“ไพบูลย์”คืนเงินอุดหนุนฯพรรค ประกาศเป็นซามูไรด้านกฎหมาย

29 ส.ค. 2562 | 06:18 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่


“ไพบูลย์” ยื่นคืนเงินกองทุนเพื่อพัฒนาพรรคการเมือง  เร่งชำระบัญชีพรรคประชาชนปฏิรูป ก่อนสมัครเป็นสมาชิก พปชร. ประกาศขอเป็นซามูไรด้านกฎหมาย เชือดที่วิจารณ์ให้เสียหาย

ไพบูลย์ นิติตะวัน

นายไพบูลย์ นิติตะวัน หัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูป นำแคชเชียร์เช็คจำนวน 882,909.67 บาท ซึ่งเป็นเงินที่พรรคได้รับการจัดสรรจากกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง มาคืนให้กับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เนื่องจากหากรอ กกต.ประกาศให้พรรคสิ้นสภาพในราชกิจจานุเบกษา  ตนก็จะไม่มีอำนาจที่จะนำเช็คดังกล่าวมาคืน  เพราะถือว่าพ้นจากการเป็นหัวหน้าและกรรมการบริหารพรรคแล้ว อีกทั้ง ต้องการเป็นการสร้างบรรทัดฐานในทางการเมืองว่า เมื่อเลิกพรรคแล้ว ก็ควรคืนเงินอุดหนุนเป็นอันดับแรก

 

นายไพบูลย์ กล่าวว่า เมื่อมีประกาศ กกต.ในราชกิจจานุเบกษาให้พรรคสิ้นสภาพ  ก็จะนำส่งงบการเงินมาให้นายทะเบียนพรรค ภายใน 30 วัน จากนั้น สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินจะเข้ามาตรวจสอบการชำระบัญชีให้แล้วเสร็จ ภายใน 180 วัน  ซึ่งตนก็จะมีหน้าที่เป็นอดีตหัวหน้าพรรค ที่ต้องชี้แจงการใช้เงินของพรรคเท่านั้น  ไม่รอให้การชำระบัญชีเสร็จ  จึงจะไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองอื่นได้ แต่สามารถไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคอื่นได้ หลังมีประกาศ กกต.ให้พรรคประชาชนปฏิรูปสิ้นภาพในราชกิจจานุเบกษา 

 

“การที่มีเจ้าหน้าที่ของ กกต.ออกมาแสดงความเห็น จึงเป็นการให้ข้อมูลกฎหมายที่ไม่ถูกต้อง กกต.ควรที่จะตักเตือน” นายไพบูลย์ กล่าว

 

นายไพบูลย์ ยังย้ำว่า จะไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งก็จะถือว่าเป็น ส.ส.ของพรรค และจะมาขอหนังสือรับรองจากนายทะเบียนพรรคการเมือง เพื่อนำไปยื่นต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร  

 

“ไม่ต้องกังวลเรื่องของลำดับที่ของ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ผมถือเป็นเพียงส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคพลังประชารัฐเท่านั้น แม้มีการเลือกตั้งใหม่ ซึ่งต้องการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อใหม่ ผมก็ไม่ได้เกี่ยวข้องหรือถูกกระทบ รวมทั้ง หากมีการคำนวณคะแนนใหม่จริง โดยที่พรรคประชาชนปฏิรูปยังไม่สิ้นสภาพ ผมก็อยู่ในเซฟโซน เพราะยังมีอีก 5 พรรคก่อนหน้าที่มีคะแนนน้อยกว่า” นายไพบูลย์ กล่าว

 

นายไพบูลย์ ยังเปิดเผยว่า จะดำเนินการฟ้องร้องคดีหมิ่นประมาท นายบุญยอด สุขถิ่นไทย สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์  ที่แสดงความเห็นในลักษณะกล่าวหาว่าตนทรยศต่อเสียงประชาชนที่เลือกพรรคประชาชนปฏิรูป และนายเจษฎ์ โทณวณิก ที่แสดงความเห็นว่า ยุบพรรคเหมือนการเผาบ้านเพื่อเอาประกัน

“ยืนยันว่า สิ่งที่ผมดำเนินการ เป็นไปตามที่กฎหมายให้อำนาจไว้ และการย้ายไปเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ก็ไม่ได้เป็นการทรยศต่อผู้ที่เลือกมา เพราะพรรคประชาชนปฏิรูปได้ประกาศเจตนารมณ์ชัดเจนมาตั้งแต่ก่อนเลือกตั้งว่า จะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ  และนโยบายพรรคก็สอดคล้องกัน  โดยเฉพาะการนำคำสอนของพระพุทธเจ้าไปสู่การให้ประชาชนนำไปปฏิบัติ” นายไพบูลย์ กล่าว

 

นายไพบูลย์  ยืนยันว่า เรื่องการยุบเลิกพรรคไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมาย และกรณีนี้ไม่ใช่การควบรวมพรรค เพราะไม่ใช่การนำสมาชิกและทรัพย์สินของพรรคมารวม แล้วตั้งเป็นพรรคการเมืองใหม่  ดังนั้น ที่วิพากษ์วิจารณ์กันตอนนี้ จึงเป็นการสร้างวาทะกรรม บิดเบือนข้อกฎหมาย โจมตีใส่ความให้ตนเสียหาย จึงคิดว่าถึงเวลาที่ต้องมาตรวจสอบนักวิชาการ ที่ขอเรียกว่านักวิชาเกิน ที่แสดงความเห็นบิดเบือนกฎหมาย ทำให้สังคมเกิดความสับสน

 

“จากนี้ ผมถือว่าจะทำหน้าที่เหมือนซามูไรด้านกฎหมาย  ใครอย่าเข้ามาใส่วงดาบของผมก็แล้วกัน  ถ้าหากพูดบิดเบือนกฎหมายไม่ถูกต้อง  ผมก็จะฟ้องให้เป็นบรรทัดฐาน  ส่วนใครอยากจะโดนผมฟ้องอีก ก็เชิญออกมาวิพากษ์วิจารณ์ได้” นายไพบูลย์ กล่าว