แรมโบ้เตือน"ก้าวล่วงสถาบัน"ระวังไม่มีที่ยืน

16 มิ.ย. 2563 | 10:33 น.

 "แรมโบ้"ย้ำนายกฯห่วงใยนศ.ที่เป็นผู้บริสุทธิ์ ถูกชักจูงก้าวล่วงสถาบันโดยคนที่ไม่หวังดี ควรมีจิตสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ในหลวงทรงพระเมตตารับสั่งไม่ให้ใช้มาตรา112

 

วันที่ 16 มิ.ย.2563  นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี  กล่าวถึงกรณีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ต่อกรณีมีกลุ่มบุคคลที่ไม่หวังดีก้าวล่วงสถาบันเบื้องสูง ว่า นายกฯได้พูดด้วยความหวังดีต่อประเทศชาติ ประชาชน และสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่พวกเราคนไทยเทิดทูนจงรักภักดีเป็นที่สุด เพราะยังมีคนไทยบางกลุ่มที่พยายามก้าวล่วง ปลุกระดมน้อง ๆ นักศึกษา ที่เป็นผู้บริสุทธิ์ให้เดินตามและหลงเชื่อในทางที่ผิด ๆ ซึ่งจะทำให้หมดอนาคตในชีวิตได้ นายกฯปรารถนาดีต่อลูกหลานและพี่น้องคนไทยทุกคน ไม่อยากเห็นใครออกมาเคลื่อนไหวปลุกระดมก้าวล่วงสถาบันพระมหากษัตริย์ทั้งสิ้น 
    

ส่วนตนเห็นด้วยกับนายกฯอย่างยิ่ง เราต้องคิดให้ได้ว่าที่พวกเราคนไทยได้อาศัยแผนดินนี้ อยู่อย่างสงบสุขและร่มรื่นมายาวนานตั้งแต่บรรพบุรษจนถึงปัจจุบัน ก็เพราะด้วยพระบารมีบูรพกษัตริย์ไทยทุกพระองค์ ตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน ได้ปกป้องรักษาแผ่นดินนี้ไว้ให้ลูกหลานด้วยเลือดเนื้อและชีวิตของพระองค์ท่าน จิตสำนึกตรงนี้เราคนไทยทุกคนต้องจดจำใส่เหนือเกล้าเหนือกระหม่อม ตราบชั่วชีวิตของพวกเราคนไทยทุกคน
     

"ยิ่งนายกรัฐมนตรีได้บอกความจริงว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในหลวงรัชกาลที่10 ของพวกเรา ทรงมีพระเมตตา รับสั่งไม่ให้ใช้กฎหมายมาตรา 112 ต่อคนกลุ่มนี้ ยิ่งนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณเป็นที่สุด คนที่คิดบิดเบือน ก้าวล่วงยุยงปลุกปั่น ละเมิดสถาบันควรมีจิตสำนึกว่า พระองค์ท่านทรงเมตตารักและและห่วงใยพสกนิกรคนไทยทุกคน พระองค์ท่านปรารถนาให้คนไทยทุกคนมีความรักสามัคคีเป็นหนึ่งเดียวกัน ประเทศชาติมีความสงบสุขร่มเย็นภายใต้ร่มพระบารมีของพระองค์ท่าน โดยที่คนไทยต้องไม่มีความขัดแย้งใด ๆ ทั้งสิ้น จะได้มีวิถีชีวิตทำมาหากินอย่างปกติสุข และน้อง ๆ นักศึกษามีอนาคตในหน้าที่การงานที่ดี มีครอบครัวที่มั่นคง เป็นกำลังที่สำคัญของชาติในวันข้างหน้า ตามที่นายกรัฐมนตรีห่วงใยและตักเตือนมาว่า " อย่าไปหลงเชื่อกลุ่มบุคคลที่ไม่ปรารถนาดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อย่างเด็ดขาด" 
    

 

ส่วนตนอยากเห็นคนเหล่านี้ที่คิดผิดก็คิดใหม่ได้ ควรกลับเนื้อกลับตัวเสียใหม่ ยังไม่สายเกินไป สังคมยังให้อภัยให้โอกาสเสมอ และก็อยากเตือนว่า คนที่ก้าวล่วงสถาบันระวังจะหมดอนาคต ไม่มีที่ยืนในแผ่นดินไทย ไม่มีแผ่นดินอยู่ เหมือนหลายคนที่ต้องระเหเร่ร่อนไปอยู่ต่างประเทศ ไม่มีโอกาสอาศัยแผ่นดินไทยทำมาหากิน ไม่มีโอกาสใช้ชีวิตกับครอบครัวอย่างมีความสุข ต้องหนีจากแผ่นดินบ้านเกิดเมืองนอน ได้รับความลำบากเดือดร้อนครอบครัวแตกแยก สุดท้ายในชีวิตไม่มีโอกาสใช้แผ่นดินพ่อแผ่นดินแม ไว้กลบหน้ายามสิ้นลมหายใจ ตนเชื่อมั่นว่า คนไทยส่วนใหญ่ก็ไม่ปรารถนาที่อยากจะเห็นคนไทยด้วยกันมีวิถีชีวิตเป็นเช่นนั้นแน่ครับ นายสุภรณ์กล่าว