พม.งานเข้า ข้อมูล "ผู้สูงอายุ" ถูกแฮก "วราวุธ"สั่งเข้มป้องกันภัยไซเบอร์

08 ก.พ. 2567 | 05:25 น.

“วราวุธ” สั่งเข้ม "มาตรการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์" ให้แน่นหนา หลังข้อมูล "กรมกิจการผู้สูงอายุ" ถูกแฮกไปบางส่วน พร้อมกราบขออภัยผู้สูงอายุและประชาชนทุกคน

วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2567 จากกรณีแฮกเกอร์ต่างประเทศประกาศขายข้อมูลในเว็บไซต์ อ้างเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้จากกรมกิจการผู้สูงอายุ (ผส.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) นำใช้ในทางมิชอบ นั้น นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ให้สัมภาษณ์ว่า กรณีที่ผู้ไม่หวังดีมาเจาะฐานข้อมูลของกรมกิจการผู้สูงอายุ และได้ข้อมูลไปจำนวนหนึ่ง โดยเท่าที่ตรวจสอบพบว่าไม่ได้จำนวนมากเท่าที่เป็นข่าว 

"ผมเองในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวง พม. ต้องกราบขออภัยต่อผู้สูงอายุและขอขอโทษประชาชนทุกคนที่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น จากที่ผ่านมากระทรวงเราเข้าใจว่าระบบความปลอดภัยทางไซเบอร์ของกระทรวงมีเพียงพอ คือไม่ใช่ว่าไม่มี และเข้าใจว่าเพียงพอ แต่พอเกิดการพัฒนาทางเทคโนโลยีมากขึ้นๆ วันนี้ทำให้เราต้องกลับมาเพิ่มมาตรการให้มีความเข้มงวด ให้เข้มแข็งมากขึ้น ในการป้องกันฐานข้อมูลของพวกเรา"

นายวราวุธ กล่าวต่อไปว่า หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ทางกรมกิจการผู้สูงอายุ แจ้งความกับทางกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ตำรวจไซเบอร์) แล้ว และได้ประสานงานขอให้ตรวจสอบว่าข้อมูลถูกนำไปใช้ในทางใด และเร่งสืบหาให้ถึงตัวการที่ทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น

พร้อมกันนี้ ยังได้มีการประชุมหารือเพื่อหามาตรการรับมือป้องกันภัยไซเบอร์ ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวง พม. หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และภาคเอกชน

นายวราวุธ กล่าวอีกว่า เมื่อเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ตนได้ใช้โอกาสนี้ขอให้ปลัดกระทรวง พม. ย้ำไปที่ทุกกรมและหน่วยงานภายใต้การดูแลของกระทรวง พม. กลับไปทบทวนมาตรการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ของแต่ละหน่วยงานนั้นมีความปลอดภัยและแน่นหนาแค่ไหนเพียงใด โดยจะเร่งดำเนินการและป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก

ส่วนกรณีรายชื่อที่หลุดออกไปแล้ว นายวราวุธ กล่าวว่า ขอความกรุณาพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้สูงอายุ ระวังภัยทางไซเบอร์อีกส่วนหนึ่งก่อน เพราะมีผู้ไม่หวังดี มีคอลเซ็นเตอร์ มิจฉาชีพมากมาย จะมาหาประโยชน์จากผู้สูงอายุ ซึ่งกระทรวงจะมีโครงการต่างๆ เพื่อให้ความรู้กับผู้สูงอายุประกอบไปด้วย แต่ถ้ามีปัญหาเกิดขึ้น ขอความกรุณาโทรสายด่วน 1300 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง มาที่ศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) เราจะได้เร่งประสานงานให้