กฟภ.ทุ่ม 1,300 ล้าน พัฒนาระบบไฟฟ้าแม่สะเรียง พร้อมทำกิจกรรมมอบอุปกรณ์การแพทย์ให้โรงพยาบาล และมอบอุปกรณ์กีฬาให้กับโรงเรียนในพื้นที่
นายปิยพจน์ รุธิรโก รองผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.) เปิดเผยว่า กฟภ.มุ่งมั่นให้บริการพลังงานไฟฟ้าและธุรกิจเกี่ยวเนื่องต่างๆ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน พัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ และดูแลสังคมไทยอย่างยั่งยืน โดย กฟภ.ได้ให้ความสำคัญในการลงทุนสร้างระบบไฟฟ้าในทุกพื้นที่ที่ประชาชนต้องการใช้กระแสไฟฟ้า เช่น ที่ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ในพื้นที่ชนบท ซึ่งปัจจุบัน กฟภ.ใช้งบประมาณมากถึง 1,300 ล้านบาท เพื่อนำระบบไฟฟ้าที่มีคุณภาพให้เข้าถึงประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ ได้ก่อสร้างสายส่งระบบไฟฟ้าแรงสูง 115 kV จากสถานีไฟฟ้าฮอด จ.เชียงใหม่ ไปที่ อ.แม่สะเรียง ใช้เงินลงทุนถึง 904 ล้านบาท สร้างโครงการพัฒนาระบบโครงข่ายไฟฟ้าแบบ Micro gird แห่งแรกของประเทศไทย เพื่อนำกระแสไฟฟ้าที่ผลิตได้จากแหล่งน้ำขนาดเล็ก ไฟฟ้าที่ผลิตจากพลังงานงานแสงอาทิตย์ และไฟฟ้าที่ผลิตได้จากเครื่องกำเนิดไฟฟ้าของกฟภ.เอง มารวมกันเพื่อจัดการให้ประชาชนมีไฟฟ้าใช้อย่างต่อเนื่อง ทำให้ไฟฟ้าจะไม่ดับบ่อย ถ้าไฟดับก็จะดับไม่นาน อีกทั้งยังสร้างสถานีไฟฟ้าที่มีอุปกรณ์ทันสมัยให้ อ.แม่สะเรียง รวมงบประมาณอีกเกือบ300 ล้านบาท
“สิ่งที่น่าชื่นชมและน่าชื่นใจนอกจากทำงานตามภารกิจหลักแล้วการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ยังมีนโยบายด้านความรับผิดชอบต่อสังคม ที่มุ่งเน้น การเติบโตอย่างยั่งยืนร่วมกับ ชุมชน สังคม สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งเป็นนโยบายหลักของผู้ว่าการคนปัจจุบัน นายสมพงษ์ ปรีเปรม โดยในสายงานก่อสร้างและบริหารโครงการ พนักงานกฟภ.ก็ได้ร่วมกันบริจาคเงินและสิ่งของจัดกิจกรรมเพื่อช่วยเหลือสังคมอย่างต่อเนื่อง เช่นเมื่อเขาไปปฏิบัติงานที่ อ.แม่สะเรียง ก็ร่วมสนับสนุน บริจาคอุปกรณ์ทางการแพทย์ ให้โรงพยาบาลแม่สะเรียง และมอบอุปกรณ์กีฬาให้กับ
ทั้งนี้มีรายงานว่า ทางรัฐบาลประเทศเพื่อนบ้าน ได้เห็นความเจริญทางฝั่งประเทศไทย ประชาชนชาวไทย มีความสุข มีกระแสไฟฟ้าเข้าไปถึงทุกหมู่บ้าน ทางนายทหารระดับสูงของเมียนมา ได้เดินทางมาเจรจา กฟภ.เพื่อขอซื้อกระแสไฟฟ้าจากชายแดนไทยเข้าไปให้ประชาชนชาวเมียนมาและชนกลุ่มน้อยได้ใช้ไฟฟ้าด้วย