เงินอุดหนุนบุตรเดือนกันยายน 67 โอนวันนี้ เช็คช่องทางตรวจสอบสิทธิที่นี่

09 ก.ย. 2567 | 20:00 น.

เงินอุดหนุนบุตรเดือนกันยายน 2567 โอนเข้าบัญชีวันนี้ แนะช่องทางเช็คสถานะสิทธิ พร้อมตรวจสอบเด็กเกิดเดือนไหนหมดสิทธิรับเงินช่วยเหลือเยียวยา

เงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด หรือ เงินอุดหนุนบุตร ประจำเดือนกันยายน 2567 จำนวน 600 บาทต่อเดือน โอนเข้าบัญชีพ่อแม่ผู้ปกครองที่ได้รับสิทธิในวันนี้ 10 กันยายน 2567 ในกรณีที่เงินไม่เข้าบัญชีสามารถตรวจสอบผ่านเว็บไซต์ทั้งของกรมกิจการเด็กและเยาวชน หรือตรวจสอบผ่านแอปฯเงินเด็ก หรือ แอปฯทางรัฐฯได้ 

 

ในเบื้องต้นเด็กที่จะไม่ได้รับเงินอุดหนุนบุตรประจำเดือนกันยายน 2567 มีเงื่อนไขดังต่อไปนี้

  • เด็กเกิดเดือนกันยายน 2561 เนื่องจากอายุครบ 6 ขวบตามเกณฑ์ที่ได้กำหนด โดยเด็กที่เกิดเดือนนี้จะได้รับเงินช่วยเหลือเดือนสุดท้ายคือสิงหาคม 2567
  • เด็กเกิดเดือนตุลาคม 2561 จะได้รับเงินช่วยเหลือเยียวยาเป็นเดือนสุดท้ายคือเดือนนี้ 

เงินอุดหนุนบุตรเดือนกันยายน 2567 โอนวันนี้ 10 ก.ย.67

ส่วนกรณีที่พ่อแม่ผู้ปกครองหลายคนกังวลใจว่า ตามปกติในเดือนกันยายนของทุกปี ซึ่งเป็นเดือนสุดท้ายของปีงบประมาณ การจ่ายเงินอุดหนุนบุตรจะมีความล่าช้า เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ว่า มติที่ประชุมครม.เห็นชอบจัดสรรงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ในรายการ “เงินอุดหนุนเฉพาะกิจ” วงเงิน 1,214 ล้านบาท 

 

ทั้งนี้เพื่อเป็นเงินอุดหนุนเด็กแรกเกิดถึงอายุ 6 ปี ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.)เสนอ โดยวงเงิน 1,214 ล้านบาท ดังกล่าวจะครอบคุลมการจ่ายเงินอุดหนุนเด็กแรกเกิดถึงอายุ 6 ปี ในรอบเดือนกันยายนจำนวน 2.28 ล้านคน 
 

ด้านนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.)เปิดเผยว่า ในช่วงท้ายของปีงบประมาณ 2567 โดยเฉพาะในเดือนกันยายนซึ่งเป็นเดือนสุดท้ายจะเป็นช่วงที่งบประมาณไม่พอ อย่างไรก็ตามกระทรวงฯได้ทำเรื่องไปที่ครม.เรียบร้อยแล้ว

 

ส่วนที่มีข้อสงสัยว่าทำไมสำนักงบประมาณถึงไม่ได้ให้งบประมาณมาอย่างเพียงพอนั้น เนื่องจากในแต่ละปีหรือแต่ละเดือนนั้นระดับจำนวนเด็กแรกเกิดจนถึงอายุ 6 ปี จะมีการแปรเปลี่ยนไปอยู่ตลอด โดยจะให้เงินอุดหนุนเด็กแรกเกิดจนถึงอายุ 6 ปี และพอเด็กอายุเกิน 6 ปี จะไม่มีสิทธิได้รับเงินแล้ว ดังนั้นตัวเลขจะเปลี่ยนทุกเดือน หรือแม้แต่อาจจะมีอัตราการเสียชีวิตบ้างที่เด็กยังอายุไม่ถึง 6 ปี ดังนั้นตัวเลขจะมีการอัพเดทกันทุกเดือนทำให้ทางสำนักงบประมาณนั้นไม่สามารถที่จะให้เงินงบประมาณมาพอดี ซึ่งในแต่ละปีก็จะให้งบประมาณหย่อนเอาไว้นิดหน่อยมาในช่วงสุดท้ายของปีงบประมาณนั้น

