ย้อนดูประวัติศาสตร์“3พรรคทหาร”อายุสั้น

25 ส.ค. 2562 | 05:21 น.
อัปเดตล่าสุด :25 ส.ค. 2562 | 12:47 น.

ย้อนดูประวัติศาสตร์“3พรรคทหาร”อายุสั้น ช่วงหนึ่งในรายการเนชั่นสุดสัปดาห์ กับ 3 บก.ใหญ่ โดย นายสมชาย มีเสน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Nation Group นายบากบั่น บุญเลิศ บรรณาธิการอำนวยการ หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ และนายวีระศักดิ์ พงษ์อักษร บรรณาธิการบริหาร หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ซึ่งออกอากาศเมื่อวันที่ 25 สิงหาคมได้วิเคราะห์เจาะลึกสถานการณ์ร้อนทางการเมืองช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

เมื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ตั้งโต๊ะแถลงข่าวว่า นั่งเป็นประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐอย่างชัดเจน ย้อนแย้งภาพตลอดหลายปีมานี้ที่มักยืนคุมอยู่เบื้องหลัง พล.อ.ประวิตร ยืนยันออกสื่อว่า วันนี้ตนเองนั้นเป็นนักการเมืองเต็มตัวแล้ว ยิ่งตอกย้ำความรู้สึกว่า “พลังประชารัฐ”กำลังจะแปลงร่างเป็นพรรคทหารอย่างเต็มตัวแล้วหรือไม่

“พลังประชารัฐไม่ใช่พรรคทหารจะมีทหารก็คนเดียว คือ ผมนี่ล่ะที่เข้ามา ผมช่วยบ้านเมืองมา 50 กว่าปีแล้วตลอดระยะเวลาที่รับราชการอยู่ พยายามทำทุกอย่างให้ดีให้เกิดประโยชน์กับประชาชนและบ้านเมืองและการเข้ามาร่วมกับพรรคพลังประชารัฐในครั้งนี้ไม่ได้ถูกชักชวนจากใคร...” พล.อ.ประวิตร กล่าวย้ำ  

3 บก.วิเคราะห์ถึงการเข้าร่วมพรรคพลังประชารัฐในครั้งนี้ โดยตั้งข้อสังเกตว่า นับตั้งแต่หลังมีการจัดตั้งรัฐบาล พล.อ.ประวิตร ซึ่งแม้ว่าจะนั่งเก้าอี้รองนายกฯแต่ก็ไม่ได้คุมงานความมั่งคงเหมือนเช่นที่ผ่านมา เป็น “รองนายกรัฐมนตรีลอย” ต่างจากก่อนรัฐประหารที่ดูแลทั้งกระทรวงกลาโหมและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่วันนี้งานด้านความมั่นคงอยู่ในมือพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีทั้งหมด สะท้อนให้เห็นถึงบทบาทและอำนาจที่ถูกลดทอนลง

ตอกย้ำชัดเจนในเรื่องนี้เมื่อนักการเมืองสาย “บิ๊กป้อม” ไม่ได้นั่งอยู่ในกระทรวงเกรดเอเลย ไม่ว่าจะเป็น นายณัฎฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ รวมถึง ร.ต.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า คนใกล้ชิดของ พล.อ.ประวิตร และพล.อ.ประยุทธ์ ก็ได้ไปเพียง เก้าอี้ รมช.เกษตรฯ

ตรงข้ามกับนักการเมืองสาย นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯฝ่ายเศรษฐกิจ ที่ต่างได้ดิบได้ดี ไม่ว่าจะเป็นนายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง, นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน,นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ นั่ง รมว.อุดมศึกษาและวิจัยฯ รวมถึงกลุ่มสามมิตรที่ครั้งนี้ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ได้นั่ง รมว.อุตสาหกรรมฯ และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน นั่ง รมว.ยุติธรรม จากฐานความคิดที่ว่า นักการเมืองสายของนายสมคิดนั้นบริหารและสร้างพรรคพลังประชารัฐขึ้นมานั่นเอง จึงเป็นที่มาของการเข้าร่วมพรรคพลังประชารัฐของพล.อ.ประวิตรในครั้งนี้  

