อัยการฟ้อง "อดีตปลัดอบต. เกาะสาหร่าย" เก็บเงินนักท่องเที่ยวเกาะหลีเป๊ะ

01 ก.ค. 2564 | 05:58 น.

อัยการปราบปรามทุจริตภาค 9 ยื่นฟ้อง ปลัด อบต.เกาะสาหร่ายกับพวก มีพฤติกรรมทุจริตเรียกเก็บเงินจากนักท่องเที่ยวบนเกาะหลีเป๊ะ อ้างเป็นค่าธรรมเนียมขยะคนละ 20 บาท นานกว่า 1 ปี เข้ากระเป๋าตัวเอง เสียหายกว่า 1.5 ล้านบาท

1 กรกฎาคม 2564 นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองอธิบดีอัยการสำนักงานการปราบปรามทุจริตภาค 9 ในฐานะโฆษกสำนักงานอัยการปราบปรามทุจริตภาค 9 เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 30 มิ.ย ที่ผ่านมา นายชัยวัฒน์ สุวรรณยอด พนักงานอัยการเจ้าของ สำนวนได้เป็นโจทก์ฟ้อง ปลัด อบต.เกาะสาหร่าย จ.สตูล กับพวกรวม 2 คน เป็นจำเลยในความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 147, 157 และ มาตรา 86 ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 ขอให้ศาลสั่งคืนเงินที่ทุจริตดังกล่าวคืน อบต.เกาะสาหร่ายด้วย

สำหรับคดีนี้เหตุระหว่างเดือน ก.พ. 2557 ถึงปลาย 2558 ปลัด อบต.เกาะสาหร่าย จ.สตูล ผู้ถูกกล่าวหา ได้มอบหมายให้ลูกจ้างอบต. เกาะสาหร่าย กับพวกอีก 3 คน ไปเก็บเงินค่าธรรมเนียมขยะจากนักท่องเที่ยวคนละ 20 บาทในแต่ละวันบนโป๊ะหน้าหาดหลีเป๊ะซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของจ.สตูล โดยมอบตั๋วค่าธรรมเนียมให้กับนักท่องเที่ยวด้วยซึ่งตั๋วดังกล่าวมีตราสัญลักษณ์ของ อบต.เกาะสาหร่ายประทับอยู่

ต่อมามีเลขาฯนายก อบต.เกาะสาหร่าย ผู้ถูกกล่าวหาอีกคนหนึ่งมอบหมายให้เจ้าหน้าที่นำเงินที่เก็บได้นั้นมอบให้แก่ นายกอบต.เกาะสาหร่าย (เสียชีวิตแล้ว) ที่สำนักงานองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะสาหร่าย(อบต.) ประมาณ 1,553,220 บาท ทั้งที่ไม่มีอำนาจเรียกเก็บเงินค่าธรรมเนียมขยะดังกล่าวจากนักท่องเที่ยว ตามกฎหมายแต่อย่างใด รวมทั้งไม่ได้นำเงินจำนวนดังกล่าวส่งคลังของ อบต.สาหร่าย   

การกระทำของทั้งสองจึงเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตและปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเงินความเสียหาย จำนวน 1,553,220 บาท เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่อบต.เกาะสาหร่า ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยินยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5 ปีถึง 20 ปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่ 100,000-400,000 บาท ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่1-10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ  

ถ้าเป็นเจ้าพนักงานของรัฐกฎหมายลงโทษหนักมากสูงสุดถึงจำคุกตลอดชีวิต ตามมาตรา 147 แต่ถ้าเป็นประชาชนหลอกลวงเก็บเงินกันเองจะผิดตามมาตรา 341 ผู้ใดโดยทุจริต หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม ทำ ถอน หรือทำลายเอกสารสิทธิ ผู้นั้นกระทำความผิดฐานฉ้อโกง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อัตราโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ต่ำกว่าความผิดต่อเจ้าพนักงานของรัฐมาก

ทั้งนี้ ขอฝากเตือนข้าราชการและหน่วยงานของรัฐทั้งหลาย อย่าทุจริต อย่าทำผิดกฎหมาย อย่าประพฤติมิชอบ ส่วนใหญ่คิดว่าเรื่องนี้เราไม่น่าจะโดนจับ โดนแฉ เมื่อถูกดำเนินคดีอัยการไม่มีสิทธิ์ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ต้องทำหน้าที่ไปตามกฏหมายเท่านั้น นายโกศลวัฒน์ ระบุทิ้งท้าย