17 ต.ค.2565 - ถือเป็นช่วงเวลาแห่งการท่องเที่ยวและพักผ่อน สำหรับชาวไทย ณ ขณะนี้ เพราะนอกจาก อากาศจะเริ่มดี สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆกลับมาเปิดเป็นปกติแล้ว ราคาตั๋วเครื่องบิน ภายในประเทศ ก็ยังอยู่ในราคาที่จับต้องได้
อย่างไรก็ตาม ในช่วงวันหยุดยาวต่อเนื่อง หรือ เทศกาล มักพบปัญหา การเดินทางด้วยเครื่องบินอาจเจอปัญหาเที่ยวบินล่าช้า หรือ เที่ยวบินถูกยกเลิก เนื่องจากความหนาแน่นของผู้ใช้บริการ แต่รู้หรือไม่ ? ตามกฎหมาย เมื่อเที่ยวบินดีเลย์ หรือ ถูกสายการบินยกเลิก ในบางกรณี ผู้บริโภคอย่างเราๆ ก็มีสิทธิในการได้รับการชดเชยเช่นกัน
เรียนรู้สิทธิ เมื่อถูกยกเลิกเที่ยวบิน หรือ เที่ยวบินดีเลย์
นางนฤมล เมฆบริสุทธิ์ รองผู้อำนวยการฝ่ายพิทักษ์สิทธิ์ผู้บริโภค มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ระบุว่า เป็นที่น่าเสียดาย ที่ส่วนใหญ่อาจยังไม่รู้ว่า เมื่อเจอปัญหาลักษณะนี้แล้วผู้บริโภคจะได้รับการชดเชยอย่างไรบ้าง
จึงอยากให้ความรู้เกี่ยวกับสิทธิการใช้บริการสายการบินภายในประเทศ ตามประกาศกระทรวงคมนาคม เรื่อง การคุ้มครองสิทธิของผู้โดยสารที่ใช้บริการสายการบินของไทยในเส้นทางบินประจำภายในประเทศ พ.ศ. 2553 ที่สายการบินต้องชดเชยให้กับผู้บริโภคเมื่อเที่ยวบินล่าช้า เกิน 2 ชั่วโมงเป็นต้นไป หรือยกเลิกเที่ยวบิน การชดเชยจะแบ่งเป็น 5 กรณี
5 กรณี ตามประกาศกระทรวงคมนาคม
1. กรณีล่าช้าเกิน 2 ชั่วโมง แต่ไม่เกิน 3 ชั่วโมง สายการบินต้องปฏิบัติต่อผู้โดยสาร ดังนี้
2. กรณีล่าช้าเกิน 3 ชั่วโมง แต่ไม่เกิน 5 ชั่วโมง สายการบินต้องปฏิบัติต่อผู้โดยสาร ดังนี้
1) รับเงินค่าโดยสารและค่าธรรมเนียมคืนเต็มจำนวน แต่ถ้าต้องการคืนเป็น Travel Vouchers หรือสิ่งอื่นแทน ผู้โดยสารต้องยินยอมก่อนเท่านั้น
2) เปลี่ยนเที่ยวบินเพื่อไปยังจุดหมายปลายทาง หรือจุดหมายที่ใกล้เคียงกับจุดหมายเดิมโดยเร็วที่สุดภายในวันเดียวกันหรือวันอื่น ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับความสะดวกของผู้โดยสาร และที่นั่งว่าง โดยสายการบินไม่สามารถคิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมได้ แต่ถ้าเปลี่ยนเที่ยวบินแล้วค่าโดยสารต่ำกว่าค่าโดยสารและค่าธรรมเนียมที่จ่ายไว้แล้ว สายการบินต้องจ่ายส่วนต่างคืนให้ ส่วนในกรณีที่เปลี่ยนเที่ยวบินไปยังสนามบินที่ใกล้เคียงกับจุดหมายเดิม สายการบินจะต้องจ่ายค่าใช้จ่ายในการเดินทางจากสนามบินใหม่ไปยังสนามบินที่เป็นจุดหมายเดิมให้แก่ผู้โดยสารด้วย
