หน้าแรก
หน้าแรก
การเมือง
Play
Loading...
ภาคประชาชนยื่น 3 ข้อ จี้! สนช. หยุดออกกฎหมาย
27 ก.พ. 2562 | 09:58 น.
อัปเดตล่าสุด :
27 ก.พ. 2562 | 16:59 น.
เมื่อวันที่ 27 ก.พ. 2562 นายประยงค์ ดอกลำไย ประธานคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน องค์กรภาคประชาชน (กป.อพช) พร้อมสหภาพแรงงาน นักศึกษา และประชาชนผู้รักประชาธิปไตย ร่วมกับ 168 องค์กรภาคประชาสังคม ออกแถลงการณ์และยื่นหนังสือถึงประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และสมาชิกจำนวน 242 ฉบับ ขอให้ 1.สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ยุติการพิจารณากฎหมายทุกฉบับในทันที และ 2.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องชะลอการนำร่างพระราชบัญญัติที่ผ่านการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ นับแต่วันที่มีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป เมื่อวันที่ 23 ม.ค. 2562 ขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเพื่อพระมหากษัตริย์ทรงลงพระปรมาภิไธย เพื่อให้รัฐบาลใหม่ที่จะมาจากการเลือกตั้งของประชาชนเป็นผู้ดำเนินการต่อไปตามนัยรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 147
และ 3.ด้วยเหตุดังกล่าวมาทั้งหมด สภานิติบัญญัติแห่งชาติจึงไม่มีภารกิจที่จะดำเนินงานต่อไป ประกอบกับค่าตอบแทนสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ผู้ช่วย และค่าใช้จ่ายอื่น รวมเดือนละไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท นับจากวันนี้ถึงเดือน พ.ค. 2562 ต้องใช้ภาษีของประชาชนจ่ายให้กับสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติอีกไม่ต่ำกว่า 150 ล้านบาท เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อประเทศชาติ บ้านเมือง สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติจึงควรแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกนับตั้งแต่สิ้นเดือน ก.พ. 2562 เป็นต้นไป
ดังนั้น สนช. จึงสมควรยุติการพิจารณาและตรากฎหมายใหม่ทุกฉบับ เพื่อให้สภาผู้แทนราษฎรที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนเป็นผู้ดำเนินการ อันเป็นไปตามหลักการอำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทยและระบบรัฐสภา ซึ่งการเลือกตั้งทั่วไปจะจัดให้มีขึ้นเมื่อมีการยุบสภาผู้แทนราษฎร หรือ สภาผู้แทนราษฎรครบวาระ จึงไม่มีการพิจารณากฎหมายในขณะที่มีการเลือกตั้งทั่วไป ประกอบกับการตรากฎหมายจะเกี่ยวพันกับนโยบายที่พรรคการเมืองใช้ในการรณรงค์ช่วงเลือกตั้ง รัฐบาลที่อยู่ในช่วงการเลือกตั้งทั่วไปจึงมีสถานะเป็นรัฐบาลรักษาการ ไม่ดำเนินการใดที่มีผลผูกพันกับรัฐบาลที่จะมาใหม่ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ซึ่งสมาชิกไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาชน จึงไม่สมควรเป็นอย่างยิ่งที่จะพิจารณากฎหมายในช่วงเวลาที่มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป
แต่ปรากฏว่า ในช่วงเดือน ธ.ค. 2561 ต่อเนื่องถึง ม.ค. และ ก.พ. 2562 สนช. ได้พิจารณากฎหมายมากกว่า 100 ฉบับ และกำลังเร่งรีบพิจารณากฎหมายต่อเนื่องอีกจำนวนมาก โดยที่กฎหมายทั้งหมดไม่ได้มีความจำเป็นเร่งด่วนต่อการบริหารประเทศแต่อย่างใด ทั้งประจักษ์ชัดว่า การเร่งรีบพิจารณากฎหมายทำให้ขาดความรอบคอบ ไม่มีการรับฟังความคิดเห็นอย่างรอบด้าน ละเลย และปฏิเสธการมีส่วนร่วมของประชาชน ส่งผลให้กฎหมายหลายฉบับมีเนื้อหาที่จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติและประชาชนในอนาคต ดังเช่น ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นกับ ร่าง พ.ร.บ.ข้าว พ.ศ. .... อันเป็นเหตุให้ สนช. ต้องถอนร่าง พ.ร.บ.ข้าว ออกจากการพิจารณาเมื่อวันที่ 26 ก.พ. 2562
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กกต. แจง 5 หลักการ จัดเลือกตั้งพื้นที่สถานการณ์ไม่ปกติ
เริ่มแล้ว ลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้า เช็ควิธีทำรายการ
วิธีลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้า สส. 2569 นอกเขต–นอกราชอาณาจักร ทำอย่างไร เช็กขั้นตอนครบที่นี่
'ธรรมนัส-ยศสิงห์' ลุยนครปฐม ผนึกเกษตรฯ-อุตฯ ช่วยชาวนา ห้ามข้าราชการเกียร์ว่างช่วงเลือกตั้ง
โพลชี้ “ณัฐพงษ์-พรรคประชาชน”นำโด่ง ทิ้งห่างเพื่อไทย-ภูมิใจไทย