กสม.ชงกลาโหม ยกเลิกระเบียบ "ทหารรับใช้"

27 เม.ย. 2566 | 07:12 น.

กสม.ชงกลาโหม ยกเลิกระเบียบ "ทหารรับใช้" ชี้ ละเมิดสิทธิมนุษยชน ขัดต่อรัฐธรรมนูญ และกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (ICCPR) ที่ไทยเป็นภาคี และต้องปฏิบัติตาม

จากกรณี อดีตทหารหญิงซึ่งได้รับคำสั่งให้ไปช่วยราชการในคณะกรรมาธิการวุฒิสภาคณะหนึ่ง แต่กลับถูกนำตัวไปช่วยงานที่บ้านพักของเจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงรายหนึ่ง ซึ่งอยู่ระหว่างช่วยราชการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 ส่วนหน้า โดยระหว่างช่วงเวลา 2 ปีที่ทหารหญิงผู้เสียหายทำหน้าที่ดูแลรับใช้ภายในบ้านเจ้าหน้าที่ตำรวจรายดังกล่าว ได้ถูกทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บรุนแรงหลายครั้ง ดังที่เคยปรากฏเป็นข่าวโด่งดัง

นายวสันต์  ภัยหลีกลี้ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม.) ได้เปิดเผยผลการตรวจสอบข้อร้องเรียน ในกรณีดังกล่าว รวมถึงกฎเสนาบดีกระทรวงกระลาโหม พ.ศ. 2455 ข้อ 49 – 57 ใช้ ว่ามีลักษณะเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน หรือไม่

กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม.) ชง ยกเลิก "ทหารรับใช้"

กสม. พิจารณาแล้วเห็นว่า แม้ตามพระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ. 2551 มีผลให้ไม่มีอัตรากำลังพลตำแหน่ง “ทหารรับใช้” อีกต่อไป แต่ยังปรากฏว่า มีการจัดกำลังพลตำแหน่ง “พลทหารบริการ” โดยที่อาจนำทหารกองประจำการ (ทหารเกณฑ์) ไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ จนเป็นเหตุให้มีการร้องเรียนขึ้นในหลายกรณี และกฎเสนาบดีกระทรวงกระลาโหม พ.ศ. 2455 ยังถือว่ามีสภาพบังคับอยู่

ดังนั้น จึงมีมติให้ กระทรวงกลาโหม ยกเลิกกฎเสนาบดีกระทรวงกระลาโหม พ.ศ. 2455 ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับประเด็นทหารรับใช้ และยกเลิกระเบียบหรือขั้นตอนปฏิบัติเกี่ยวกับการอนุญาตให้นายทหารระดับสูงสามารถขอทหารชั้นผู้น้อยไปรับใช้เป็นการส่วนตัว ทั้งนี้ ภายใน 90 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งรายงานผลการตรวจสอบ

กสม.ชงกลาโหม ยกเลิกระเบียบ \"ทหารรับใช้\"

พร้อมเสนอมาตรการ และแนวทางที่เหมาะต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดังต่อไปนี้

ให้กระทรวงยุติธรรมติดตามผลการพิจารณาคดีในชั้นศาลของอดีตทหารหญิงผู้เสียหายอย่างใกล้ชิด และสนับสนุน ช่วยเหลือ หรืออำนวยความสะดวก ให้แก่ผู้เสียหายหรือพยานของผู้เสียหายตามหน้าที่และอำนาจ และให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเร่งรัดดำเนินการสอบสวนทางวินัยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ต้องหาให้แล้วเสร็จ และเปิดเผยให้สาธารณะทราบ

ให้กองบัญชาการกองทัพไทย และสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา พิจารณากำหนดมาตรการหรือหลักเกณฑ์การควบคุมหรือตรวจสอบการปฏิบัติงานของบุคคลที่อยู่ระหว่างการขอตัวช่วยราชการให้เป็นไปตามขอบเขตของงานหรือวัตถุประสงค์ที่ได้ร้องขอไว้อย่างเคร่งครัด

ให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา เร่งรัดสรุปรายงานการตรวจสอบของคณะกรรมการจริยธรรม วุฒิสภา กรณีการบรรจุแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ต้องหาเข้ารับราชการ และการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งในคณะกรรมาธิการเข้าสู่ที่ประชุมวุฒิสภาเพื่อพิจารณาโดยเร็ว และเปิดเผยผลการพิจารณาให้สาธารณะทราบ

ทั้งนี้ กฎเสนาบดีกระทรวงกระลาโหม พ.ศ. 2455 ข้อ 49 – 57 ได้กำหนดเกี่ยวกับ "ทหารรับใช้" ประจำตัวนายทหาร โดยให้ทหารชั้นสัญญาบัตรสามารถมีทหารรับใช้ประจำตัวและให้อำนาจลงโทษทหารรับใช้ได้ และต้องรับใช้ภรรยาและบุตรในกิจการบ้านเรือนของทหารชั้นสัญญาบัตรดังกล่าว

ซึ่งถือเป็นช่องว่างที่ให้อำนาจแก่นายทหารระดับสูง ที่จะขอตัวทหารชั้นผู้น้อยไปดูแลรับใช้ และสุ่มเสี่ยงที่ผู้มีอำนาจเหนือจะกระทำการที่เป็นการลดทอนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของทหารชั้นผู้น้อย อันขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 และไม่สอดคล้องกับกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (ICCPR) ที่ประเทศไทยเป็นภาคีและมีพันธกรณีต้องปฏิบัติตาม