พร้อมประกาศเดินหน้ามาเป็นเสาค้ำยันให้กับรัฐบาลอย่างชัดเจน โดยเรียกร้องตั้งแต่วันที่เข้าร่วมพรรคพลังประชารัฐ กดดันให้ 5 รัฐมนตรีที่เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อไปพิจารณาทบทวนลาออกจากการเป็น ส.ส. เพื่อไม่ให้เกิดเหตุแพ้โหวตในสภาเกิดขึ้นเหมือนที่ผ่านมา  

สำหรับ 5 รัฐมนตรีดังกล่าว ประกอบด้วย นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาฯ 2.นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดีอี 3.นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง 4.นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม และ 5.นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม หากทั้ง 5 รายลาออกก็จะสามารถขยับส.ส.บัญชีรายชื่อในลำดับถัดไปขึ้นมาแทน ประกอบด้วย ลำดับที่ 21 นายยุทธนา โพธสุธน ลำดับที่ 22 นายต่อศักดิ์ อัศวเหม ลำดับที่ 23 นายชวน ชูจันทร์ ลำดับที่ 24 นายภิรมย์ พลวิเศษ และลำดับที่ 25 นายสุรพร ดนัยตั้งตระกูล ซึ่งปัจจุบันถูกแต่งตั้งเป็น ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานแล้ว อาจสละให้ลำดับที่ 26  

อย่างไรก็ดี ข้อเรียกร้องของพล.อ.ประวิตร ไม่ได้รับการสนองตอบ ทั้ง 5 รายยังคงยืนยันที่จะนั่งควบตำแหน่ง ส.ส.ด้วยเนื่องจากเกรงว่า หากมีการปรับคณะรัฐมนตรีเกิดขึ้น ตัวเองจะ “ตีนลอย” นอกจากจะหลุดจากเก้าอี้ รมว.แล้วจะทำให้ตนเองหลุดจากการเป็นส.ส.ไปด้วยหากลาออกไปแล้วนั่นเอง    

ย้อนดูประวัติศาสตร์“3พรรคทหาร”อายุสั้น

พร้อมกันนี้  3 บก.ได้พาย้อนไปดูประวัติศาสตร์การเมืองไทยกรณี ทหารแปลงร่างเป็นพรรคการเมืองว่า มีด้วยกัน 3 ครั้ง ที่น่าสนใจ พรรคทหาร ต้องจบลงในเวลาไม่นาน

ครั้งแรก เกิดขึ้นในสมัยจอมพล ป.พิบูลสงคราม ซึ่งทำรัฐประหารและนั่งเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่นานหลายปี กระทั่งปี 2948 ให้มีพ.ร.บ.พรรคการเมืองเพื่อให้มีการเลือกตั้งขึ้น โดยจอมพล ป.พิบูลสงครามได้นั่งเป็นหัวหน้า “พรรคเสรีมหังคศิลา” พรรคที่จัดตั้งขึ้นเพื่อเตรียมรับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในปี 2500 มี พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ อธิบดีกรมตำรวจในขณะนั้นเป็นเลขาธิการพรรค จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ และ พล.ต.ประภาส จารุเสถียร เป็นรองหัวหน้าพรรค มีที่ทำการพรรค คือ บ้านมนังคศิลา   

สามารถชนะการเลือกตั้งได้ 83 เสียง เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล แต่เนื่องจากมีการโกงการเลือกตั้งจนถูกเรียกขานขนานนามให้เป็นการเลือกตั้งที่สกปรกที่สุด จนเกิดการประท้วงเดินขบวนของนิสิตนักศึกษา เป็นเหตุให้จอมพลสฤษดิ์ ได้ทำการปฏิวัติและสั่งยุบเลิกพรรคการเมืองในปี 2501  

ย้อนดูประวัติศาสตร์“3พรรคทหาร”อายุสั้น จากนั้น จอมพลสฤษดิ์ และจอมพลถนอม กิตติขจร ได้ขึ้นมาบริหาร กระทั่งประชาชนเรียกร้องต้องการให้จัดให้มีการเลือกตั้ง จึงได้จัดตั้งพรรคขึ้นมาใช้ชื่อว่า “พรรคสหประชาไทย” ก่อตั้งเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2511 เพื่อรองรับการเลือกตั้งในปี 2512 โดยจอมพลถนอม นายกฯและรมว.กลาโหม และผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นหัวหน้าพรรค, พล.อ.อ.ทวี จุลละทรัพย์ เป็น เลขาธิการพรรค, พล.อ.ประภาส รองนายกฯ รมว.มหาดไทย และผบ.ทบ.เป็นรองหัวหน้าพรรค, พล.ต.อ.ประเสริฐ รุจิรวงศ์ อธิบดีกรมตำรวจ เป็นรองหัวหน้าพรรค

