ยกเลิก ‘เกณฑ์ทหาร’ เกมหาเสียงนักการเมือง

24 ก.พ. 2562 | 04:00 น.
ในยามที่ประเทศเข้าสู่การเลือกตั้งเพื่อแย่งชิงอำนาจการบริหารประเทศ “นักการเมือง” มักนำวาทกรรม “ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร” และ “ตัดงบประ มาณทหาร” ขึ้นมาถล่ม “กองทัพ” เพื่อเรียกคะแนนเสียง เหมือนเช่นทุกครั้งก่อนถึงวันหย่อนบัตรเลือกตั้ง

การเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้นวันที่ 24 มีนาคม 2562 ก็เช่นกัน

เริ่มจาก นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค อนาคตใหม่ ที่ชูธงมาตั้งแต่แรกว่า หากเข้ามาเป็นรัฐบาลจะยกเลิกการเกณฑ์ทหาร พร้อมตัดงบประ มาณกองทัพ และลดกำลังพลลง

ขณะที่ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย เมื่อวันขึ้นปราศรัยใหญ่ที่ลานคนเมือง กรุงเทพ มหานคร ก็มีนโยบายทำนองนี้เช่นกัน แม้แต่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ก็ประกาศเห็นด้วยกับการตัดงบกองทัพ ขณะที่ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ หรือไอติม หลานชายนายอภิสิทธิ์ ก็เสนอให้ยกเลิกระบบ เกณฑ์ทหาร เป็นการสมัครใจ

tp16-3447-a

“ฐานเศรษฐกิจ” ได้ตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น พบว่า เกือบ 40 ประเทศทั่วโลก ยังคงให้บุคคลผู้มีอายุถึงเกณฑ์ที่ทางรัฐกำหนดต้องเข้าเป็น “ทหาร” เนื่องจากเป็นหน้าที่ของประชาชน ยกตัวอย่างเช่น บราซิล คิวบา กรีซ อิหร่าน อิสราเอล เกาหลีเหนือ เกาหลีใต้ คูเวต ลิเบีย ซีเรีย เวเนซุเอลา ตุรกี อาเซอร์ไบจาน เบอร์มิวด้า โคลัมเบีย อียิปต์ เม็กซิโก นอร์เวย์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ออสเตรีย เดนมาร์ก ฟินแลนด์ รัสเซีย สวิตเซอร์แลนด์ สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ (มีตามกฎหมาย)

แม้แต่ ไต้หวัน ซึ่งมีแผนให้เป็นกองกำลังอาสาสมัครทั้งหมดเมื่อสิ้นปี 2557 แต่ก็ยังคงการเกณฑ์ทหารหลังจากนั้นอยู่ ขณะที่ จีน (ยกเว้นที่ฮ่องกง และมาเก๊า ไม่มีการเกณฑ์ทหาร) นั้น แม้ว่าจะกำหนดให้พลเมืองที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไปต้องไปขึ้นทะเบียนต่อสำนักงานของกองทัพปลดปล่อยประชาชน แต่นโยบายนี้ก็ไม่ได้ถูกบังคับใช้

ส่วน โบลิเวีย ยังคงระบบการเกณฑ์ทหารไว้เพื่อเป็นช่องทางกรณีที่จำนวนผู้สมัครต่อปีน้อยกว่าเป้าที่วางไว้ สำหรับประเทศจอร์แดนนั้น จากข้อมูลอ้างว่าก่อนหน้านี้รัฐบาลเคยระงับการเกณฑ์ทหารไปในปี 2542 แต่ได้ริเริ่มขึ้นมาอีกครั้งในปี 2550

สำหรับ ประเทศไทย กำหนดให้ผู้ชายไทยทุกคนจะ ต้องเข้ารับการคัดเลือกเข้าเป็นทหารกองประจำการ (ทหารเกณฑ์) เมื่อมีอายุครบ 21 ปี บริบูรณ์ โดยการจับสลากได้ “ใบดำ” หมายถึง ไม่ต้องรับการคัดเลือกเป็นทหารกองประจำการ ถ้าได้ “ใบแดง” จะต้องเข้ารับราชการทหารเป็นระยะเวลา 2 ปี

อย่างไรก็ดี หากมีผู้ประสงค์สมัครใจเข้ากองประจำการเต็มจำนวนที่รับแล้วก็จะไม่ มีการจับสลาก นอกจากนี้ยังมีข้อยกเว้นและผ่อนผันให้กับผู้ที่เรียนวิชารักษาดินแดน (รด.)หรือผู้ที่สำเร็จการศึกษาในระดับต่างๆ ที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติรับราชการทหารและกฎกระทรวงด้วย

“ชาย-หญิง” เป็นทหาร

ที่น่าสนใจในบางประเทศมีกองทหารเกณฑ์ทั้งชายและหญิง เช่น เกาหลีเหนือ ที่ให้ผู้ชายจะต้องเข้ารับใช้กองทัพเป็นเวลา 10 ปี ส่วนผู้หญิงเมื่อเรียนจบชั้นมัธยมปลายแล้ว จะต้องเข้ารับใช้กองทัพจนถึงอายุ 23 ปี ส่งผลให้เกาหลีเหนือเป็นประเทศที่มีทหารในกองทัพมากกว่า 6 ล้านคน มากกว่า 5.5 ล้านคนเป็นทหารกองประจำการที่มาจากการเกณฑ์ทหาร ที่เหลืออีกกว่า 9 แสนคนเป็นทหารอาชีพ

