‘เนชั่น’ สถาบันสื่อมืออาชีพ ดึง‘อดิศักดิ์’คุมทีวี

11 พ.ย. 2563 | 04:45 น.
อัปเดตล่าสุด :11 พ.ย. 2563 | 11:46 น.

​​​​​​​“ฉาย บุนนาค” นำทีมประกาศจุดยืนเนชั่น ยึดแนวทาง “สถาบันสื่อ มืออาชีพ” ขายความน่าเชื่อถือ รับผิดชอบต่อสังคม ดึง “อดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ” คืนรังคุมเนชั่นทีวี ช่อง 22 

 

นายฉาย บุนนาค ประธานกรรมการบริหาร บริษัทเนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดแถลงข่าวถึงจุดยืนของเนชั่นกรุ๊ปว่า องค์กรเนชั่นเป็นองค์กรที่มีอายุ จะก้าวสู่ปีที่ 50 ในปีหน้า เป็นดั่งต้นไม้ใหญ่ เป็นสถาบันข่าว การที่มีบุคคลากรที่มีคุณภาพ ตั้งใจทำงานเพื่อองค์กร ลาออก ไปตามวิธีชีวิต ตามความฝันของเขาเป็นเรื่องปกติทางธุรกิจ

 

“องค์กรของเราเป็นองค์กรข่าวระดับหนึ่ง ซึ่งได้รับความไว้วางใจจากประชาชนมาโดยตลอด เราไม่ได้ขายดารา หรือ ผู้ประกาศ ผู้ประกาศถือเป็นองค์ประกอบหนึ่งที่สำคัญ แต่เราขายความน่าเชื่อถือ ขายความจริง เราเป็นดั่งแสงเทียนนำทางของสังคมในยามที่มือมิด เราเป็นดั่งกระจกสะท้อนสังคมที่บิดเบี้ยว ในขณะเดียวกันเราก็ต้องไม่ทำตัวเป็นกระจกที่บิดเบี้ยวเสียเอง เราขายความรับผิดชอบต่อสังคม”

 

นายฉาย ยํ้าว่า เนชั่นเป็นบริษัทมหาชน มีผู้ถือหุ้นเป็นพันเป็นหมื่นคน แต่โครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ไม่มีชื่อของบุคคลใด หรือผู้มีอิทธิพลทางการเมืองเข้ามาถือหุ้น ข่าวลือที่ออกมาเป็นการใส่ร้ายป้ายสี กรรมการบริษัทยังเป็นชุดเดิม โครงสร้างผู้บริหารก็ยังชุดเดิม มีแต่จะเพิ่มและพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ 

 

ดึง“อดิศักดิ์”คุมเนชั่นทีวี

 

ประธานเครือเนชั่น ยอมรับด้วยว่า ภายในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2563 จะมีการประชุมคณะกรรมการบริหาร เพื่อหารือเกี่ยวกับการตั้งผู้บริหารเนชั่นทีวีคนใหม่ และวันพฤหัสบดีที่ 12 พฤศจิกายน จะเสนอชื่อ นายอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ เนชั่นทีวี กลับมานั่งเป็นผู้บริหารอีกครั้ง 

 

ทั้งนี้ นายอดิศักดิ์ ถือเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งเนชั่นทีวี การกลับมาขับเคลื่อนองค์กรสื่ออีกครั้ง จึงเชื่อมั่นว่าจะปรับปรุงเนชั่นทีวี ให้เป็นสถาบันสื่อมืออาชีพ (Nation Way) ที่ได้รับการยอมรับอย่างต่อเนื่อง 

 

“ต้นไม้ใหญ่เมื่อมีการผลัดใบ นกที่เคยเกาะ บินออกไปก้าวหน้าที่อื่น หากมีโอกาส สามารถกลับมาบ้านได้เสมอ และที่ผ่านมาเราได้พูดคุยทาบทาม คุณอดิศักดิ์ กลับมา บริหารเนชั่นทีวี และจะเสนอให้บอร์ดอนุมัติการแต่งตั้งเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น วันพฤหัสนี้ เพื่อเข้ามาทำงานภายในวันศุกร์ที่ 13 พฤศจิกายน หรือไม่ก็วันจันทร์ที่ 16 พฤศจิกายนนี้”

