หลังจาก ประเทศจีน ได้ประกาศเปิดประเทศ 8 ม.ค. 66 ยกเลิกมาตรการกักตัวสำหรับผู้เดินทางเข้าแผ่นดินใหญ่ คาดว่าส่งผลให้ชาวจีนเตรียมเดินทางออกไปท่องเที่ยวในต่างแดน หลังจากอยู่กับนโยบาย ZERO COVID มาตั้งแต่ มี.ค. 2565 ก่อนจะค่อยๆผ่อนคลายมาตรการลง เมื่อต้นเดือน ธ.ค. จนกระทั่ง ประกาศเปิดประเทศในที่สุด
หลังจากนั้น ญี่ปุ่นเป็นประเทศแรก ที่ประกาศยกระดับมาตรการควบคุมโควิด-19 จากนักท่องเที่ยวชาวจีน ตามมาด้วย อินเดีย อิตาลี มาเลเซีย ไต้หวัน และสหรัฐอเมริกา
สำหรับประเทศไทย นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ได้กล่าวถึงการเตรียมความพร้อม รองรับนักท่องเที่ยวจีนว่า
ไม่อยากให้มีการตั้งข้อรังเกียจ หรือสงสัย เพราะการปฏิบัติต่อนักท่องเที่ยวเหมือนกันหมดไม่ว่าจะเดินทางมาจากฝั่งตะวันตก หรือ เอเชียก็ตาม
ด้าน นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค(คร.) ได้กล่าวถึงสถานการณ์โรคโควิด-19 ว่า มีความใกล้เคียงกัน ระหว่างประเทศจีน และประเทศไทย
พร้อมมีข้อแนะนำว่า คนไทยต้องรับวัคซีนให้ครบ 4 เข็ม เพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน และยังคงมาตรการ สวมหน้ากากอนามัยในสถานที่แออัด และ รักษาระยะห่างระหว่างบุคคล โดยขณะนี้พบว่าการติดเชื้อในรอบสองอาการรุนแรงน้อยลงเหมือนกับไข้หวัดตามฤดูกาลแล้ว
สำหรับมาตรการ ควบคุมโควิด-19 จากกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน ของแต่ละประเทศนั้นมีความเข้มข้นที่แตกต่างกัน เช่น ประเทศญี่ปุ่น มีการตรวจโควิด-19 กับนักท่องเที่ยวที่มาจากจีน และหากมีผลว่าติดเชื้อ จะต้องกักตัวเป็นเวลา 7 วัน ในสถานที่ที่กำหนด
ในขณะที่ กระทรวงสาธารณสุขสหรัฐออกแถลงการณ์ระบุว่านักท่องเที่ยวและบุคคลที่เดินทางจากจีน ฮ่องกง และมาเก๊าจำเป็นต้องแสดงผลตรวจหาเชื้อโควิด-19 เป็นลบ ไม่เกิน 2วัน ก่อนออกจากประเทศต้นทาง หรือ ใช้ใบรับรองทางการแพทย์ในกรณีหายป่วยจาดโรคโควิด-19 โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 5 ม.ค.2566