กรมอุตุนิยมวิทยา แถลง “ฤดูร้อน 2566” ว่าประเทศไทยสิ้นสุดฤดูหนาวและจะเริ่มเข้าสู่ฤดูร้อนในวันที่ 5 มี.ค. 2566 ตามเกณฑ์การพิจารณาการเข้าสู่ฤดูร้อน 2 องค์ประกอบ ได้แก่
หน้าร้อนเเบบนี้ หลายคนที่ใช้งานรถยนต์ต้องจอดรถทิ้งไว้กลางแดดเป็นประจำ ที่สำคัญอาจหลงลืมสิ่งของไว้ในรถด้วย ด้วยสภาพอากาศที่ร้อนเเบบนี้ ความร้อนภายในรถจะพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เพื่อความปลอดภัย "ฐานเศรษฐกิจ" รวบรวมสิ่งที่ไม่ควรไว้ในรถตอนจอดกลางแดด เพื่อป้องกันไม่ให้รถเกิดความเสียหาย
ไฟแช็ก
รถยนต์ที่จอดไว้กลางแดดที่ไม่ติดฟิล์มและไม่มีการเปิดหน้าต่างเพื่อระบายอากาศ อุณหภูมิภายในรถจะสูงขึ้นเรื่อยๆ เป็นตัวกระตุ้นให้สิ่งของบางอย่างเกิดระเบิดขึ้นได้
ห้ามทิ้งไว้ในที่ที่มีอุณหภูมิสูงเกิน 50 องศาเซลเซียส เวลาจอดรถตากแดดนานๆ มีโอกาสทราอุณหภูมิภายในรถจะสูงขึ้นมาก เสี่ยงระเบิดได้
ขวดสเปรย์ / สเปรย์แอลกอฮอล์
กระป๋องมีการอัดแน่นของสารเคมีและแก๊สจำนวนมาก หากได้รับความร้อนปริมาณสูงจะเกิดการขยายตัว อาจทำให้เกิดประกายไฟและการระเบิดได้
แบตเตอรี่สำรอง
ไม่ควรทิ้งเอาไว้ในรถยนต์ เพราะลิเธียมในตัวแบตเตอรี่ ถูกความร้อนสูงทำให้เกิดปฏิกิริยาเคมีจนเกิดระเบิดได้
ขวดน้ำพลาสติก
ความร้อนอาจทำให้พลาสติกละลาย หรือหากเป็นขวดที่มีน้ำอยู่ พลาสติกที่ละลายก็อาจจะลงไปปนเปื้อนกับน้ำดื่ม ทำให้ได้รับอันตรายเมื่อดื่มได้
โทรศัพท์
อากาศที่ร้อนจัดและคุณภาพแบตเตอรี่ กรณีที่อากาศร้อนมากๆ จนทำให้อุณหภูมิภายในรถสูงเกินกว่าที่แบตเตอรี่อาจช็อตขึ้นได้ และจะระเบิดในที่สุด
น้ำแข็งแห้ง
น้ำแข็งแห้งระเบิดจะกลายเป็นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ทำให้ผู้ที่อยู่ในห้องโดยสารหมดสติ ควรเก็บไว้ในภาชนะที่มีช่องระบายอากาศ แยกจากห้องโดยสาร หากเก็บในห้องโดยสาร ควรเปิดกระจกรถ เพื่อระบายอากาศออกสู่ภายนอก
ครีมกันแดด เครื่องสำอาง
เมื่อเจออุณหภูมิร้อน อาจไหลเยิ้มทำให้เบาะหนังหรือเบาะผ้าภายในรถด่าง หรือเกิดความเสียหาย ทั้งยังทำให้ประสิทธิภาพของครีมลดลงได้อีกด้วย
อุปกรณ์ที่ทำจากยาง
เช่น ยางลบ แผ่นยางรองโทรศัพท์มือถือ อุณหภูมิภายในรถที่เพิ่มสูงขึ้น อาจส่งผลให้อุปกรณ์ที่ทำจากยางต่างๆ เกิดการละลายได้