทิ การจัดซื้อกล้องซีซีทีวีเมื่อปี 55-56  การจัดซื้อรถเก็บขยะ รวมทั้ง เสาไฟกินรี ซึ่งก็จะมีการดำเนินการต่อไม่มีสะดุด เพราะมีการแยกงานกันทำ แต่จะเป็นข้อดีที่ข้อมูลในแต่ละคดีจะไปเสริมกัน เพราะลักษณะการจัดซื้อในแต่ละโครงการบริษัทเอกชนที่ได้งานก็จะเป็นบริษัทที่ชื่อซ้ำ ๆ กัน