ผบ.ทบ. ลั่น! "ไร้ปฏิวัติ" หากการเมืองไม่เป็นต้นเหตุจลาจล

17 ต.ค. 2561 | 08:17 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

ผบ.ทบ. ลั่น! ปฏิวัติไม่เกิด หากการเมืองไม่เป็นต้นเหตุ ชี้! ใครเป็นรัฐบาลก็ต้องสนองนโยบาย ยันทหารช่วยประชาชนด้วยใจ ไม่หวังคะแนนเสียง

พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้เรียกประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก วาระพิเศษ ที่กองบัญชาการกองทัพบก วันนี้ (17 ต.ค. 61) ในโอกาสแรกของการเข้ารับตำแหน่ง ผบ.ทบ. โดยผู้เข้าร่วมประชุมเป็นระดับผู้บังคับกองพันขึ้นไป เพื่อรับมอบนโยบาย

พล.อ.อภิรัชต์ ให้สัมภาษณ์ตอนหนึ่งระบุว่า เรื่องนโยบายของกองทัพ คงไม่เน้นย้ำอะไรมากนัก เนื่องจากส่วนใหญ่จะเป็นนโยบายที่สืบสานต่อจาก พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท องคมนตรีและอดีต ผบ.ทบ. เนื่องจากได้มีโอกาสร่วมงานกับท่านในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งสร้างความเข้มแข็ง แข็งแกร่ง ให้กับกองทัพ ถือเป็นนายทหารรบพิเศษที่เติบโตมาด้วยฝีมือแท้ ๆ

"ผมได้มีโอกาสใกล้ชิดและเรียนรู้งานหลาย ๆ อย่างจากท่าน จึงเป็นที่มาของการที่ท่านได้ตามแนวทาง Smart Man เมื่อมาถึงผม เป็น ผบ.ทบ. ก็มาเป็น Smart Soldier และ Strong Army นั่นหมายความว่า 2 ปีข้างหน้า กองทัพบกจะมีความเข้มแข็ง แข็งแกร่ง ไปสู่รูปธรรมให้มากยิ่งขึ้น"

พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า สถานการณ์ในอนาคตข้างหน้า กองทัพบกจะต้องเผชิญกับสถานการณ์หลายอย่างตามปฏิทินการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในปีหน้านั้น กองทัพบกเตรียมทำความเข้าใจกับกำลังพล ที่สำคัญที่สุด ผู้บังคับหน่วยจะต้องแยกแยะภารกิจให้ออก

"เราในฐานะกองทัพบกและเป็นทหารของชาติ ทหารของประชาชน มีหน้าที่อยู่แล้วที่จะสนองต่อนโยบายของรัฐบาล ไม่ว่าใครจะมาเป็นรัฐบาลก็ตาม นี่คือ หน้าที่ของกองทัพ กองทัพต้องทำงานให้กับรัฐบาล เพราะฉะนั้น ในการเลือกตั้งที่กำลังจะมีเกิดขึ้น ได้ประชุมผู้บังคับหน่วยและเน้นย้ำในส่วนที่เป็นกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กดล.รส.) ได้ให้แนวทางว่า ต้องใช้ความระมัดระวัง เพราะจากนี้ไปก็ต้องถูกจับตา จับจ้องจากนักการเมือง ยอมรับว่า ทหารขาดประสบการณ์เรื่องการเมือง"


อภิรัตน์2

อย่างไรก็ตาม ได้ให้แนวทางของกองทัพ โดยเฉพาะ กกล.รส. เนื่องจากสวมหมวก 2 ใบ คือ ในฐานะกองทัพบก และในฐานะที่เป็น คสช. จากการเดินต่อไปนี้ต้องระมัดระวัง ไม่ให้การเมืองเข้ามาใช้ประโยชน์จากการช่วยเหลือประชาชน ยืนยันว่า กองทัพช่วยเหลือประชาชนเราไม่ได้หาเสียง" พล.อ.อภิรัชต์ ระบุ

ผบ.ทบ. ระบุด้วยว่า อยากให้กำลังพลระมัดระวังการฉกฉวยโอกาสที่มองว่า การไปช่วยเหลือประชาชนของทหารนั้นเป็นการหาเสียง ขอย้ำว่า เราทำมานานแล้ว และอยากให้ประชาชนได้รู้ว่า ทหารช่วยเหลือประชาชนด้วยอาชีพ ด้วยใจ ไม่ได้หวังผล ไม่ได้ต้องการให้มาเลือกคนที่ไปช่วยเหลือ แต่ช่วยเหลือตามแนวทางของรัฐบาล

