ปชช. เกือบ 100% เลือกนายกฯ "ซื่อสัตย์-สุจริต-โปร่งใส"

05 มี.ค. 2562 | 09:54 น.
อัปเดตล่าสุด :05 มี.ค. 2562 | 20:24 น.

สถาบันพระปกเกล้าเผยผลสำรวจ ปชช. 99.6% เลือกนายกฯ ที่ซื่อสัตย์สุจริต-โปร่งใส-เสียสละ 99.1% ตัดสินใจเลือก ส.ส.เขต ที่ซื่อสัตย์-มีคุณธรรม ขณะที่ 67.1% ตัดสินใจเลือกพรรคการเมือง เพราะนโยบายของพรรค
 

ปชช. เกือบ 100% เลือกนายกฯ "ซื่อสัตย์-สุจริต-โปร่งใส"


วันนี้ (5 มี.ค. 62) ศาสตราจารย์วุฒิสาร ตันไชย เลขาธิการ สถาบันพระปกเกล้า พร้อมด้วย ดร.สติธร ธนานิธิโชติ นักวิชาการผู้ชำนาญการ รักษาการผู้อำนวยการ สำนักนวัตกรรมเพื่อประชาธิปไตย สถาบันพระปกเกล้า เผยผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ภายใต้โครงการจับตาการเลือกตั้ง 62 เรื่อง "ปัจจัยในการเลือกผู้สมัคร/พรรค คุณลักษณะของนายกรัฐมนตรีที่พึงประสงค์ และความมุ่งมั่นในการเลือกตั้ง" ซึ่งเป็นการสำรวจครั้งที่ 4 ระหว่างวันที่ 28 ก.พ. - 1 มี.ค. 2562 จากประชาชนทั่วประเทศ 1,540 ตัวอย่าง

ศ.วุฒิสาร เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า ให้ข้อมูลในภาพรวมว่า ปัจจัยในการเลือกผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตนั้น พบว่า ปัจจัยที่มีผลในการตัดสินใจมากที่สุด คือ ผู้สมัครต้องมีความซื่อสัตย์ มีคุณธรรม ร้อยละ  99.1% รองลงมาต้องมีวิสัยทัศน์และความคิดที่ก้าวหน้า และอันดับ 3 คือ ความสามารถในการแก้ไขพื้นที่ ทั้งนี้ ปัจจัยที่ประชาชนเห็นว่ามีส่วนสำคัญน้อย/ไม่มีส่วนสำคัญเลยในการเลือกตัดสินใจเลือก ส.ส.แบบแบ่งเขต คือ สัญญาว่าจะให้ของกำนัล หรือ เงิน เพศ หรือ บุคลิกหน้าตา


ส่วนปัจจัยในการเลือกพรรคการเมือง พบว่า ปัจจัยนโยบายของพรรค เป็นอันดับ 1 ร้อยละ 67.1 รองลงมา ปัจจัยหัวหน้าพรรค/ผู้นำพรรค และลำดับถัดมา คือ แนวทางการดำเนินการทางการเมืองของพรรค ร้อยละ 55.7 ทั้งนี้ ปัจจัยที่ประชาชนเห็นว่ามีส่วนสำคัญน้อย คือ เป็นบุคคลที่เคารพ/คนรู้จัก/เพื่อนแนะนำ ร้อยละ 58.8 รองลงมา ครอบครัวเคยเลือกพรรคนี้มา

ขณะที่ ปัจจัย/คุณลักษณะของนายกรัฐมนตรีนั้น พบว่า ประชาชนเลือกนายกรัฐมนตรีที่มีคุณธรรม ซื่อสัตย์สุจริต มีคะแนนเท่ากับมีความโปร่งใสในการทำงาน ร้อยละ 99.6 รองลงมา ต้องเป็นผู้มีความอุทิศ เสียสละ และปัจจัยที่ประชาชนเห็นว่ามีความสำคัญน้อย คือ นายกรัฐมนตรีที่มีวาทศิลป์ในการสื่อสาร มีประสบการณ์ทางการเมือง และความสามารถในการสื่อสารกับต่างประเทศ

ส่วนเกณฑ์ในการเลือก ส.ส.แบบแบ่งเขต พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 43.5 ให้ความสำคัญกับผู้สมัคร ส.ส. ในเขต

เมื่อสอบถามเรื่องความเชื่อมั่นในพลังของตนเองและความมุ่งมั่นที่จะไปเลือกตั้ง นับตั้งแต่มีการสำรวจความคิดเห็นครั้งที่ 1 ถึง 4 นี้ พบว่า ประชาชนมีความมุ่งมั่นในการออกไปใช้สิทธิ์แน่นอนเพิ่มขึ้นทุกครั้ง ร้อยละ 95.8

ทั้งนี้ ศาสตราจารย์วุฒิสาร กล่าวทิ้งท้ายว่า สำหรับโครงการจับตาการเลือกตั้ง 62 นั้น ทางสถาบันฯ ตั้งใจจะทำการสำรวจความคิดเห็นประชาชน ครั้งที่ 5 ซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายของการสำรวจ โดยสถาบันพระปกเกล้าจะทำการสำรวจเกณฑ์การตัดสินใจของประชาชนในการเลือกตั้งในช่วงการหาเสียงเข้มข้นและการหาเสียงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง และนโยบายแบบไหนประชาชนชื่นชอบ ก่อนเข้าคูหาหย่อนบัตรเลือกตั้ง ในวันที่ 24 มี.ค. 2562 และสถาบันพระปกเกล้าจะยังคงเกาะติดสถานการณ์การเลือกตั้งต่อไป
 

ปชช. เกือบ 100% เลือกนายกฯ "ซื่อสัตย์-สุจริต-โปร่งใส"