 

นายฉาย กล่าวอีกว่า ผู้ประกาศแถวหน้าระดับแม่เหล็ก เช่น กนก รัตน์วงศ์สกุล ผู้บริหารและผู้ประกาศ เนชั่นทีวี ลาออก ถือเป็นเรื่องปกติของการทำงานและการบริหาร แม้ตนจะมีความเสียใจและเสียดาย แต่การเปลี่ยนแปลงก้าวออกไปครั้งนี้ บทบาทการทำหน้าที่ผู้ประกาศของ “กนก” จะเป็นตำนานตั้งแต่วันแรกจนวันสุดท้ายของการทำหน้าที่จัดรายการทีวี

 

 

เนชั่นสถาบันสื่อมืออาชีพ

 

ด้านนายสมชาย มีเสน รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงทิศทางของเนชั่นต่อนี้ไปว่า “เนชั่นกรุ๊ป จะครบ 50 ปี ในปีหน้า เรายืนยันว่าเราจะเป็นสถาบันสื่อมืออาชีพ เราจะทำงานในการรายงานข้อเท็จจริงให้กับสังคมรับทราบ และการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นยืนยันได้ว่า คนข่าวอยู่ครบ”

 

ทั้งนี้ได้คุยกันหมดแล้วว่า ต่อไปนี้ทิศทางของเนชั่นก็คือ การราย งานข่าวที่ตรงกับข้อเท็จจริง และเป็นคนข่าวที่จะทำงานเยี่ยง “มืออาชีพ” จริงๆ 

 

 

‘เนชั่น’ สถาบันสื่อมืออาชีพ ดึง‘อดิศักดิ์’คุมทีวี

 

นายศุภวัฒน์ สงวนนาม รักษาการกรรมการผู้จัดการ บริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในเชิงธุรกิจต้องดำเนินต่อ ไม่คิดว่าจะสร้างแรงกระทบกระเทือนอะไรกับเรามาก เพราะเราเป็นสถาบันสื่อมืออาชีพ เราทำงานอยู่บนอุดมการณ์ จิตวิญญาณ และเราจะรับใช้สังคมต่อไป ในแง่ธุรกิจเราจะทำธุรกิจบนแนวทางที่ถูกต้องต่อไป

 

คงข่าวเข้มข้นเหมือนเดิม

 

ขณะที่ นายปกรณ์ พึ่งเนตร บรรณาธิการบริหารเนชั่นทีวี ช่อง 22 กล่าวว่า รูปแบบการทำงานไม่มีการแทรกแซงจากผู้บริหาร แต่การรายงานข่าวในสถานการณ์ที่ผ่านมา ก็จะมีทั้งคนชอบและไม่ชอบ รายงานแบบหนึ่ง ฝั่งหนึ่งฝ่ายหนึ่งก็ชอบ อีกฝ่ายก็ไม่ชอบ แต่สิ่งที่ยืนยันได้คือ เรารับฟังความคิดเห็น และกระแสวิจารณ์ของทุกฝ่าย อันไหนเป็นสิ่งที่บกพร่อง หรือสังคมเห็นว่าเราด้อยไป ก็จะนำมาปรับปรุงแก้ไข 

 

“ต่อไปเมื่อรูปแบบการทำงานเปลี่ยน ผลมันจะเปลี่ยน รูปแบบการทำงานจะเป็นตัวกำหนดผลของมัน จุดเด่นของเนชั่น คือความเข้มข้นของเนื้อหาข่าว ก็จะยังมีเหมือนเดิม แต่จะเสริมข่าวสังคมเพิ่มขึ้น”

 

