"ทนายยิ่งลักษณ์" โร่วอนศาล "ชะลอยึดทรัพย์" อ้างคดียังไม่ถึงที่สุด

08 ก.พ. 2561 | 10:37 น.
อัปเดตล่าสุด :08 ก.พ. 2561 | 17:41 น.
ทนายความของนางสาว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เข้ายื่นคำร้องต่อศาลปกครอง ขอให้คุ้มครอง งด และชะลอ การบังคับคดีขายทอดตลาดบ้านพักที่ซอยโยธินพัฒนาสาม เนื่องจาก คำพิพากษาคดียังไม่ถึงที่สุด

-8 ก.พ. 61- นายนพดล หลาวทอง ทนายความของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับคดีใหม่ โดยขอให้ศาลคุ้มครอง โดยสั่งให้ กรมบังคับคดี งดหรือ ชะลอการขายทอดตลาดทรัพย์สิน ของ นางสาวยิ่งลักษณ์ เป็นการชั่วคราว จนกว่าจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด เนื่องจากเห็นว่าการยึดทรัพย์ เป็นขั้นตอนสุดท้ายของกระบวนการยุติธรรม แต่กรณีนี้ ยังไม่มีคำพิพากษาของศาลใดให้ชดใช้ค่าเสียหาย แต่เป็นการใช้คำสั่งทางปกครอง ในช่วงสถานการณ์บ้านเมืองไม่ปกติ ที่แตกต่างจากคดีอื่นทั่วไป และ ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ให้ กรมบังคับคดีอายัดเงินสดและทรัพย์สินต่างๆ โดยไม่ต้องรับผิดทางอาญา จึงมองว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม

ทั้งนี้ ในคำร้อง ได้แสดงข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายต่อศาล ใน 3 ประเด็น คือ 1.คำสั่งทางปกครองไม่ชอบด้วยกฎหมาย มีการลัดขั้นตอนแอละแตกต่างจากคดีทั่วไป  2.หากคำสั่งมีผลต่อไปจะสร้างความเสียหายต่อครอบครัวนางสาวยิ่งลักษณ์ โดยเฉพาะ บ้านในซอยโยธินพัฒนา ซึ่งเป็นทรัพย์สินที่ได้มาโดยสุจริต และ 3. การที่ศาลสั่งชะลอการขายทอดตลาดทรัพย์สิน จนกว่า จะได้มีคำพิพากษาถึงที่สุด จะไม่เป็นอุปสรรคกับการบริหารงานของรัฐหรือการบริการสาธารณะ
1518085255401 นายนพดล กล่าวว่า การยื่นคำร้องขอฉบับใหม่นี้ เป็นการใช้สิทธิตามปกติซึ่งกฎหมาย ให้สิทธิไว้ เพราะคดีที่กระทรวงการคลังได้ออกคำสั่งที่ 1351/2559 ลงวันที่ 13 ตุลาคม 2559 สั่งให้นางสาวยิ่งลักษณ์ ฯ ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน ในโครงการรับจำนำข้าวเป็นเงินจำนวนมากถึงสามหมื่นห้าพันล้านบาทเศษนั้น เป็นการออกคำสั่งเรียกให้รับผิดโดยยังไม่ได้ผ่านกระบวนการพิสูจน์ความผิดโดยศาล แต่เป็นการใช้อำนาจของฝ่ายรัฐ อีกทั้ง พลเอกประยุทธ์จันทร์โอชา ยังได้ใช้อำนาจหัวหน้า คสช. ออกคำสั่งตามมาตรา 44 ให้กรมบังคับคดี เข้าดำเนินการยึดอายัดทรัพย์สินของนางสาวยิ่งลักษณ์ ฯ ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดปกติ

เพราะในคดีอื่นๆ เมื่อฝ่ายบริหารใช้อำนาจรัฐออกคำสั่งเรียกให้ชดใช้แล้ว ก็จะมีการฟ้องคดีต่อศาลปกครอง ทุกฝ่ายจะรอผลแห่งคำพิพากษา เมื่อเป็นที่ยุติอย่างไรจึงจะดำเนินการต่อไป เช่น ศาลพิพากษาให้ต้องรับผิดก็จะมีการยึดอายัดทรัพย์สินนำไปขายทอดตลาดเพื่อนำเงินที่ได้มาชดใช้ต่อไป แต่คดีนี้ กลับเลือกปฏิบัติโดยมีการกระทำการยึดเงินสดและอายัดทรัพย์สินไปก่อนที่จะมีคำพิพากษาถึงที่สุด ดังนั้น นางสาวยิ่งลักษณ์ ฯ จึงได้ยื่นฟ้องพลเอกประยุทธ์ ฯ กับพวกต่อศาลปกครอง เป็นคดีนี้
1518085214549 คำร้องระบุที่ผ่านมานางสาวยิ่งลักษณ์จึงได้ใช้สิทธิตามกฎหมาย ยื่นคำร้องขอต่อศาลปกครองให้คุ้มครองเป็นการชั่วคราว ด้วยการเพิกถอนการยึดอายัดทรัพย์สินไปโดยกรมบังคับคดี ซึ่งมีถึง 37 รายการ โดยอาศัยคำสั่งหัวหน้า คสช. ตามมาตรา 44 ดังกล่าว ซึ่งต่อมาศาลสั่งยกคำร้อง