 

"ถือเป็นเรื่องปกติที่ทางกระทรวง พม. จะต้องสรุปตัวเลขล่าสุดเพื่อที่จะนำเสนอของบประมาณ ซึ่งในวันนี้เราได้ของบกลางตามที่กระทรวง พม. โดยกรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.) ได้เสนอข้อมูลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว"
 

สำหรับพ่อแม่ผู้ปกครองที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนหรือสมัครเพื่อรับเงินอุดหนุนบุตร สามารถตรวจสอบข้อมูล -คุณสมบัติ และเงื่อนไขต่างๆได้ดังต่อไปนี้ 

คุณสมบัติของพ่อแม่ผู้ปกครองที่จะลงทะเบียนขอรับเงินอุดหนุนบุตร

ผู้ปกครอง

  • เป็นบิดา มารดา หรือ บุคคลอื่นที่เป็นผู้เลี้ยงดูเด็กแรกเกิด
  • เด็กแรกเกิดต้องอาศัยรวมอยู่ด้วย
  • อาศัยอยู่ในครัวเรือนที่มีรายได้น้อย (สมาชิกในครัวเรือนมีรายได้เฉลี่ยไม่เกิน 100,000 บาทต่อคน ต่อปี )
  • ผู้ปกครองรับเงินผ่านบัญชีที่ผูกบริการพร้อมเพย์ด้วยเลขบัตรประจำตัวประชาชน

เด็กแรกเกิด 

  • เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี มีสัญชาติไทย
  • อาศัยอยู่กับผู้ปกครองในครัวเรือนที่มีรายได้น้อย
  • ไม่อยู่ในสถานสงเคราะห์ของหน่วยงานรัฐและเอกชน 

จุดลงทะเบียนขอรับเงินอุดหนุนบุตร 

  • กรุงเทพมหานคร สามารถลงทะเบียนได้ที่สำนักงานเขต
  • เมืองพัทยา ลงทะเบียนได้ที่ศาลาว่าการเมืองพัทยา
  • ส่วนภูมิภาค ลงทะเบียนได้ที่องค์การบริหารส่วนตำบลหรือเทศบาล

เอกสารประกอบการลงทะเบียน ณ หน่วยลงทะเบียน

  • แบบคำร้องขอลงทะเบียน (ดร.01)
  • แบบรับรองสถานะของครัวเรือน (ดร.02)
  • สูติบัตรเด็กแรกเกิด
  • บัตรประจำตัวประชาชนของผู้ปกครอง
  • ใบรับรองเงินเดือน หรือหนังสือรับรองรายได้ ของสมาชิกในครัวเรือนทุกคนที่ประกอบอาชีพ เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ พนักงานรัฐวิสาหกิจ หรือ พนักงานบริษัท 
  • สำเนาเอกสาร หรือบัตรข้าราชการ เจ้าหน้าที่ของรัฐ บัตรแสดงสถานะหรือตำแหน่ง หรือเอกสารอื่นใด ที่แสดงตนของผู้รับรองคนที่ 1 และผู้รับรองคนที่ 2

คุณสมบัติของพ่อแม่ผู้ปกครองที่จะลงทะเบียนขอรับเงินอุดหนุนบุตร

กรณีที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับเงินอุดหนุนบุตร สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมผ่านช่องทางดังต่อไปนี้ 

  • ศูนย์ปฏิบัติการโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด กรมกิจการเด็กและเยาวชน โทร 08 2091 7245, 08 2037 9767, 08 3431 3533, 06 5731 3199 
  • ศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน 1300 ตลอด 24 ชั่วโมง