ตระกูล 'อัศวเหม' ยกทีมอดีต ส.ส.สมุทรปราการ ซบพรรคพลังประชารัฐ ขณะ "สุชาติ ตันเจริญ" ขน 40 ชีวิต ร่วมด้วย อ้างยึดคืนอำนาจ-กลับสู่โหมดประชาธิปไตยโดยเร็ว-หนุนงาน 'อีอีซี'
ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) วันที่ 23 พ.ย. 2561 ว่า นายวิเชียร ชวลิต นายทะเบียนพรรคพลังประชารัฐ, นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รองหัวหน้าพรรค และนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ กรรมการบริหารพรรค ให้การต้อนรับอดีต ส.ส.สมุทรปราการ และทีมผู้บริหารท้องถิ่น กลุ่มสมุทรปราการก้าวหน้า ที่มาสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ประกอบด้วย
1.คุณอัครวัฒน์ อัศวเหม อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สมุทรปราการ และผู้ช่วยเลขานุการ รมว.คลัง 2.นายวรพร อัศวเหม ประธานสภาเทศบาลตำบลบางปู 3.นายต่อศักดิ์ อัศวเหม อดีตรองนายกเทศมนตรี นครสมุทรปราการ 4.นายกรุงศรีวิไล สุทินเผือก อดีต ส.ส.สมุทรปราการ 5.ดร.ยงยุทธ สุวรรณบุตร นายกเทศมนตรีตำบลแพรกษา 6.นายฐาปกรณ์ กุลเจริญ 7.นายจาตุรนต์ นกขมิ้น 8.นายสัมพันธ์ เตชะเจริญกุล อดีตนายกเทศมนตรีนครสมุทรปราการ 9.นางสาวภริม พูลเจริญ สมาชิกสภา อบจ.สมุทรปราการ และ 10.นายทวีศักดิ์ ตั้งเด่นไชย นายกสมาคมพ่อค้าเหล็กแห่งประเทศไทย
ขณะที่ นายสุชาติ ตันเจริญ แกนนำกลุ่มบ้านริมน้ำ พร้อมด้วย นายศักดิ์ชาย ตันเจริญ รองประธานสภา จ.ฉะเชิงเทรา บุตรชาย นำอดีต ส.ส.ฉะเชิงเทรา และสมาชิกในกลุ่ม จ.ร้อยเอ็ด สกลนคร มหาสารคาม ยโสธร มุกดาหาร นครพนม จำนวน 40 คน มาสมัครสมาชิกพรรค พปชร.
นายสุชาติ กล่าวว่า ที่มาร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ เพราะถือเป็นการยึดอำนาจคืนจากเผด็จการ เพราะต้องการกลับไปสู่โหมดประชาธิปไตย หากไม่เริ่มทำพรรคการเมือง ก็จะไม่มีการเลือกตั้งเสียที ในอนาคตจะใช้คำว่าเผด็จการหรือไม่เผด็จการไม่ได้ เพราะตอนนี้มีแต่ประชาธิปไตยและกำลังเข้าสู่โหมดการเลือกตั้ง
อีกเหตุผลหนึ่งที่มาร่วมกับพรรคนี้ เพราะการสนับสนุนนโยบายพัฒนาพื้นที่ภาคตะวันออก ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) ของรัฐบาล รวมถึงอดีตกลุ่มสามมิตรที่เป็นสมาชิกของพรรค ที่มาร่วมทำพรรคการเมืองเพื่อให้เกิดเลือกตั้งและเข้าสู่โหมดประชาธิปไตยโดยเร็วที่สุด
และหลังจากนี้จะไม่มีคำว่าเผด็จการหรือประชาธิปไตย เพราะจะมีแต่คำว่าประชาธิปไตยเท่านั้น การมาเข้าร่วมพรรคครั้งนี้ไม่มีการต่อรองเรื่องคดีความใด ๆ เพราะตนเองไม่มีคดีติดตัว
"ทุกพรรคการเมืองก็มีอะไรที่ดีเป็นของตัวเอง เราเป็นพรรคใหม่ต้องเจียมตัว พยายามสร้างความน่าเชื่อถือให้กับประชาชนให้มากที่สุด เพราะอาจไม่มีชื่อเสียงเหมือนพรรคเก่า ต้องพยายามสร้าง" นายสุชาติ ระบุ
ส่วนกระแสข่าวที่ว่า นายวราเทพ รัตนากร อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายก และอดีตสมาชิกกลุ่ม 16 มาเข้าร่วมกับพรรค พปชร. เชื่อว่าจะมาเข้าร่วมกับพรรค เพราะได้คุยกันแล้ว ใช้เป็นการดีลให้มาร่วมงาน กลุ่มของตนมีสมาชิกประมาณ 30-40 คน และทุกคนที่จะลงเลือกตั้งนั้น คาดหวังว่าจะชนะ ซึ่งประชาชนตอบรับกระแสของพรรค พปชร. ถือว่าดี
ส่วนจะมีใครอดีตสมาชิกกลุ่ม 16 มาร่วมงานกับพรรคอีกหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ แต่เวลานี้ถือว่าเขามาเยอะแล้ว ทั้ง นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเทศบาลเมืองพัทยา, นายวราเทพ ส่วนนายเนวิน ประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ยูไนเต็ด เป็นเพื่อนกันอยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคควรเสนอชื่อบุคคลใดเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปนั้น นายสุชาติ กล่าวว่า แล้วแต่พรรคพิจารณา จะเป็นนายทหารได้หรือใครก็แล้วแต่ต้องการเข้ามาสู่ระบอบประชาธิปไตย ถ้าเป็นทหารจะยิ่งดี และเป็นชื่อของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะยิ่งดีใหญ่ สุดท้ายแล้วประชาชนเป็นคนตัดสินใจเลือกเอง
ส่วนคำถามที่ว่า คิดว่า พรรค พปชร. จะชนะการเลือกตั้งและได้เสียงมาเป็นอันดับ 1 หรือไม่นั้น นายสุชาติ กล่าวว่า ทุกพรรคล้วนมั่นใจว่าตัวเองจะชนะ สุดท้ายแล้วก็ขึ้นอยู่กับประชาชนว่าจะเลือกใคร
ขณะที่ นายศักดิ์ชาย บุตรชาย กล่าวว่า จะลงสมัครรับเลือกตั้งหรือไม่ ต้องหารือกับนายสุชาติก่อน และเวลานี้ก็ลงพื้นที่อยู่แล้ว จึงมั่นใจว่าสู้ไหว เพราะกระแสตอบรับในพื้นที่ดี