นายนพดล ระบุว่าการยื่นคำร้องใหม่ครั้งนี้ ได้แสดงข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายให้ศาลเห็นว่า กรณี ได้เข้าเงื่อนไขทั้งสามประการ ตามข้อ 72 วรรคสาม แห่งระเบียบของที่ประชุมใหญ่ตุลาการ ในศาลปกครองสูงสุด ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2543 แล้ว ที่ศาลจะสั่งทุเลาการบังคับฯ คือการคุ้มครองแก่ผู้ฟ้องคดีเป็นการชั่วคราว เงื่อนไขดังกล่าว คือ ประการแรก คำสั่งทางปกครอง ที่เรียกให้นางสาวยิ่งลักษณ์ชดใช้ความเสียหายนั้นน่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้พิพากษาแล้วว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ ฯ ไม่ได้กระทำผิดในส่วนของการดำเนินนโยบายจำนำข้าว เพราะได้ใช้ความระมัดระวังและมีมาตรการป้องกันอย่างดีแล้ว แต่เป็นความบกพร่องของเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติ ซึ่งคำสั่งที่เรียกให้ชดใช้ในคดีนี้นั้นอ้างความบกพร่องให้รับผิดในเรื่องจำนำข้าวเพียงอย่างเดียว ทำให้การคิดคำนวณค่าเสียหายที่เรียกให้นางสาวยิ่งลักษณ์ฯ ชดใช้เป็นการดำเนินการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
20448928_1681166665261115_8169974186332826283_o ประการที่สอง หากให้คำสั่งทางปกครองมีผลบังคับต่อไป จะทำให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรง จนยากแก่การแก้ไขเยียวยาในภายหลัง เพราะขณะนี้กรมบังคับคดีกำลังเตรียมการขายทอดตลาดกับทรัพย์สินที่ได้ยึดอายัดไป โดยเฉพาะบ้านพักอาศัยพร้อมที่ดินซึ่งมีบุตร และสามีกับเครือญาติพักอาศัยอยู่ ซึ่งหากขายทอดตลาดไปแล้ว หากภายหลังศาลพิพากษาว่านางสาวยิ่งลักษณ์ ฯ ไม่ได้กระทำผิด ก็ไม่อาจเรียกคืนบ้านพักพร้อมที่ดินซึ่งขายทอดตลาดไปแล้วได้ อันเป็นความเสียหายทั้งต่อตัวทรัพย์สิน และความเสียหายทางจิตใจของ นางสาวยิ่งลักษณ์บุตร สามี และผู้คน ในครอบครัวเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งทรัพย์สินดังกล่าว นางสาวยิ่งลักษณ์ได้ทำมาหากินมาโดยสุจริตตลอดชั่วอายุ โดยเฉพาะเป็นบ้านเกิดของบุตร ที่เจริญเติบโตมาจากบ้านหลังที่แม่กับพ่อได้ช่วยกันสร้างขึ้นมาจนปัจจุบัน
1-281 และประการสุดท้าย การที่ศาลจะได้สั่งให้งดหรือชะลอการขายทอดตลาดทรัพย์สินของนางสาวยิ่งลักษณ์ ฯ ไว้ก่อน จนกว่าจะได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดว่า นางสาวยิ่งลักษณ์กระทำผิดจริงหรือไม่นั้น จะไม่เป็นอุปสรรคแก่การบริหารงานของรัฐหรือแก่การบริการสาธารณะแต่อย่างใด

คำร้องระบุว่า นางสาวยิ่งลักษณ์หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความเมตตาจากศาลปกครอง ที่จะให้การคุ้มครองเป็นการชั่วคราวด้วยการให้งดหรือชะลอการขายทอดตลาดไว้ก่อนมีคำพิพากษาถึงที่สุด ชี้ถูกชี้ผิดว่าเป็นอย่างไร เหมือนดังเช่นบุคคลอื่นๆ ที่ได้รับการคุ้มครองจากศาล อันเป็นบทบัญญัติที่กฎหมายได้ให้การคุ้มครองตลอดมา ซึ่งกรณีของนางสาวยิ่งลักษณ์ ฯ นี้ ได้มีการปฏิบัติผิดแผกแตกต่างจากคดีอื่นโดยใช้อำนาจตามมาตรา 44 ให้กรมบังคับคดียึดอายัดเงินสดและทรัพย์สินต่างๆ ไปแล้วโดยไม่ชอบทั้งสิ้น

สำหรับขั้นตอนทางคดี ขณะนี้อยู่ระหว่าง การไต่สวนของศาลปกครอง ว่า การกระทำของนางสาวยิ่งลักษณ์ จะต้องรับผิดชอบในการชดใช้ค่าเสียหาย ตามที่กระทรวงการคลังเรียกร้องจริงหรือไม่ ดังนั้น ในชั้นนี้ จึงเห็นว่า ควรรอคำพิพากษาของศาลให้ถึงที่สุด และดำเนินการตามขั้นตอนเหมือนกับคดีปกติทั่วไป