รู้จัก" วัดฉลองภูเก็ต" ฝรั่งคลุ้มคลั่ง ปีนพระบรมธาตุ ก่อนกระโดดลงมา

09 ก.ค. 2566 | 04:15 น.
อัปเดตล่าสุด :09 ก.ค. 2566 | 04:32 น.

ทำความรู้จัก "วัดฉลองภูเก็ต" วัดคู่บ้านคู่เมืองคนภูเก็ต หลัง ฝรั่งรัสเซียคลุ้มคลั่ง ปีนพระบรมธาตุ ก่อนกระโดดลงมา โดนลงเบาะเป่าลม บาดเจ็บสาหัสจนสุดท้ายเสียชีวิตที่โรงพยาบาล

จากกรณีที่เมื่อ วันที่ 7 ก.ค.  66 เกิดเหตุระทึกเมื่อหนุ่มชาวรัสเซียอายุ 35 ปี ได้เกิดคลุ้มคลั่งโดยไม่ทราบสาเหตุ ปีนขึ้นไปบน พระบรมธาตุเจดีย์วัดฉลอง หรือ วัดฉลองภูเก็ต นานกว่า 4 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่พยายามช่วยกันจับแต่สุดท้าย หนุ่มชาวรัสเซีย กระโดดลงมาโดนเบาะนำตัวส่งโรงพยาบาลแต่สุดท้ายเสียชีวิต

รู้จัก วัดฉลองภูเก็ต หรือ วัดไชยธาราม

วัดไชยธาราราม หรือ วัดฉลองภูเก็ต เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดภูเก็ตมาช้านาน วัดไชยธาราราม หรือวัดฉลอง ตั้งอยู่ที่ตำบลฉลอง อำเภอเมืองภูเก็ต ไม่มีบันทึกแน่ชัดที่ว่าสร้างขึ้นเมื่อใด แต่มีชื่อปรากฏวัดฉลองในบันทึกของรัชกาลที่ 3 และต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 5 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5 ) ทรงเปลี่ยนชื่อวัดฉลองเป็น “วัดไชยธาราราม” วัดไชยธารารามหรือวัดฉลอง เป็นที่ประดิษฐานรูปหล่อของหลวงพ่อแช่มหรือพระครูวิสุทธิวงศาจารย์ญาณมุณี" ซึ่งเป็นสมณะศักดิ์ที่ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5)  หลวงพ่อแช่มขณะยังมีชีวิตท่านเป็นที่พึ่งของชาวบ้านในการรักษาโรค

เนื่องจากท่านเป็นพระที่มีศาสตร์วิชาในด้านการปรุงยาสมุนไพร และรักษาโรค เข้าเฝือกผู้ป่วยกระดูกหัก และเมื่อครั้งที่ต้องต่อสู้กับกลุ่มอั้งยี่ (จีนที่ก่อกบฏ) หลวงพ่อแช่มก็ยังได้มอบผ้าประเจียดสีขาวให้ชาวบ้านเอาไว้โพกหัวเพื่อเป็นขวัญและกำลัง ใจในการต่อสู้จนชนะในที่สุด ท่านเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของผู้คนมากถึงขนาดที่มีคนรอปิดทองตามแขนและขาของท่านราวกับปิดทองพระพุทธรูป แม้ว่าหลวงพ่อแช่มจะมรณภาพเป็นร้อยปีมาแล้ว แต่เรื่องราวความศักดิ์สิทธิ์และเมตตาธรรมที่สูงส่งของท่านก็ยังเป็นที่เล่าขานและเลื่อมใสศรัทธาของชาวเมืองภูเก็ตสืบมาจนถึงปัจจุบัน นอกจากหลวงพ่อแช่มแล้ว ที่วัดฉลองยังมี หลวงพ่อช่วง และหลวงพ่อเกลื้อม ที่ชาวบ้านเคารพ ศรัทธาเลื่อมใสเช่นกัน โดยนอกจากความศักดิ์สิทธิแล้ว ท่านทั้งสองยังมีชื่อเสียงทางด้าน การปรุงสมุนไพร และรักษาโรคด้วย ดังนั้นแม้ท่านได้มรณภาพไปแล้ว ชาวบ้านที่มีเรื่องทุกร้อน ก็ยังคงมากราบไหว้ บนบานไม่ขาดสาย

วัดฉลองภูเก็ต

วัดไชยธารารามหรือวัดฉลอง จากประวัติสืบเนื่องมานานเพียงใด ไม่มีหลักฐานอ้างอิงที่แน่นอนมาใครเป็นผู้สร้าง แต่ตามทางสันนิษฐานนั้นเข้าใจกันว่าหลังจากเมืองถลาง ต้องพ่ายแพ้ศึกพม่า เมื่อปี พ.ศ. 2352 ต้นสมัยรัชกาลที่ 2 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เป็นเหตุให้ชาวถลางต้องหลบหนีภัยสงครามอันโหดร้ายกระจัดพลัดพรากกันไปหลายทิศทาง เช่น ตระกูลขุนนางผู้ครองเมืองถลาง ซึ่งเป็นลูกหลานของพระยาเพชรคีรีศรีพิชัยสงครามรามคำแหง เจ้าพญาถลาง (เทียน ประทีป ณ ถลาง) พากันหลบหนีไปทางด่านพระยาพิพิธโภคัย เข้าไปหลบซ่อนตัวอยู่ที่เมืองพังงา และเลยเข้าไปยังเมืองกระบี่ในภายหลัง (ซึ่งตระกูลประทีป ณ ถลางได้ตั้งรกรากและสืบทอดทายาทอยู่ในเมืองกระบี่มาจนทุกวันนี้) ราษฎรส่วนใหญ่หนีไปตามลำน้ำกระโสม แขวงเมืองตะกั่วทุ่ง เข้าสู่เมืองพังงาตอนเหนือแถบลุ่มแม่น้ำพังงา ตั้งบ้านเมืองอยู่ในที่ราบล้อมรอบด้วยหุบเขาที่มีชื่อเรียกมาจนถึงปัจจุบันนี้ว่า “บ้านถลาง” หรือ “บางหลาม” อีกส่วนหนึ่งหนีกระเจิงลงมาทางเมืองมานิก (มานิคคาม) ทะลุออกเมืองภูเก็ต (ที่บ้านกะทู้) แล้วหนีเรื่อยลงมาจนพบที่ราบกว้างริมลำน้ำใหญ่ (คลองบางใหญ่ ตำบลฉลอง) เป็นชัยภูมิเหมาะที่จะตั้งรกสร้างชีวิตและชุมชนใหม่ จึงได้ยับยั้งอยู่ที่ทุ่งราบกว้างแห่งนี้ ขนานนามชุมชนของตนเองว่า “ชาวถลาง” (แล้วเพี้ยนผันไปเป็น “ชาวฉลอง” ในภายหลังตามความเปลี่ยนแปลงของภาษา) ชุมชนชาวถลางที่บ้านใหม่แห่งนี้เป็นเพียงชุมชนย่อยมีผู้นำชุมชนที่สืบเชื้อสายเจ้าพญาถลาง (เทียน) เป็นแกนนำอยู่ (ซึ่งสืบทอดทายาทมาเป็น “ประทีป ณ ถลาง” อยู่ที่ฉลองจนถึงปัจจุบันนี้).

ที่มา:ฐานข้อมูลท้องถิ่นภาคใต้