ส่วนนางสาวนิภาวรรณ แก้วรากมุกข์ ประธานสหภาพแรงงานเนชั่น กล่าวว่า ความขัดแย้งทางการเมือง สื่อจะถูกป้ายว่าเลือกข้าง เนชั่น ก็ไม่พ้นข้อกล่าวหานั้น ที่ผ่านมาก็กระทบการทำงานภาคสนาม แต่สหภาพเนชั่น ก็สะท้อนถึงผู้บริหารเป็นระยะ ปรับจูนเรื่องการทำงาน และผู้บริหารให้ความมั่นใจว่า จากนี้ไปเราจะกลับมาสู่ความเป็น “สถาบันสื่อ” ดังนั้น เมื่อเรากลับสู่ทิศทาง “เนชั่นเวย์” พนักงานทุกคนพร้อมสนับสนุน เพื่อให้เนชั่นเป็นสถาบันสื่อมืออาชีพ เราก็ควรเป็นที่พึ่งของสังคมในการทำงานข่าว

 

 

 

ยึดแนว“เนชั่นเวย์”

 

นายวีระศักด์ พงศ์อักษร บรรณาธิการบริหารหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจกล่าวว่า ตนเองอยู่เนชั่น มา 27-28 ปี เหตุการณ์ก่อนหน้านี้ที่มีการเปลี่ยนแปลงใหญ่กว่านี้ เยอะกว่านี้ ก็เห็นและผ่านมาได้ เหตุการณ์ครั้งนี้ถือว่าเล็กน้อยมาก เมื่อเที่ยบกับการเปลี่ยนถ่ายครั้งสำคัญๆ ตลอด 49 ปีที่ผ่านมา 

 

“ให้มั่นใจ ให้ตระหนักว่าครั้งนี้ดีเสมอสำหรับการเปลี่ยนแปลงแล้ว ในฐานะคนที่อยู่เนชั่นมายาว มาถึงยุคนี้ก็เศร้าใจนิดหน่อย เพราะเคยบริหารเนชั่นทีวีมา 5-6 ปี เห็นน้องๆ ภาคสนามเวลารายงานข่าวแล้วต้องหลบๆ ซ่อนๆ ต้องปิดไมค์ ไม่มีไมค์เนชั่น หรือต้องหามุมที่ห่างจากม็อบ มันไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ขณะที่ช่องอื่นๆ สามารถรายงานอยู่กลางม็อบ กลางมวลชน ต้องต้องคำถามตัวเองว่าเรามาถึงขนาดนี้แล้วหรือ เพราะอะไร” 

 

ดังนั้น สิ่งที่ดีที่สุดก็คือ เรากลับไปสู่การทำหน้าที่สื่ออย่างแท้จริง เป็นสถาบันสื่ออย่างมืออาชีพ ถ้าเราทำสิ่งเหล่านี้ ซึ่งเป็นดีเอ็นเอ เป็นเนชั่นเวย์ตั้งแต่วันแรก จนถึง 49 ปี ทุกคนก็มีความภาคภูมิใจในการทำหน้าที่ 

 

“การที่เราดึงกลับ แม้จะบิดเบี้ยวไปบ้างระยะหนึ่ง เป็นสิ่งที่เราสามารถทำได้ ถ้าทุกคนช่วยกัน แกนหลักของต้นไม้ต้นนี้อยู่กันครบ ผมเชื่อว่าวิกฤติิต่างๆ หรือสิ่งที่กำลังพูดถึงกันวันนี้ มันจะผ่านพ้นไปด้วยดี”

 

นายวีระศักดิ์ ยังอธิบายถึงทิศทาง “เนชั่นเวย์” ว่า หลังการสำคัญก็คือ การรายงานข่าวที่ให้ความเป็นธรรมกับคนที่ถูกพาดพิง หรือถูกกล่าวหาต้องมีสิทธิ์ที่จะชี้แจง  ทุกคนทุกส่วนต้องได้รับความเป็นธรรม การรายงานข่าวต้องตรวจเช็คอย่างรอบ คอบ ก่อนที่จะรายงานออกไป นี่คือสิ่งที่ต้องเดินต่อไปจากนี้ 

 

หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3,626 หน้า 12 วันที่ 12 - 14 พฤศจิกายน 2563