3) เดินทางโดยการขนส่งทางอื่นที่เหมาะสมเพื่อไปยังจุดหมายปลายทาง หรือจุดหมายที่ใกล้เคียงกับจุดหมายเดิมโดยเร็วที่สุดและไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม แต่ถ้าค่าใช้จ่ายในการเดินทางต่ำกว่าค่าโดยสารและค่าธรรมเนียมที่จ่ายไว้แล้ว สายการบินจะต้องจ่ายส่วนต่างคืนให้
3. กรณีล่าช้าเกิน 5 ชั่วโมง แต่ไม่เกิน 6 ชั่วโมง สายการบินต้องปฏิบัติต่อผู้โดยสาร ดังนี้
4. กรณีล่าช้าเกิน 6 ชั่วโมง สายการบินต้องปฏิบัติเหมือนกับมาตรการในเรื่องการยกเลิกเที่ยวบิน
5. กรณีการยกเลิกเที่ยวบิน หรือการปฏิเสธการขนส่ง สายการบินต้องปฏิบัติต่อผู้โดยสาร ดังนี้
1) รับเงินค่าโดยสารและค่าธรรมเนียมคืนเต็มจำนวน แต่ถ้าต้องการคืนเป็น Travel Vouchers หรือสิ่งอื่นแทน ผู้โดยสารต้องยินยอมก่อนเท่านั้น
2) เปลี่ยนเที่ยวบินเพื่อไปยังจุดหมายปลายทาง หรือจุดหมายที่ใกล้เคียงกับจุดหมายเดิมโดยเร็วที่สุดภายในวันเดียวกันหรือวันอื่น ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับความสะดวกของผู้โดยสาร และที่นั่งว่าง โดยสายการบินไม่สามารถคิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมได้ แต่ถ้าเปลี่ยนเที่ยวบินแล้วค่าโดยสารต่ำกว่าค่าโดยสารและค่าธรรมเนียมที่จ่ายไว้แล้ว สายการบินต้องจ่ายส่วนต่างคืนให้ ส่วนในกรณีที่เปลี่ยนเที่ยวบินไปยังสนามบินที่ใกล้เคียงกับจุดหมายเดิม สายการบินจะต้องจ่ายค่าใช้จ่ายในการเดินทางจากสนามบินใหม่ไปยังสนามบินที่เป็นจุดหมายเดิมให้แก่ผู้โดยสารด้วย
3) เดินทางโดยการขนส่งทางอื่นที่เหมาะสมเพื่อไปยังจุดหมายปลายทาง หรือจุดหมายที่ใกล้เคียงกับจุดหมายเดิมโดยเร็วที่สุดและไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม แต่ถ้าค่าใช้จ่ายในการเดินทางต่ำกว่าค่าโดยสารและค่าธรรมเนียมที่จ่ายไว้แล้ว สายการบินจะต้องจ่ายส่วนต่างคืนให้
การดูแลผู้โดยสาร ดังนี้
จ่ายค่าชดเชยเป็นเงินสดจำนวน 1,200 บาททันที ก่อนที่ผู้โดยสารจะออกเดินทาง ยกเว้นว่าสายการบินพิสูจน์ได้ว่า
ทั้งนี้ การพิสูจน์ว่าสายการบินได้แจ้งข่าวการยกเลิกเที่ยวบินให้ตกเป็นภาระของสายการบิน ในกรณีที่สายการบินต้องการจ่ายเป็น Travel Vouchers หรือสิ่งอื่นแทนค่าชดเชยจำนวน 1,200 บาท ผู้โดยสารต้องยินยอมก่อนเท่านั้น
" การชดเชยของสายการบินนั้น ผู้บริโภคจะต้องได้รับเงินค่าโดยสารและค่าธรรมเนียม หรือเงินส่วนต่าง ภายในระยะเวลาที่นับจากวันที่สายการบินได้รับเอกสารครบถ้วนแล้ว ดังนี้ 1. กรณีซื้อบัตรโดยสารด้วยเงินสดต้องดำเนินการภายใน 7 วัน 2. กรณีซื้อบัตรโดยสารด้วยเงินสดบัตรเครดิตต้องดำเนินการภายใน 45 วัน"