ปฐมพยาบาลอย่างไรเมื่อถูก "แก๊สน้ำตา" หรือ "สารเคมี"

16 ต.ค. 2563 | 13:53 น.

เปิดวิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อถูก "แก๊สน้ำตา" และ "สารเคมี"

วันที่ 16 ตุลาคม 2563 เกาะติดการชุมนุม "ม็อบ 14 ตุลา " -ม็อบคณะราษฏร" หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้กระชับพื้นที่เพื่อสลายการชุมนุมบริเวณแยกปทุมวัน ด้วยการฉีดน้ำสีฟ้า ส่งผลให้กลุ่มผู้ชุมนุมมีอาการแสบตา และคล้ายกับอาการโดนแก๊สน้ำตา  อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยืนยันว่า น้ำสีฟ้าที่ฉีด ไม่ใช่แก๊สน้ำตา แต่เป็นสารที่ใช้ควบคุมฝูงชน  


ทั้งนี้ ทางสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) ได้บอกถึงขั้นตอนการปฐมพยาบาลหลังถูกแก๊สน้ำตา หรือ สารเคมี ว่า สิ่งแรกที่ต้องทำคือออกไปอยู่ในพื้นที่ๆ ไม่มีควันแก๊สน้ำตา หลังจากนั้นรีบล้างด้วยน้ำสะอาดหรือน้ำเกลือในปริมาณมากๆ ทันที โดยใช้วิธีปล่อยให้น้ำไหลผ่านดวงตาเบาๆ สักระยะ  ทั้งนี้ไม่ควรล้างน้ำแรงไปเพราะจะทำให้ดวงตาอักเสบหรือกระจกตาเสียหาย หลังจากนั้นให้ล้างใบหน้า มือ ขา แขน ด้วยสบู่ หรือน้ำเปล่า และควรรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที


สำหรับผลกระทบจากการได้รับแก๊สน้ำตา นอกจากระคายเคืองต่ออวัยวะต่างๆ หากเข้าตาอาจทำให้ตามองไม่เห็น หรือตาบอดชั่วคราวได้  นอกจากนี้อาจทำให้หายใจไม่ออก โดยแก๊สน้ำตาจะออกฤทธิ์ทันทีที่ร่างกายสัมผัสถูก และฤทธิ์จะคงอยู่นานประมาณ 10-30 นาที แต่อาจมีอาการอยู่นานได้ถึง 24 ชั่วโมงขึ้นไป

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ไขข้อข้องใจ "น้ำสีฟ้า" ฉีดสกัดผู้ชุมนุม

ยึดคืนแยกปทุมวัน ม็อบคณะราษฎรประกาศสลายชุมนุม นัดใหม่พรุ่งนี้

กทม.เปิด 5 จุดปฐมพยาบาล ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจากการชุมนุม


 

ทั้งนี้แก๊สน้ำตาจะไม่มีอันตรายมาก แต่อาจเป็นอันตรายกับผู้ป่วยโรคหอบหืดหรือถุงลมโป่งพอง ผู้ที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงสถานที่ๆ มีการใช้แก๊สน้ำตาเนื่องจากเคยมีรายการการเสียชีวิตจากการใช้แก๊สน้ำตา เพราะปอดบวมน้ำ เลือดออกในปอด ปอดอักเสบ หรือการขาดอากาศหายใจ