ผู้สื่อข่าวถามว่า หลายฝ่ายมองว่าทหารสนับสนุนพรรคพลังประชารัฐ พล.อ.อภิรัชต์ ชี้แจงว่า เราต้องแยกแยะภารกิจให้ออก นี่คือ จุดยืนของกองทัพ ซึ่งจะชี้แจงให้ผู้บังคับหน่วยรับทราบว่า เราต้องระมัดระวัง

"จากนี้ไปถูกจับตามองแน่ เพราะกองทัพและ คสช. ก็คือ เนื้อเดียวกัน ขณะนี้รัฐบาล ก็คือ รัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ แต่ยืนยันว่า ไม่ว่าใครมาเป็นรัฐบาล เราก็ต้องทำ ผมก็ต้องทำ ไม่ว่าใคร พรรคการเมืองใดมาเป็นรัฐบาล ไม่ต้องห่วง ผมยืนยันและจุดยืนในการทำงานของผมในการกำหนดทิศทางให้กำลังพลในกองทัพบกได้ดำเนินการ ผมทำงาน 100% และเกินร้อยอยู่แล้ว ไม่ว่าใครมาเป็นนายผม"

เมื่อถามว่า กองทัพจะถูกจับตามองหลัง พล.อ ประยุทธ์ ประกาศลงสู่การเมือง จะเว้นระยะห่างระหว่างกองทัพกับ พล.อ.ประยุทธ์ อย่างไร ผบ.ทบ. ตอบว่า อยู่ที่มุมมองของคน การที่ไปพบกับ พล.อ.ประยุทธ์ แล้วบอกว่าไม่เป็นกลาง ถามว่าใช่หรือไม่ ก็ไม่ใช่ แต่ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นหัวหน้ารัฐบาลในขณะนี้ การที่ ผบ.ทบ. ไปพบ พล.อ.ประยุทธ์ ก็เป็นเรื่องปกติ

"ในอดีตที่ผ่านมา รัฐบาลที่มาจากพรรคการเมืองอื่นขึ้นมาเป็นหัวหน้ารัฐบาล ผมก็ต้องไปพบ แล้วบอกว่า ผมเป็นกลางหรือไม่ ความเป็นกลางอยู่ที่คนมอง ขออย่าพึ่งตัดสิน ย้ำว่า กองทัพบกเป็นมืออาชีพ เป็นทหารอาชีพ คำว่า ทหารอาชีพกับอาชีพทหารแตกต่างกัน ขอความเป็นธรรมด้วย ตั้งแต่เริ่มต้นว่า เรากองทัพบกจะวางตัวเป็นกลาง เราในฐานะทหารอาชีพ ใครมาเป็นรัฐบาลต้องสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล"

ผู้สื่อข่าวถามว่า สถานการณ์ในอนาคตหากเกิดวิกฤติ กองทัพจะปฏิวัติอีกหรือไม่ เนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์ ในช่วงเป็น ผบ.ทบ. ยืนยันมาตลอดไม่ปฏิวัติ แต่ก็ปฏิวัติ พล.อ.อภิรัชต์ นิ่ง ก่อนจะตอบว่า "เหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย สื่อได้บันทึกภาพในทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อย่าให้เป็นเพียงแต่ภาพที่เกิดขึ้น ให้บันทึกอยู่ในสมองในความทรงจำ เช่นเดียวกับคนไทยทุกคนที่เคยเห็นภาพต่าง ๆ ที่เคยเกิดขึ้น เมื่อบ้านเมืองเกิดความวุ่นวาย ทำอะไรก็ลำบาก ค้าขายก็ลำบาก ถนนถูกบล็อก คนไทยออกมาตีกัน ยิงกัน ฆ่ากัน วันนั้นทหารยืนอยู่ตรงไหน เราถูกรัฐบาลสั่งการให้ออกมาควบคุมความสงบเรียบร้อย เราทำด้วยหัวใจ ที่ไม่ได้คิดแบบนักการเมือง ว่า เราจะเข้ามาบริหารประเทศ"

"ผมเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้คิดเช่นเดียวกัน แต่ความที่ท่านต้องเสียสละ ถามว่า ในวันนั้นจะเกิดอะไรขึ้น ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ตัดสินใจทำรัฐประหาร ยอมรับว่า ผมมีความคุ้นเคยกับ พล.อ.ประยุทธ์ แต่ไม่มีเรื่องส่วนตัวกับท่าน เพราะท่านใช้ผมทำงานมาโดยตลอด เดือนหนึ่งได้เจอกัน 5 ถึง 10 นาที ก็เต็มที่แล้ว ผมถึงบอกว่าความเป็นกลางก่อนผมในฐานะที่เป็นผู้บัญชาการทหารบก ผมเจอท่านในเวลาสั้น ๆ ถือว่าเก่งแล้ว ในชีวิตนี้เคยนั่งคุยกับท่านไม่เกิน 1 ชั่วโมง แต่ได้เห็นความรัก ความรู้ ความทุ่มเทในการทำงานของท่าน ซึ่งเป็นแบบอย่างหนึ่งของผมในการดำเนินงานด้านราชการ และถ้าวันนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ตัดสินใจ บ้านเมืองจะเกิดอะไรขึ้น ผมว่าการตัดสินใจไม่ได้อยู่ที่ พล.อ.ประยุทธ์ แต่อยู่ที่ประชาชน" ผบ.ทบ. ระบุ

อย่างไรก็ตาม หวังใจเป็นอย่างยิ่งว่า เหตุการณ์รุนแรงในบ้านเมืองเช่นนี้คงไม่เกิดขึ้นอีก ที่ผ่านมามีเหตุการณ์อะไรขึ้นมาก็ไม่เคยขนาดนี้ เพราะมีการแย่งแก่งแย่ง ชิงการเมือง การเอาชนะ ไม่รู้จักแพ้ไม่รู้จักชนะ แล้วคนที่แพ้ ก็คือ ประเทศ

ยืนยันว่า กองทัพไม่มีวันชนะประชาชน แต่ประชาชนที่ออกมาสร้างความเดือดร้อน ยั่วยุให้จุดไฟเผา มีการประกอบระเบิด นั่นคือ ท่านแพ้ ท่านเป็นประชาชนที่ทำให้ประเทศแพ้ แทนที่เราจะแข่งขันทางการค้า แล้วต้องใช้เวลากี่ปีฟื้นฟูประเทศ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย หลังจากเกิดเหตุการณ์เมื่อ 4 ปีที่แล้ว มีการยกเลิกการนำเข้าส่งออกของประเทศต่างประเทศเป็นเงินมหาศาล กว่าจะฟื้นฟูกลับมาได้ใช้เวลาเท่าไร

จุดไฟเผาในเมือง เกิดกลียุค ปีเดียวสิ่งปลูกสร้างทำได้ แต่ในทางการค้าไม่ใช่ ความมั่นใจของต่างชาติในการลงทุนต้องใช้เวลานานกว่านั้น แต่วันนี้ทุกอย่างเริ่มดีขึ้น อาจจะเห็นผลช้า ไม่ทันใจ เชื่อว่า รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ทำทุกอย่างอย่างรอบคอบ

"สิ่งที่สื่อถามว่าจะมีปฏิวัติหรือไม่ ผมหวังใจเป็นอย่างยิ่งว่า การเมืองอย่าเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดความขัดแย้งของคนในชาติอีก ผมมั่นใจว่า ถ้าการเมืองไม่เป็นต้นเหตุแห่งการจราจล ก็ไม่มีอะไร ประเทศไทยเคยมีปฏิวัติมา 10 กว่าครั้ง แต่ไม่เหมือนสมัยก่อนแล้ว เพราะช่วงหลังเกิดจากการเมืองทั้งสิ้น ผมไม่ได้บอกว่า นักการเมืองดีหรือไม่ดี แต่เชื่อว่า นักการเมืองที่ดีก็มี และนักการเมืองที่ไม่ดีก็มี แต่ปัจจุบันคนไทยเป็นอย่างไร

ผมเสียใจในหลาย ๆ เรื่อง ที่เห็นว่ากระบวนการยุติธรรมถูกละเมิด การตัดสินคดีในหลายคดีกับคนทำความผิด บอกว่าไม่เป็นธรรมและประเทศชาติจะอยู่ตรงไหน อะไรเป็นกลาง อะไรคือจุดยืนของประเทศ ในเมื่อบอกคนนี้ผิด ก็แย้งว่าไม่ผิดถูกแกล้ง แล้วจะอยู่อย่างไร ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน จะให้คนไทยอยู่กันอย่างไร โดยไม่มีกฎระเบียบวินัย" ผบ.ทบ. ระบุ


595959859