ในเดือนมีนาคม 2514 ชนะการเลือกตั้ง ด้วยคะแนน 75 ที่นั่ง ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลโดยส่ง จอมพลถนอม เป็นนายกฯ กระทั่งมีการรัฐประหารตัวเอง เลิกรัฐธรรมนูญ ยุบสภา และพรรคการเมืองในเดือนพฤศจิกายน 2514

อีกครั้ง หลังเกิดเหตุการณ์ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2534 พล.อ.สุจินดา คราประยูร ได้ร่วมกับ พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ และพล.อ.อ.เกษตร โรจนนิล เข้ายึดอำนาจจากรัฐบาล พล.อ.ชาติชาย ชุณหวัณ ได้ฉีกและร่างรัฐธรรมนูญใหม่ และมีกฎหมายพรรคการเมือง

ย้อนดูประวัติศาสตร์“3พรรคทหาร”อายุสั้น

เกิด “พรรคสามัคคีธรรม” ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 3 มกราคม 2535 เพื่อรองรับการเลือกตั้งในวันที่ 22 มีนาคม 2535 โดยนายณรงค์ วงศ์วรรณ อดีตหัวหน้าพรรครวมไทย เป็นหัวหน้าพรรค, น.ต.ฐิติ นาครทรรพ เป็นเลขาธิการพรรคซึ่งเป็นผู้บริหารพรรคตัวจริงร่วมกับ พล.อ.อ.เกษตร โรจนนิล ที่คุมเบื้องหลังอีกชั้นหนึ่ง ชนะการเลือกตั้งด้วยคะแนน 79 ที่นั่ง ร่วมกับ 5 พรรครัฐบาล คือ พรรคสามัคคีธรรม พรรคชาติไทย พรรคกิจสังคม พรรคประชากรไทย และพรรคราษฎร  

อย่างไรก็ดี หลังชนะการเลือกตั้งมีข่าวว่าจะชื่อ นายณรงค์ ซึ่งเป็นหัวหน้าพรรคขึ้นเป็นนายกฯ หลังมีกระแสข่าวได้เพียง  3 วันก็มีข่าวว่า นายณรงค์ มีชื่อติดแบ็คลิสต์ที่อเมริกา พรรคสามัคคีธรรม จึงเลือก พล.อ.สุจินดา คราประยูร ขึ้นมาแทน แต่ก็มีอายุได้เพียงแค่ 47 วัน เนื่องจากนักศึกษาประชาชนและ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ออกมาประท้วงเรียกร้องเพราะในการนั่งแถลงข่าววันรัฐประหารนั้น คณะรสช. ต่างยืนยันว่า จะไม่มานั่งเป็น นายกรัฐมนตรี รวมถึง พล.อ.สุจินดา ที่เคยประกาศไว้ชัดเจนว่า “ผมจะไม่มาเป็นนายกรัฐมนตรี”  

ย้อนดูประวัติศาสตร์“3พรรคทหาร”อายุสั้น

น่าสนใจว่า ก่อนการเลือกตั้งในครั้งนั้น รสช.บริหารพรรคการเมืองอยู่ 2 พรรค นอกจาก “สามัคคีธรรม” แล้ว ยังบริหาร พรรคชาติไทย ซึ่งเดิม พล.อ.ชาติชาย ชุณหวัณ เป็นหัวหน้าพรรค แต่หลังถูกรัฐประหารได้หนีออกนอกประเทศไปขณะนั้นนายบรรหาร ศิลปอาชา นั่งเป็นรักษาการหัวหน้าพรรคแทน ช่วงนี้ รสช.ได้ให้ พล.อ.อ.สมบูรณ ระหงส์ มาเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อมาจัดการรวมเสียงสนับสนุนให้ พล.อ.สุจินดา ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีแต่เกิดการต่อต้านจากนักศึกษา ประชาชน ที่มาของเหตุการณ์ พฤษภาทมิฬ ประเทศไทยจึงมีรัฐบาลพิเศษเกิดขึ้นโดย นายอานันท์ ปันยารชุน เป็นนายกฯ กระทั่งได้มีการเลือกตั้งใหม่เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2535 พรรคสามัคคีธรรมก็ได้สลายตัวในการเลือกตั้งในครั้งนั้น