เปิดจุดเสี่ยงท้ายเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ รับมือน้ำท่วม

06 ต.ค. 2565 | 05:44 น.

เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ระบายน้ำเพิ่ม ส่งผลให้พื้นที่ท้ายเขื่อนหลายจุดใน จ.ลพบุรี พระนครศรีอยุธยาระดับน้ำสูงขึ้นเสี่ยงน้ำท่วม

 จับตาการระบายของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ หลังมีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จังหวัดลพบุรี ในช่วงวันที่ 3 - 9 ตุลาคม 2565 เพิ่มขึ้นประมาณ 449.90 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ต้องปรับเพิ่มการระบายน้ำ ซึ่งจะทำให้พื้นที่ริมแม่น้ำป่าสักด้านท้ายเขื่อนหลายพื้นทื่ระดับน้ำสูงขึ้น

 

เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จะทยอยปรับเพิ่มการระบายน้ำจาก 600 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็นอัตรา 800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

พื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ปรับเพิ่มการระบายน้ำเสี่ยงน้ำท่วม

  1. พื้นที่ริมแม่น้ำป่าสักด้านท้ายเขื่อน อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี ถึงเขื่อนพระรามหก อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้น 1-1.20 เมตร
  2. บริเวณท้ายเขื่อนพระรามหก อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้น 0.40-0.60 เมตร
  3. จุดบรรจบแม่น้ำเจ้าพระยา อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้น 0.25-0.50 เมตร
  4. ปริมาณน้ำไหลผ่านอำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อยู่ในเกณฑ์ 3,300 -3,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่งผลให้ระดับน้ำแม่น้ำน้อยเพิ่มสูงขึ้น

เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2565 ทีผ่านมา นายชูพงศ์ อิศรัตน์ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาป่าสักใต้ รักษาการผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาป่าสักชลสิทธิ์ ได้ลงนามในหนังสือด่วนที่สุด ตามประกาศ กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ เรื่อง เฝ้าระวังระดับน้ำแม่น้ำป่าสัก แจ้งเตือนประชาชนเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์

 

ด้วยปริมาณน้ำท่าที่ไหลลงอ่างเก็บน้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เพื่อเป็นการควบคุมระดับน้ำและปริมาณน้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาป่าสักชลสิทธิ์ จะดำเนินการปรับเพิ่มการระบายน้ำ ในวันที่ 3 กันยายน 2565 ตั้งแต่เวลา 12.00 น. เป็นต้นไป    โดยทยอยปรับเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ จาก อัตรา 300 ลบ.ม./วินาที จนถึง อัตรา 350 ลบ.ม./วินาที

 

ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันความเสียหายต่อทรัพย์สินของประชาชนจากการที่ระดับน้ำ  ในแม่น้ำป่าสักท้ายเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์เพิ่มขึ้น จึงใคร่ขอให้ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ทราบ และติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดต่อไป