ขรก.ท้องถิ่นยื่นสนช.ขอความเป็นธรรม ปมปปช.สอบฮั้วประมูลลานกีฬา

29 ส.ค. 2561 | 05:27 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

นายกสมาคมขรก.ท้องถิ่นฯ เดินสายยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่อ สนช. กรณี ป.ป.ช.ตั้งอนุฯไต่สวน ขรก.ท้องถิ่น 79 ราย ฐานฮั้วประมูล ในโครงการก่อสร้างลานกีฬาอเนกประสงค์ สนามสตรีทซอคเกอร์

จากกรณี ป.ป.ช. แต่งตั้ง อนุฯไต่สวนขรก.ท้องถิ่น 79 รายในข้อหาว่ากระทำความผิดเกี่ยวกับเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมาย พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 หรือ ความผิดฮั้วประมูล โครงการก่อสร้างลานกีฬาอเนกประสงค์ สนามสตรีทซอคเกอร์ จากงบอุดหนุนเฉพาะกิจของกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ในปีงบประมาณ 2556

ความเคลื่อนไหวล่าสุด (28 สิงหาคม) นายพิพัฒน์ วรสิทธิดำรง นายกสมาคมข้าราชการส่วนท้องถิ่นแห่งประเทศไทย ยื่นหนังสือต่อนายพงศ์กิตติ์ อรุณภักดีสกุล ที่ปรึกษาด้านการเมือง การปกครอง และการบริหารจัดการ ผ่านไปยังประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อขอความเป็นธรรมกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนข้าราชการส่วนท้องถิ่นในสังกัดองค์การบริหารส่วนตำบลและเทศบาลพื้นที่อำเภอฝางและอำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 15 แห่ง รวม 79 ราย กรณีการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างตามโครงการก่อสร้างลานกีฬาเอนกประสงค์ สนามกีฬาสตรีทซอคเกอร์ (ฟุตบอลโกล์หนู) จากงบอุดหนุนเฉพาะกิจของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ในปีงบประมาณ 2556 อาจไม่ชอบด้วยกฎหมาย

ทั้งนี้ ทางสมาคมฯ ได้มีการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงในอำเภอฝางและอำเภอแม่อาย พบว่า ข้อร้องทุกข์ของข้าราชการส่วนท้องถิ่นผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 79 รายไม่มีพฤติการณ์ดังกล่าว รวมทั้งพบข้อทักท้วงของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน โดยสำนักตรวจสอบพิเศษ ภาค 8 มีข้อบกพร่องที่สำคัญคือ การคำนวณราคากลางของวิศวกรประจำสำนักตรวจสอบพิเศษ ภาค 8 อาจมีการคำนวณที่ไม่รอบคอบโดยการใช้วัสดุที่ด้อยคุณภาพกว่ามาเทียบกับการประมาณการราคาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เช่น การใช้วัสดุหญ้าเทียม และวัสดุต่างๆ ในการก่อสร้างในครั้งนี้ จึงได้มีมติรับเรื่องไว้เพื่อประสานหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือโดยเร่งด่วน โดยผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 79 ราย ได้มีข้อกังวลต่อการดำเนินงานของ ป.ป.ช. ที่ผิดปกติในหลายประเด็น ได้แก่ 1. การดำเนินการไต่สวนหาข้อเท็จจริงเป็นไปอย่างเร่งรีบ โดยมีคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน การแจ้งคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนและการให้มารับทราบข้อกล่าวหาเป็นไปอย่างรวบรัด รวมทั้ง ไม่เปิดโอกาสให้ผู้ถูกกล่าวหาได้มีเวลาเพียงพอในการชี้แจงข้อกล่าวหาหรือรวบรวมพยานหลักฐานให้ครบถ้วน และ 2. การแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนไม่ชอบด้วยพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วย ป.ป.ช. พ.ศ. 2542 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ประกอบมาตรา 192 แห่ง พ.ร.ป. ว่าด้วย ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 โดยขอให้ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติมีดำริ ดังนี้ 1. แจ้งให้ ป.ป.ช. ยกเลิกคำสั่งการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนที่อาจไม่ชอบด้วยกฎหมายดังกล่าวและขอให้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนชุดใหม่ให้เป็นไปตามาตรา 51 ประกอบมาตรา 28 (1) และมาตรา 30 วรรคหนึ่ง แห่ง พ.ร.ป. ว่าด้วย ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 เพื่อให้เกิดความถูกต้องตามกฎหมาย 2. ให้คณะกรรมาธิการที่เกี่ยวข้องของสภานิติบัญญัติแห่งชาติดำเนินการตรวจสอบการดำเนินการตามคำสั่งการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนดังกล่าวว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ 3. ให้คณะกรรมาธิการหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบว่า การตั้งข้อกล่าวหาของคณะอนุกรรมการไต่สวนต่อผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 79 ราย เป็นการตั้งข้อกล่าวหาเกินจริงหรือไม่และจะส่งผลให้ไม่ได้รับความเป็นธรรมหรือไม่ และ 4. มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายของสภานิติบัญญัติแห่งชาติเข้าไปช่วยเหลือให้คำปรึกษาทางด้านกฎหมายแก่ผู้ถูกกล่าวหาและร่วมสังเกตการณ์ในการไต่สวนของคณะอนุกรมการไต่สวนของ ป.ป.ช. ในครั้งนี้ด้วย

3

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ นายพิพัฒน์ นายกสมาคมข้าราชการส่วนท้องถิ่นแห่งประเทศไทย และคณะ ได้เข้ายื่นหนังสือถึงผู้ตรวจการแผ่นดินมาแล้ว

นายพิพัฒน์ ให้ข้อมูลว่าโครงการนี้เป็นโครงการเร่งด่วนตามนโยบายของรัฐบาล นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยเป็นงบอุดหนุนเฉพาะกิจที่เป็นงบแปรญัติ ส.ส.ปี 2556 ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขต อ.ฝาง และอ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ รวม 15 แห่ง และได้ตั้งงบประมาณโครงการก่อสร้างแห่งละไม่เกิน 2 ล้านบาท ซึ่งครั้งนั้นมีอดีต ส.ส. เชียงใหม่ ได้เชิญนายกเทศมนตรี นายก อบต. เขตอ.ฝาง และอ.แม่อาย ให้ไปพบที่สำนักงาน และได้แจกเอกสารสรุปผลการประเมินก่อสร้าง แบบ ปร 5 รวมค่าก่อสร้างเป็นเงิน 1,999,000 บาท

ต่อมาสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้เข้ามาตรวจสอบและระบุว่าการก่อสร้างแต่ละแห่งใช้จ่ายงบประมาณสูงเกินจริง ซึ่ง สตง.ประเมินค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 9 แสนบาทเท่านั้น ซึ่งหลัง สตง.ตรวจสอบไม่ถึง 2 เดือน ปรากฎว่าทางป.ป.ช.ได้รีบเร่งตั้งคณะอนุกรรมการฯไต่สวนกลุ่มขรก.ท้องถิ่นดังกล่าว

e-book-1-503x62-7