ลุ้น41ส.ส.ถือหุ้นสื่อ ตัวชี้ขาด‘เสถียรภาพรัฐบาล’

26 มิ.ย. 2562 | 04:30 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

วันนี้พรรคขั้วรัฐบาลร่วมวงเปิดแผล ส.ส.ขั้วตรงข้ามร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญตรวจสอบกรณีการถือครองหุ้นและเป็นเจ้าของกิจการสื่อ จนถึงวันนี้มียอดส.ส.รวมกันเกือบ 100 คนแล้ว

สถานการณ์นี้กำลังสั่นคลอนความมั่นคงและเสถียรภาพของรัฐบาลอย่างหนัก หากศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว เช่นเดียวกับกรณีของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ก่อนหน้านี้

ด้วยจำนวน 254 เสียงส.ส.ปริ่มนํ้าที่มีอยู่ในรัฐสภาขณะนี้ คอการเมืองวิเคราะห์กันเอาไว้ว่า บริหารงานยากกันอยู่แล้วหากเสียงหดหายไปอีกคงเข้าขั้นวิกฤติ

แม้แต่นายถวิล ไพรสณฑ์หัวหน้าคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ ยังออกอาการหนักใจ เมื่อคราวให้สัมภาษณ์สื่อถึงเรื่องนี้โดยยอมรับว่า เป็นห่วงเรื่องเสถียรภาพของรัฐบาลเพราะถ้าศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้ผู้ถูกฟ้องคดีต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่ ทั้งในส่วนของ ส.ส.และส.ว.รวมแล้วมีถึง 62 คนก็จะกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาลแน่

ลุ้น41ส.ส.ถือหุ้นสื่อ  ตัวชี้ขาด‘เสถียรภาพรัฐบาล’

ขณะที่ รศ.ดร.เจษฎ์ โทณะวณิก ประธานคณะนิติศาสตร์ วิทยาลัยบัณฑิตเอเชีย ให้มุมมองที่น่าสนใจกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า หากศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่จริง น่าลุ้นว่าจำนวนตัวเลขส.ส.ขั้วรัฐบาลหรือขั้วฝ่ายค้านจะมากกว่ากัน เพราะนั่นย่อมแสดงถึงความได้เปรียบเสียเปรียบกันในสภา

“วันนี้จำนวนเสียงส.ส.กํ้ากึ่งกันมาก เท่าที่ฟังดูพอฟัดพอเหวี่ยงกัน อย่างไรก็ดี ผมเชื่อว่าในภาวะการณ์เช่นนี้ฝ่ายค้านจะยังไม่ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ส่วนรัฐบาลก็อยู่ไปอย่างง่อนแง่น เดินหน้าลำบาก แต่ก็คงจะยังไม่ถึงขั้นยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ และคงไม่มีพรรคไหนอยากจะเลือกตั้งใหม่ เพราะไม่แน่ว่าจะได้กลับเข้ามาอีก โดยเฉพาะพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งตอนนี้ได้เปรียบอยู่ ได้จัดตั้งรัฐบาลต้องคิดหนัก และการเลือกตั้งแต่ละครั้งต้องใช้เงิน กรณีนี้น่าสนใจต้องรอดูคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ว่าจะไปในทิศทางใด ซึ่งจะเป็นบรรทัดฐานในเรื่องนี้ต่อไป” รศ.ดร.เจษฎ์ ระบุ

สำหรับ ส.ส.ขั้วพรรคฝ่ายค้าน ประกอบด้วย พรรคอนาคตใหม่ 33 คน พรรคเพื่อไทย 10 คน พรรคประชาชาติ 2 คน จากพรรคเพื่อชาติและเสรีรวมไทยพรรคละ 4 คน จากพรรคเศรษฐกิจใหม่และพรรคพลังปวงชนไทยอีกพรรคละ 1 คน รวม 55 คน จากจำนวน 242 เสียงในสภา

ไม่น่าสนใจเท่ากับตัวเลขฝั่งพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งอยู่ที่ 41 คน เพราะหากวิเคราะห์จากข้อมูล พบว่า ในจำนวนนี้ มี 11 คนเป็น ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ อาทิ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ถือครองหุ้นบริษัท แปซิฟิค เอ็กซ์คลูซีฟ ซิตี้ คลับ จำกัด นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อถือครองหุ้นบริษัท เท็คลิ้งค์ จำกัด นางพิชชารัตน์ เลาหพงศ์ชนะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ถือครองหุ้นบริษัท ธรี สุขุมวิท โฮลดิ้ง จำกัด

