กอนช. ถอดบทเรียนน้ำท่วม เตรียมรับมือฝนปี 66

12 ก.ค. 2566 | 08:55 น.

กอนช. ซ้อมตั้งศูนย์ส่วนหน้าฯ ภาคตะวันตก พร้อมรับมือฤดูฝนปี 66 เตรียมแผนเผชิญเหตุรับมือสถานการณ์อุทกภัยอย่างมีเอกภาพ ย้ำการแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำสู่ภาคประชาชนให้เข้าถึง รวดเร็วและแม่นยำ

12 กรกฎาคม 2566 นายบุญสม ชลพิทักษ์วงศ์ รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะเลขานุการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุตั้งศูนย์ส่วนหน้า และสร้างความเข้มแข็งเครือข่ายภาคประชาชน ณ โรงแรม อีโค่ โคซี่ บีชฟรอนต์ รีสอร์ต อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี โดยมีผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการฝึกในครั้งนี้

รองเลขาธิการ สทนช. กล่าวว่า การจัดโครงการในวันนี้ ส่วนหนึ่งจะเป็นการถอดบทเรียนจากการเกิดสถานการณ์อุทกภัยในปี 2565 ในพื้นที่ภาคกลาง อีสานและภาคใต้ ทำให้เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมส่งผลกระทบต่อประชาชนในหลายพื้นที่ซึ่ง กอนช. ก็ได้มีการบูรณาการหน่วยงานเพื่อร่วมบริหารจัดการน้ำ

พร้อมทั้งจัดตั้งศูนย์ส่วนหน้าภาคกลาง ที่จังหวัดชัยนาท ศูนย์ส่วนหน้าภาคอีสาน ที่จังหวัดอุบลราชธานี ศูนย์ส่วนหน้าภาคใต้ ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานต่าง ๆ เป็นอย่างดี จนทำให้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก จึงนำมาสู่การขยายผลทำให้เกิดเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการรับมือฤดูฝนในปีนี้ด้วย

ตามที่ ครม.ได้เห็นชอบ 12 มาตรการรับมือฤดูฝนปี 2566 ไปเรียบร้อยแล้ว การจัดกิจกรรมครั้งนี้จะเป็นการขับเคลื่อนการดำเนินงานในมาตรการที่ 8 ซักซ้อมแผนเผชิญเหตุ ตั้งศูนย์ส่วนหน้าก่อนเกิดภัยและฟื้นฟูสภาพให้กลับสู่สภาพปกติ (ตลอดช่วงฤดูฝน) และมาตรการที่ 10 การเสริมสร้างความเข้มแข็งเครือข่ายภาคประชาชนในการแลกเปลี่ยนข้อมูลสถานการณ์ระหว่างภาครัฐกับประชาชนในพื้นที่ 

กอนช. ถอดบทเรียนน้ำท่วม เตรียมรับมือฝนปี 66

โดย สทนช. ได้ร่วมกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย บูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเข้าร่วมการฝึกเตรียมความพร้อม ด้านบุคลากร ทรัพยากร สถานที่ สิ่งอำนวยสะดวกต่างๆ สำหรับรับมือสถานการณ์อุทกภัยในช่วงฤดูฝนนี้เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติจนเห็นผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรม

เป้าหมายหลักเพื่อร่วมซักซ้อมการปฏิบัติตามมาตรการให้สามารถติดตาม ประเมิน บริหารจัดการ และคาดการณ์สถานการณ์น้ำ รวมถึงแจ้งเตือน และให้ความช่วยเหลือบรรเทาผลกระทบอย่างมีความเป็นเอกภาพ ทันต่อสถานการณ์

รวมทั้งจะเกิดประโยชน์ร่วมกันในการปฏิบัติงาน การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ เกิดทักษะ และประสบการณ์ในการปฏิบัติงานของหน่วยงานเครือข่ายด้วย

กอนช. ถอดบทเรียนน้ำท่วม เตรียมรับมือฝนปี 66

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะ ผอ.กอนช. ที่มีความห่วงใยประชาชนในช่วงฤดูฝนปี 2566 ได้กำชับให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปฏิบัติตามมาตรการรับมือฤดูฝนปี 2566 อย่างเคร่งครัด

สำหรับรูปแบบการฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุรับมือสถานการณ์อุทกภัยในครั้งนี้ เป็นการฝึกซ้อมแผนบนโต๊ะ (Table Top Exercise : TTX) จำลองสถานการณ์เกิดอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี มีขั้นตอนการฝึกประกอบด้วยการจำลองการจัดตั้งศูนย์ส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัย และใช้กลไกการปฏิบัติตามโครงสร้างของศูนย์ส่วนหน้า รวมทั้งการเตรียมความพร้อมทั้งเครื่องจักรเครื่องมือแผนเผชิญเหตุ โดยแบ่งการทำงานเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ ส่วนอำนวยการ ส่วนปฏิบัติการ ส่วนสนับสนุน และส่วนประชาสัมพันธ์

กอนช. ถอดบทเรียนน้ำท่วม เตรียมรับมือฝนปี 66

ทั้งนี้ การฝึกซ้อมตามโครงการดังกล่าวได้ดำเนินการฝึกซ้อมแล้ว 2 ครั้งในพื้นที่ภาคเหนือที่ จ.เชียงราย และครั้งที่ 2 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.ขอนแก่น และจะดำเนินการต่อเนื่องอีก 3 ครั้ง ได้แก่ จ.ยะลา จ.ลพบุรี และ จ.ปราจีนบุรี ในช่วงระหว่างเดือน ก.ค. – ส.ค.นี้ 

"สำหรับสถานการณ์น้ำในพื้นที่ภาคตะวันตก ซึ่งมีแหล่งน้ำขนาดใหญ่จำนวน 4 แห่ง ปัจจุบันมีปริมาตรน้ำรวม 16,775 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 61 เทียบกับระดับเก็บกัก หรือมีปริมาตรน้ำใช้การ 3,415 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 24 เทียบกับความจุใช้การ ภาพรวมยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ

ทั้งนี้ ในพื้นที่ซักซ้อมฯ จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งมีแหล่งน้ำขนาดใหญ่ที่สำคัญ คือ อ่างเก็บน้ำเขื่อนแก่งกระจาน ปัจจุบันมีปริมาณน้ำ 206 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 29 เทียบกับระดับเก็บกักซึ่งยังถือว่ายังอยู่ในเกณฑ์ปกติ 

สำหรับการประเมินพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยปี 2566 นี้ พบว่า ในภาคตะวันตกมีพื้นที่เสี่ยงอุทกภัย และน้ำท่วมฉับพลัน

เดือนสิงหาคม จำนวน 2 จังหวัด ได้แก่

  • กาญจนบุรี (อำเภอเมืองกาญจนบุรี อำเภอไทรโยค และอำเภอเลาขวัญ)
  • ประจวบคีรีขันธ์ (อำเภอกุยบุรี)

เดือนกันยายน จำนวน 2 จังหวัด ได้แก่

  • กาญจนบุรี (อำเภอเมืองกาญจนบุรี อำเภอบ่อพลอย อำเภอด่านมะขามเตี้ย และอำเภอเลาขวัญ)
  • ราชบุรี (อำเภอเมืองราชบุรี และอำเภอปากท่อ)

เดือนตุลาคม จำนวน 5 จังหวัด ได้แก่

  • ราชบุรี (10 อำเภอ)
  • กาญจนบุรี (12 อำเภอ)
  • สมุทรสงคราม (3 อำเภอ)
  • เพชรบุรี (2 อำเภอ)
  • ประจวบคีรีขันธ์ (3 อำเภอ)