เช่นเดียวกับ อิสราเอล ที่มีการเกณฑ์ทหารทั้งหญิงและชาย อย่างไรก็ดี สำหรับพลทหารหญิงซึ่งมีข้อจำกัดบางอย่างที่ไม่สามารถกระทำได้ เช่น การขับเครื่องบิน แต่ในปี 2537 มีการเรียกร้องถึงบทบาทและข้อจำกัดต่างๆ ทำให้ปัจจุบันทหารหญิงของกองทัพอิสราเอล สามารถกระทำหน้าที่ หรือสิ่งต่างๆ ได้เสมอภาคเท่าเทียมกับทหารชาย สำหรับผู้หญิงที่มีครอบครัวและมีลูก รวมถึงผู้ที่ประกอบอาชีพพยาบาล หรือเป็นนักบวชในศาสนา จะได้รับการยกเว้นไม่ต้องเข้ารับการเกณฑ์ทหารรับใช้ชาติ

บางประเทศกลุ่มนอร์ดิก เช่น นอร์เวย์ ซึ่งยังมีระบบการเกณฑ์ทหารอยู่ โดยผู้ชายที่มีอายุระหว่าง 19-44 ปี ต้องเข้ารับใช้ชาติเป็นทหาร กระทั่งเมื่อปี 2559 รัฐบาลนอร์เวย์ได้ออกกฎหมายให้ประชาชนทุกคนทั้งชายและหญิงที่มีอายุระหว่าง 14-44 ปี ต้องเข้ารับการฝึกอบรมกับกองทัพเพื่อความเท่าเทียมกันในสังคม

นับ10ชาติเลิกเกณฑ์ทหาร

ทั้งยังพบด้วยว่า มีหลายประเทศเช่นกันที่ “ยกเลิกระบบเกณฑ์ทหาร” ไปแล้ว เช่น ออสเตรเลีย รัฐสภาได้ยกเลิกการเกณฑ์ทหารมาตั้งแต่ปี 2515 ขณะที่ เบลเยียม ยุติการเกณฑ์ทหารลงเมื่อปี 2537 หลังจากนั้น 7 ปี 2 ประเทศมหาอำนาจ คือ ฝรั่งเศส และ เยอรมนี ก็ได้ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร และในปี 2547 ฮังการี ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร

ตามด้วย เลบานอน มาซิโดเลีย บอสเนีย และ เฮอร์เซโกวีนา ได้ยกเลิกการเกณฑ์ทหารลงเมื่อปี 2549 ต่อด้วย โรมาเนีย ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร เมื่อปี 2550 ในปี 2551 ทั้ง บัลแกเรีย และ โครเอเชียก็ได้ยกเลิกการเกณฑ์ทหารลง ส่วน แอลเบเนีย ได้ยกเลิกการเกณฑ์ทหารเมื่อปี 2553 และ ยูเครน ยกเลิกในปี 2556

ปท.ไม่เคยเกณฑ์ทหาร

ตรงกันข้ามกับอีกหลายสิบประเทศที่ “ไม่เคยมีระบบการเกณฑ์ทหาร” มาก่อน อาทิ บาฮามาส บังกลาเทศ ภูฏาน
จิบูตี แกมเบีย อินเดีย จาเมกา ญี่ปุ่น ลักเซมเบิร์ก มาเลเซีย มัลดีฟส์ มอลตา เนเธอร์แลนด์ นิวซีแลนด์ โปแลนด์ กาตาร์ รวันดา ซาอุดีอาระเบีย สโลวีเนีย แอฟริกาใต้ สเปน และสหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา เป็นต้น

อย่างไรก็ดี ด้วยบริบททางสังคมและความแตกต่างทางการเมืองการปกครองของแต่ละประเทศ จากข้อมูลพบว่า มีบางประเทศที่ “ไม่มีการเกณฑ์ทหารแต่ใช้การสมัครใจ” เช่น เบลีซ และ อาร์เจนตินา ซึ่งกำหนดเป็นกฎหมายชัดเจนให้สั่งเกณฑ์ทหารได้ด้วยเหตุผลจำเพาะ ตาม Public Law No.24.429 ที่ประกาศใช้เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2538

สำหรับ เมียนมา นั้น พบว่ามีข้อมูลขัดแย้งกัน โดยอ้างว่า มีการเกณฑ์ทหารแต่ไม่บังคับใช้มาตั้งแต่เดือนมกราคม 2554 ขณะที่ข้อมูลอีกแหล่ง (FWCC) ระบุว่า เมียนมาไม่มีการเกณฑ์ทหาร

คงต้องคอยดูหลังการเลือกตั้งว่าพรรคการเมืองที่ชูเรื่อง “ยกเลิกเกณฑ์ทหาร” จะได้เป็นรัฐบาลหรือไม่ และนโยบายดังกล่าวจะเป็นจริงหรือไม่

รายงาน การเมือง

หน้า 16 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3447 ระหว่างวันที่ 24 - 27 กุมภาพันธ์ 2562

595959859