ครม.เห็นชอบการรับรองวัดคาทอลิก 33 แห่งใน 18 จังหวัด

21 ก.พ. 2566 | 13:45 น.

ครม.เห็นชอบการรับรองวัดคาทอลิก 33 แห่งใน 18 จังหวัด มีผลบังคับได้รับการรับรองแล้วรวม 76 แห่ง ยังเหลือการรับรองอีก 276 แห่ง

21 กุมภาพันธ์ 2566 นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบการรับรองวัดคาทอลิกจำนวน 33 แห่งใน 18 จังหวัด ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอซึ่งเป็นการดำเนินการตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยแนวทางพิจารณาในการจัดตั้งวัดบาทหลวงโรมันคาทอลิก พ.ศ. 2564

โดยทั้งหมดเป็นวัดที่มีอยู่ก่อนวันที่ระเบียบฯ จะมีผลบังคับ และต้องรับรองให้แล้วเสร็จภายใน 2 ปี หลังจากวันบังคับ(ภายใน 15 มิ.ย. 66) ซึ่งเมื่อรวมกับการอนุมัติครั้งนี้แล้วจะมีวัดที่มีอยู่ก่อนระเบียบฯ มีผลบังคับได้รับการรับรองแล้วรวม 76 แห่ง และยังเหลือการรับรองอีก 276 แห่ง

ทั้งนี้ ก่อนเสนอต่อ ครม.วัดคาทอลิกทั้ง 33 แห่งได้ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการพิจารณากลั่นกรองคำขอจัดตั้งวัดคาทอลิก เมื่อวันที่ 30 พ.ย. 65 ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์ 

1) ได้รับความเห็นชอบให้ยื่นคำขอรับรองวัดคาทอลิกจากสภาประมุขบาทหลวงโรมันคาทอลิกแห่งประเทศไทย

2) มีข้อมูลที่ตั้งวัด

3) มีข้อมูลที่ดินที่ตั้งวัดและการอนุญาตให้ใช้ที่ดิน

4) มีรายชื่อบาทหลวงซึ่งจะไปประกอบศาสนกิจประจำ ณ วัดคาทอลิก

5) มีข้อมูลอื่นที่จำเป็นเกี่ยวกับการรับรองวัดคาทอลิก เช่น คุณค่าและประโยชน์ของวัดคาทอลิก การอุปถัมภ์และทำนุบำรุงภาคส่วนต่าง ๆ เรียบร้อยแล้ว

นอกจากนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้พิจารณาแล้วได้ให้ความเห็นชอบและไม่ขัดข้องในหลักการในการรับรองวัดคาทอลิกทั้ง 33 แห่ง โดยมีความเห็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์ในที่ดินว่า วัดทั้ง 33 แห่งไม่มีการตั้งบนที่ราชพัสดุแต่หามีกรณีมิซซังได้เข้าไปใช้ที่ราชพัสดุจะต้องดำเนินการขออนุญาตเข้าไปใช้ประโยชน์ต่อกรมธนารักษ์

หากมีการเข้าไปตั้งวัดในเขตพื้นที่ป่าต้องได้รับอนุญาตตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

อย่างไรก็ดี มีวัด 9 แห่งที่ตั้งอยู่บนที่ดินที่เป็นที่ตั้งในโรงเรียนในระบบสังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน โดยกระทรวงศึกษาไม่ขัดข้องต่อการรับรองวัดคาทอลิกทั้ง 9 แห่งแต่การรับรองวัดต้องไม่กระทบต่อการศึกษาของโรงเรียน

ดังนั้น จึงเห็นควรให้มีรั้วแสดงขอบเขตของวัดคาทอลิกและโรงเรียนออกจากกันอย่างชัดเจนและขนาดที่ดินของโรงเรียนที่เหลืออยู่จะต้องเป็นไปตามกฎกระทรวง พร้อมให้โรงเรียนดำเนินการขอเปลี่ยนแปลงรายการในตราสารจัดตั้งและการขอเปลี่ยนแปลงขนาดที่ดินที่ใช้ตั้งโรงเรียนต่อไป

สำหรับวัดคาทอลิกทั้ง 33 แห่งใน 18 จังหวัดที่ได้รับการรองมี ดังนี้

1) จันทบุรี 5 แห่ง

  • วัดธรรมาสน์นักบุญเปโตร(ท่าแฉลบ)
  • วัดนักบุญฟรังซิสเซเวียร์(ท่าศาลา)
  • วัดพระคริสตราชา(ปะตง)
  • วัดนักบุญยอห์น อัครธรรมทูต(มะขาม)
  • วัดพระแม่พระถวายองค์(มูซู)  

2) นครนายก 4 แห่ง

  • วัดพระมารดาพระศาสนจักร(นครนายก)
  • วัดพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล(เตยใหญ่)
  • วัดนักบุญเปาโล(บ้านนา)
  • วัดนักบุญยอแซฟ(หนองรี)

3) ฉะเชิงเทรา 3 แห่ง

  • วัดเซนต์แอนโทนี(แปดริ้ว)
  • วัดแม่พระฟาติมา(บางวัว)
  • วัดนักบุญอันนา(สระไม้แดง)

4) สระแก้ว 3 แห่ง

  • วัดแม่พระรับเกียรติยกขึ้นสวรรค์(สระแก้ว)
  • วัดนักบุญเบเนดิกต์(เขาฉกรรจ์)
  • วัดแม่พระราชินีแห่งสันติภาพ(อรัญประเทศ)

5) กรุงเทพมหานคร 2 แห่ง

  • วัดพระมารดานิจจานุเคราะห์(คลองจั่น)
  • วัดนักบุญยูดาอัครสาวก(ชินเขต)

6) ปราจีนบุรี 2 แห่ง

  • วัดแม่พระที่พึ่งแห่งปวงชน(แหลมโขด)
  • วัดราชินีสายประคำศักดิ์สิทธิ์(บ้านสร้าง)  

7) เพชรบูรณ์ 2 แห่ง

  • วัดนักบุญยอแซฟ(ห้วยใหญ่)
  • วัดอัครเทวดากาเบรียล(สันติสุข)  

8) ราชบุรี 2 แห่ง

  • วัดแม่พระสายประคำ(หลักห้า)
  • วัดนักบุญเปาโลกลับใจ(โพธาราม)

9) ปทุมธานี 1 แห่ง

  • วัดนักบุญมาร์โก(ปทุมธานี)

10) พระนครศรีอยุธยา 1 แห่ง

  • วัดนักบุญเทเรซา(หน้าโคก)

11) สุพรรณบุรี 1 แห่ง

  • วัดนักบุญบาร์โธโลมิว อัครสาวก(ดอนตาล)

12) นครปฐม 1 แห่ง

  • วัดนักบุญมัทธิว(ทุ่งลูกนก)

13) ชลบุรี 1 แห่ง

  • วัดแม่พระลูกประคำ(สัตหีบ)

14) ระยอง 1 แห่ง

  • วัดนักบุญเปาโลกลับใจ(ปากน้ำ ระยอง)

15) ตราด 1 แห่ง

  • วัดพระแม่รับสาร(ตราด)

16) นครสวรรค์ 1 แห่ง

  • วัดพระแม่รับสาร(ตาคลี)

17) ลพบุรี 1 แห่ง

  • วัดมาแตร์ เดอี อัสซุมตา(ลำนารายณ์)

18) อุทัยธานี 1 แห่ง

  • วัดนักบุญเปโตร(ท่าซุง)