ลุ้น41ส.ส.ถือหุ้นสื่อ  ตัวชี้ขาด‘เสถียรภาพรัฐบาล’

นายกรณ์ จาติกวณิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ ถือครองหุ้นบริษัท เกษตรเข้มแข็ง จำกัด น.ส.จิตภัสร์ กฤดากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ถือครองหุ้นบริษัท ซี.บี.โฮลดิ้ง จำกัด และนายอัศวิน วิภูศิริ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ถือครองหุ้นบริษัท ภัทรเฮ้าส์ แอนด์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เป็นต้น หากเกิดอุบัติเหตุกับส.ส.พรรคตัวเองกลุ่มนี้ไม่มีปัญหาเพราะสามารถดันรายชื่อลำดับถัดไปขึ้นมาทดแทนกันได้ทันที

เช่นเดียวกับกลุ่ม 21 ส.ว.ที่ถูกนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตส.ส.พรรคไทยรักษาชาติ ร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ตรวจสอบในประเด็นเดียวกันนี้ อาทิ นายวันชัย สอนศิริ บริษัท แคล นู ไฮเรอร์ จำกัด นายวงศ์สยาม เพ็งพานิชภักดี บริษัท สมศรีพานิช จำกัด นายระวี รุ่งเรือง บริษัท ฟาร์มเมอร์ รีสอร์ท จำกัด นายยุทธนา ทัพเจริญ บริษัท วิคเตอร์ โปรเฟสชั่นแนล จำกัด พล.อ.อ.มนัส รูปขจร บริษัท พลังร่วม 18 จำกัด และนางสาวภัทรา วรามิตร บริษัท กาฬสินธุ์ โอทอป อินเตอร์เทรดเดอร์ จำกัด เป็นต้น กลุ่มนี้รัฐบาลจึงไม่หนักใจเพราะมี 50 รายชื่อ ส.ว.ไว้ทดแทนแล้ว

 

ที่น่ากังวลจึงอยู่ที่ กลุ่ม ส.ส.เขต ที่มีตัวเลขรวมกันมากถึง 30 เสียง จาก 2 พรรคการเมือง แบ่งเป็น จากพรรคพลังประชารัฐ 22 คน อาทิ นายกษิดิ์เดช ชุติมันต์ ส.ส.กทม. เขต 8 ถือครองหุ้นบริษัท โอ ที ซุปเปอร์เซอร์วิส จำกัด.น.ส.กุลวลี นพอมรบดี ส.ส.ราชบุรี เขต 1 ถือครองหุ้นบริษัท มาลัยดอกรัก จำกัด นายจักรพันธ์ พรนิมิตร ส.ส.กทม. เขต 30 ถือครองหุ้นบริษัท มัชฌิมา-มาวิน จำกัด นายฐาปกรณ์ กุลเจริญ ส.ส.สมุทร ปราการ เขต 6 ถือครองหุ้นบริษัท เค.โอ.พี.เวลท์ตี้ จำกัด และน.ส. ตรีนุช เทียนทอง ส.ส.สระแก้ว เขต 2 ถือครองหุ้นบริษัท สระแก้ว เวลธี กรุ๊ป จำกัด เป็นต้น

พรรคประชาธิปัตย์อีก 9 คน อาทิ นางกันตวรรณ ตันเถียร กุลจรรยาวิวัฒน์ ส.ส.พังงา เขต 1 ถือครองหุ้นบริษัท เทพวนา จำกัด นายปกรณ์ มุ่งเจริญพร ส.ส.สุรินทร์ เขต 1 ถือครองหุ้นบริษัท สุรินทร์ ซิตี้ จำกัด นายประมวล พงศ์ถาวรเดช ส.ส. ประจวบคีรีขันธ์ เขต 3 ถือครองหุ้นบริษัท พงศ์วราปิโตรเลียม จำกัด นายภานุ ศรีบุศยกาญจน์ ส.ส.สุราษฎร์ธานี เขต 1 ถือครองหุ้นบริษัท ศรีบุศยกาญจน์ จำกัด และน.ส.วชิราภรณ์ กาญจนะ ส.ส. สุราษฎร์ธานี เขต 3 ถือครองหุ้นบริษัท เวียงสระศิลา จำกัด เป็นต้น 

รายงาน โดย ทีมข่าวการเมือง

หน้า 16 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3482 ระหว่างวันที่ 27 - 29 มิถุนายน 2562

ลุ้น41ส.ส.ถือหุ้นสื่อ  ตัวชี้ขาด‘เสถียรภาพรัฐบาล’